“สกสว.” ใฝ่ธรรม! นิมนต์ “พระมหาสมปอง” ร่วมบรรยาย ขณะที่ กมธ.งบฯ หนุนกองทุนวิจัยฯ ปี 64 กว่า 19,000 ล้าน
เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2563 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) โดยภารกิจพัฒนาองค์กรและทรัพยากรบุคคลจัดการบรรยายพิเศษ”ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ของบุคลากร” โดยนิมนต์พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต ร่วมบรรยายธรรมเสริมคุณธรรม จริยธรรมบุคลากร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมพัฒนาบุคลากร สกสว. ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ดำเนินการไปส่วนพัฒนาบุคลากรไปแล้ว 2 โครงการคือ 1.โครงการรณรงค์ป้องกันและปราบปรามการทุจริต และ 2.โครงการส่งเสริมธรรมาภิบาล
โอกาสนี้ รศ.ดร.อภิศักดิ์ ธีระวิสิษฐ์ รักษาการรองอำนวยการฯ สกสว. ประธานในพิธี กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่บุคลากร สกสว. ได้เรียนรู้ “ธรรมะ หรรษา” ซึ่งเป็นการเรียนรู้ธรรมะและฝึกจิตใจชาว สกสว. สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและชีวิตการทำงานผ่านการบรรยายที่เข้าใจง่าย โดยบรรยากาศตลอดการบรรยายในวันนี้เต็มไปด้วยความสนุกสนานสอดแทรกสาระธรรมะไว้มากมาย
กมธ.งบฯ หนุนกองทุนวิจัยฯ ปี 64 กว่า 19,000 ล้านบาท
รศ.ปัทมาวดี โพชนุกูล รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เปิดเผยภายหลังนำคณะผู้บริหารระดับสูงหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เข้าประชุมชี้แจงงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2564 ต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 สภาผู้แทนราษฎร ว่า ปีนี้มีมติอนุมัติงบประมาณกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุน ววน.) ราว 19,000 ล้านบาท
โดยมีแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 2563-2565 ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และผ่าน ครม. แต่ทั้งนี้ได้มีการปรับปรุงใหม่ให้สอดรับกับสถานการณ์ เป็นกรอบในการทำงานโดยเฉพาะจากวิกฤติโควิดที่ผ่านมา ที่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจประเทศ จึงจำเป็นต้องบริหารจัดการด้วยการลงทุนด้าน ววน. ในสาขาสำคัญ ได้แก่ เกษตรและอาหาร การแพทย์และสุขภาพ ซึ่งผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพสูงและยังสามารถเพิ่มมูลค่าได้อีกมาก
ดังนั้น งบประมาณกว่า 66% จะเป็นการต่อยอดงานเดิม และ 34% เป็นโครงการใหม่ มีหน่วยรับงบประมาณมากกว่า 160 หน่วยงาน ประกอบด้วย สถาบันอุดมศึกษา หน่วยงานในกระทรวง อว. หน่วยงานนอกกระทรวง อว.และรัฐวิสาหกิจ โดยแบ่งการใช้งบประมาณได้เป็น 3 ส่วน คือ ส่วนแรก ประมาณ 1 ใน 3 ใช้ในการลงทุนด้าน ววน. เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยใช้โอกาสของวิถีใหม่ (นิวนอร์มอล) ได้แก่ โครงการเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจสีเขียวและเศรษฐกิจหมุนเวียน (บีซีจี) เพื่อเตรียมการอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น การพัฒนาพลังงานชีวภาพ ยานยนต์สมัยใหม่ เกษตรสมัยใหม่และเกษตรแม่นยำ การพัฒนาระบบการแพทย์ที่แม่นยำในการรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรม เช่น โรคมะเร็ง
