รอลงอาญา 1 ปี ปรับ 8 พัน “อดีตพระพรหมดิลก” อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา

รอลงอาญา 1 ปี ปรับ 8 พัน อดีตพระพรหมดิลก อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา

ส่วน “พนม ศรศิลป์ ” อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ โดนคุก 12 เดือนไม่รอลงอาญา

*****************

       วันนี้ ( 5 มี.ค.63 )  ณ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี เวลา 10.00 น. ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีทุจริตการจัดสรรเงินงบประมาณ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) สำนวนที่ 3  คดีหมายเลขดำ อท.254/2561 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 1 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง “นายพนม ศรศิลป์” อายุ 61 ปี อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.) , นายบุญเลิศ โสภา อายุ  54 ปี อดีต ผอ.กองพุทธศาสนศึกษา พศจ.ลำปาง , นายแก้ว ชิดตะขบ อายุ 54 ปี อดีตนักวิชาการศาสนาชำนาญการ กองพุทธศาสนศึกษา , นางพรเพ็ญ กิตติธรางกูร อายุ 51 ปี อดีตนักวิชาการศาสนาชำนาญการ กองพุทธศาสนศึกษา , “พระพรหมดิลก” หรือนายเอื้อน กลิ่นสาลี อายุ 75 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา/กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.)/เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เป็นจำเลยที่ 1-5

      ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ , ทำ , จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ร่วมกันเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่น โดยทุจริตหรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์สินนั้นเสีย , เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต , เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารฯ ทำการรับรองหลักฐานเป็นเท็จ , เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิดดังกล่าว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147,157,162 ประกอบมาตรา 83,86

       กรณีกล่าวหาทุจริตการจัดสรรงบในส่วนอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาประจำปีงบประมาณ 2557 วงเงิน 5 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 26 พ.ย.46 – 15 ส.ค.57 โดยอัยการโจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 22 ต.ค.61 พร้อมระบุคำขอท้ายฟ้อง ขอให้ศาลสั่งจำเลยทั้งห้า ร่วมกับนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.สำนักงาน พศ. (ตัวยังหลบหนีคดี) ชดใช้เงิน 5 ล้านบาทคืนให้สำนักงาน พศ. และให้นับโทษอดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยาในคดีฟอกเงิน หมายเลขดำ อท.196/2561 ด้วย

       โดย “พระพรหมดิลก” หรือนายเอื้อน กลิ่นสาลี อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา” ได้ประกันตัวไป  ด้วยหลักทรัพย์ 2 ล้านบาท ก็เดินทางมาศาลมซึ่งสวมชุดกางเกงขายาวเสื้อแขนสั้นสีขาว มีกลุ่มลูกศิษย์พระนับ 10 รูปและฆราวาสกว่า 10 คนมาร่วมให้กำลังใจฟังคำพิพากษา

         ส่วน “นายพนม” อดีต ผอ.พศ.จำเลยที่ 1 และกลุ่มลูกน้อง ในสำนักงานพศ.จำเลยที่ 2,3,4 ทั้งในส่วนที่ศาลไม่ให้ประกันตัว และไม่มีหลักทรัพย์เพียงพอจะยื่นประกันตัว ซึ่งปัจจุบันถูกคุมขังในเรือนจำและทัณฑสถานหญิงกลาง ศาลได้เบิกตัวจำเลยที่ 1-4 มาศาลพร้อมฟังคำพิพากษา

        ขณะที่ “ศาล” พิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์-จำเลยที่ได้ทำการไต่สวนแล้ว เห็นว่า จำเลยที่ 1-4 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 ให้จำคุกคนละ 1 ปี 6 เดือน ส่วน “อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา”  จำเลยที่ 5 มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำผิด มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 จำคุก 1 ปีและปรับ 12,000 บาท

       โดยจำเลยที่ 1, 3 , 4 ,5 ให้การเป็นประโยชน์ในชั้นพิจารณาคดีอยู่บ้างเห็นควรลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 1,3,4 คนละ 12 เดือน สำหรับจำเลยที่ 5 คงจำคุก 8 เดือนและปรับ 8,000 บาท โดยส่วนของอดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา จำเลยที่ 5 นั้นศาลเห็นว่า เคยประกอบคุณงามความดีในด้านพุทธศาสนา จบการศึกษาระดับปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยพาราณสี ประเทศอินเดียทะนุบํารุง การศึกษาด้านพระพุทธศาสนา อีกทั้งไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกนั้น จึงให้รอการลงโทษ (รอลงอาญา) ไว้มีกำหนด 1 ปี

           ส่วนจำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพในชั้นพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกไว้เป็นเวลา 9 เดือน

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ “อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา” ที่ถูกกล่าวหาคดีร่วมกันฟอกเงิน 5 ล้านบาท จากการทุจริตงบประมาณ พศ. ในส่วนอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรมทั้งที่ไม่มีการดำเนินโครงการ ในคดีหมายเลขดำ อท.196/2561 นั้น “ศาลอาญาคดีทุจริตฯ กลาง” ได้มีคำพิพากษาลงโทษไปแล้วเมื่อวันที่ 16 พ.ค.62 ให้จำคุก 2 กระทง รวม 6 ปี โดยไม่รอลงอาญา ซึ่งปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์

         ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับคดีทุจริต จัดสรรเงินงบประมาณ สำนักงาน พศ.สำนวนแรก ที่ศาลอาญาคดีทุจริตฯ กลาง ตัดสินนั้น คือคดีหมายเลขดำ อท.253/2561 กรณีเอาเงินงบประมาณ ของ พศ. ไปเป็นประโยชน์ของตน โดยใช้วัดเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดรับโอนเงินงบประมาณ ที่พนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 3 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายพนม อดีต ผอ.พศ. , นายวสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์ อดีต ผอ.ส่วนบูรณะพัฒนาวัดและการศาสนสงเคราะห์ กองพุทธศาสนสถาน พศ. , นายเจษฎา วงศ์เมฆ ฆราวาสติดต่อหาวัด , นายชรินทร์ มิ่งขวัญ ฆราวาส ทำหน้าที่ติดต่อหาวัด จำเลยที่ 1-4 ที่ให้จำคุกตั้งแต่ 1 ปี 8 เดือน – 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 กับให้ร่วมชดใช้เงินจำนวน 12 ล้านบาทด้วย

          สำนวนที่ 2 ร่วมอนุมัติเงินอุดหนุนที่อนุมัติโครงการอบรมคุณธรรม จริยธรรม 37 ล้านบาท และโครงการศูนย์กลางเผยแผ่กิจการพระพุทธศาสนา จำนวน 32.5 ล้านบาท ประจำปีงบประมาณ 2559 ให้วัดสระเกศราชวรมหาวิหารเพียงแห่งเดียวโดยมิชอบ คดีหมายเลขดำ อท.251/2561 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 2  ยื่นฟ้อง นายพนม อดีต ผอ.พศ. , นายชยพล พงษ์สีดา อายุ 64 ปี อดีตรอง ผอ.สำนักงาน พศ. , นายณรงค์เดช ชัยเนตร อดีต ผอ.กองส่งเสริมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา , นายพัฒนา สุอำมาตย์มนตรี อายุ 50 ปี อดีตนักวิชาการศาสนาชำนาญการ กองส่งเสริมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา , “พระพรหมสิทธิ ธงชัย สุขโข” หรือนายธงชัย สุขโข อายุ 64 ปี อดีตพระราชาคณะเจ้าคณะรอง/อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร/ อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม จำเลยที่ 1-5  จำคุกตั้งแต่ 3 ปี – 3 ปี 18 เดือน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 โดยส่วนของ “อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ” ศาลให้ปรับ 27,000 บาท ส่วนโทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี ซึ่งทั้งสองคดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์

        สำหรับกรณีกล่าวหาร่วมกันฟอกเงินนั้น ที่ศาลอาญาคดีทุจริตฯ กลาง ตัดสินแล้วก็มี 2 สำนวน ประกอบด้วย 1.คดีหมายเลขดำ อท.38/2561 กล่าวหาฟอกเงินจากการที่นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อายุ 61 ปี อดีต ผอ.สำนักงาน พศ. (ตัวยังหลบหนี) ทุจริตจัดสรรงบประมาณ 28 ล้านบาท ให้วัด 12 แห่งในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ , ตาก , นครสวรรค์ , ชุมพร โดยมิชอบ ซึ่งศาลลงโทษจำคุก “พระครูกิตติ พัชรคุณ” หรือนายสมเกียรติ ขันทอง อายุ 56 ปี อดีตเจ้าคณะอำเภอชนแดน จ.เพชรบูรณ์/อดีตเจ้าอาวาสวัดลาดแค  รวม 13 กระทง เป็นเวลา 26 ปี คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ โดยจำเลยไม่ได้ประกันตัว

      2.คดีหมายเลขดำ อท.196/2561 กล่าวหาฟอกเงินจำนวน 5 ล้านบาท ในงบส่วนอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรมทั้งที่ไม่มีการดำเนินโครงการ โดยเจ้าอาวาสวัดสามพระยา นำงบที่ได้มานั้นไปใช้ก่อสร้างอาคารร่มธรรมแทน ทั้งที่ไม่มีสิทธิได้รับเงินนั้นมาตั้งแต่แรก ศาลลงโทษ 2 กระทง “พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม)” หรือนายเอื้อน กลิ่นสาลี” อายุ 75 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา/เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร จำคุก 6 ปี  และ “พระอรรถกิจโสภณ”หรือนายสมทรง อรรถกฤษณ อายุ 53 ปี อดีตเลขาเจ้าคณะกรุงเทพ จำคุก 3 ปี คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ ทั้งสองได้ประกันตัวคนละ 2 ล้านบาท

       ขณะที่ วันที่ 19 พ.ค.นี้ เวลา 09.30 น. ศาลอาญาคดีทุจริตฯ กลาง กำหนดนัดฟังคำพิพากษาคดีกล่าวหาฟอกเงินทุจริตการจัดสรรงบประมาณ พศ.อีกสำนวน ที่อัยการ ยื่นฟ้อง “พระพรหมสิทธิ ธงชัย สุขโข” หรือนายธงชัย สุขโข อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ด้วย

************************

ขอบคุณข้อมูล : นสพ. คมชัดลึก

Leave a Reply