โครงการใหม่และจุดเน้นในปี 2564 คือ การวิจัยเพื่อผลิตวัคซีนโรคโควิด โครงการพัฒนาการแพทย์ระยะไกลด้วยระบบดิจิทัล และโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพที่ทันสมัยสำหรับวิถีใหม่ โครงการพัฒนาพลังงานทางเลือกและการเก็บพลังงาน โครงการพัฒนาวิทยาศาสตร์และวิจัยด้านเอไอ โครงการยกระดับและใช้ประโยชน์โครงสร้างพื้นฐานและระบบมาตรคุณภาพของประเทศ โครงการพัฒนาเอไอเพื่อสร้างซอฟต์แวร์และฐานข้อมูลขนาดใหญ่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพประมาณ 500 รายจะได้รับการสนับสนุน ให้ใช้ความรู้และนวัตกรรม เทศโนโลยี การบริหารจัดการสมัยใหม่ คาดว่าจะเกิดการร่วมทุนและลงทุนเพิ่มของเอสเอ็มอีด้านการพัฒนานวัตกรรมไม่ต่ำกว่า 70 ราย 100 ล้านบาท และเกิดแพลตฟอร์มใหม่ๆ ที่ผู้ประการนอกโครงการจะได้ใช้ประโยชน์ได้อีกมาก และเป็นประโยชน์ในระยะยาว ผลพลอยได้คือบัณฑิตที่ตกงานจะได้เข้าสู่ตลาดแรงงานพร้อมกับได้ฝึกทักษะใหม่
ส่วนที่ 2 ในระดับพื้นที่ คุณภาพชีวิตของประชาชนและการแก้โจทย์ท้าทายสังคม จะมีงบประมาณอีกกว่า 1 ใน 3 ที่ผสมผสานเทคโนโลยีกับมิติการจัดการทางสังคม เน้นการปรับตัวในวิถีใหม่ ได้แก่ โครงการต่อยอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมการบริหารจัดการน้ำในระดับพื้นที่และชุมชน โครงการพัฒนาคุณภาพอากาศ การจัดการขยะ โครงการสังคมสูงวัย โดยกว่าครึ่งเป็นโครงการใหม่ปี 2564 ได้แก่ โครงการความมั่นคงทางอาหาร โครงการการพัฒนาระบบสุขภาพเพื่อตอบภาวะวิกฤติและโรคอุบัติใหม่ ตลอดจนโครงการแก้ปัญหาความยากจนแบบแม่นยำโดยใช้ข้อมูลที่รัฐมี แต่จะลงสำรวจในพื้นที่เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงและออกแบบนวัตกรรมที่สอดคล้องกับครัวเรือนและชุมชน เช่น การใช้ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชน และการพัฒนาเมืองน่าอยู่ รวมแล้วจะทำงานในพื้นที่ 20 จังหวัด วิสาหกิจชุมชนประมาณ 175 ชุมชน 350 ตำบล เกษตรกร 500 ครัวเรือน และ คนจน 1000 ครัวเรือน จะได้รับประโยชน์ นักวิจัยต้อง ทำงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ที่จะต้องขยายผลต่อไป
ส่วนสุดท้ายอีก 1 ใน 3 จะใช้ในการพัฒนาคนและความรู้สู่อนาคต ประชาชนทั่วไปจะมีทักษะสมัยใหม่ ด้วยโครงการ AI for All โครงการบัณฑิตเพื่ออนาคตสนับสนุนให้นักศึกษาวิจัยทำงานกับภาคเอกชนและภาคประชาสังคม โครงการคนไทยกับโลกดิจิทัล โครงการการวิจัยแนวหน้าและวิจัยพื้นฐาน เพื่อการผลิตและเตรียมพร้อมสำหรับเทคโนโลยีแห่งอนาคต เช่น เอไอ ควอนตัม
“งบประมาณการลงทุนด้าน ววน. จะเป็นพลังต่อเนื่องในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสังคมเมื่องบเงินกู้หมดไป แต่ความรู้และนวัตกรรมที่เกิดขึ้นจะใช้ได้อย่างต่อเนื่องไปอีกหลายปี กองทุน ววน. จะสนับสนุนและทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาคการผลิตจริง เช่น กระทรวงดีอีเอสทำให้ประเทศมีทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ด้านเอไอ การทำงานกับกระทรวงศึกษาธิการในการพัฒนาพื้นที่นวัตกรรมทางการศึกษา การสนับสนุนการวิจัยของกระทรวงเกษตรฯและกระทรวงสาธารณสุขให้สามารถตอบพันธกิจของหน่วยงานได้ดีขึ้น เป็นต้น”
รศ.ปัทมาวดี กล่าวอีกว่า งบประมาณจำนวนนี้จึงถือเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ โดยเฉพาะท่ามกลางสถานการณ์โควิดและหลังโควิด โดยจะเข้าไปเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ เกิดประโยชน์กับทุกภาคส่วน ดังนั้น การจัดสรรงบประมาณให้กับหน่วยรับทุนกว่า 160 หน่วยงาน จะพิจารณาความสอดคล่องกับแผนด้าน ววน. ทำให้การจัดสรรงบประมาณมีเป้าหมายและทิศทาง กองทุนและหน่วยบริหารจัดการทุนจะตรวจสอบโครงการ ลดความซ้ำซ้อนในขณะที่บูรณาการเป้าหมายโครงการของหน่วยรับทุนต่างๆ เทียบกับเป้าหมายตัวชี้วัดผลสัมฤทธิ์ตามแผน มีระบบติดตามประเมินผล ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ เพื่อให้การใช้งบประมาณมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล เกิดความคุ้มค่าในการลงทุน
Leave a Reply