“ชาญกฤช” เผย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ห่วงใยพระสงฆ์ช่วงโควิด-19 ระบาดระลอกใหม่ ขอให้ยึดหลัก มส. ปรับศาสนกิจสู่วิถีใหม่
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ.2564 นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สำหรับพระภิกษุ-สามเณรว่า นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แสดงความห่วงใยต่อการปฏิบัติศาสนกิจของพระภิกษุ-สามเณร หลังปรากฏข่าวพระภิกษุสงฆ์ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยให้ถือเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่จะต้องปรับวิถีปฏิบัติศาสนกิจในลักษณะ New Normal โดยยึดหลักปฏิบัติตามมติของมหาเถรสมาคม (มส.) อาทิ
การงดรับกิจนิมนต์ในจังหวัดที่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 งดการจัดกิจกรรมงานบรรพชาสามเณร และงานอุปสมบท ประจำปี 2564 รวมทั้งให้งดจัดกิจกรรมทางพระศาสนาที่มีประชาชนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก เช่น การจัดงานวัด งานบุญประจำปี และงานบุญประเพณีต่างๆ ส่วนการออกบิณฑบาตหรือกิจกรรมภายในวัด การทำวัตรเช้า-เย็น การรับถวายภัตราหารหรือสิ่งของ ยังทำได้ตามปกติ เพียงแต่พระภิกษุ-สามเณร และพุทธศาสนิกชน จะต้องสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างระหว่างกัน และงดให้ศีลให้พร ขณะที่งานศพซึ่งเป็นงานที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้ดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุข แต่หากเป็นศพของผู้ป่วยด้วยโรคโควิด-19 ไม่ให้มีการเปิดศพ และให้สวดอภิธรรมจากรูปถ่ายแทน
นายชาญกฤช ยังเปิดเผยถึงการแจกจ่ายอุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 แก่พระภิกษุสงฆ์ว่า ที่ผ่านมาภาคเอกชนและประชาชนได้บริจาคแอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัยเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้กระจายแจกจ่ายไปยังวัดต่างๆ โดยให้เน้นวัดที่มีความเสี่ยงก่อน ทั้งนี้ หากพบพระภิกษุ-สามเณรมีอาการผิดปกติ ไข้ขึ้นสูง ให้รีบไปพบแพทย์หรือโทรแจ้งสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422 เพื่อขอรับข้อมูลและความช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ที่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 รัฐบาลยังไม่ได้ให้การเยียวยาคณะสงฆ์แต่อย่างใด แม้ว่าจะมีการตั้งเรื่องจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอเข้าคณะรัฐมนตรีแต่เรื่องดังกล่าวดังกล่าวก็ถูกตีตกโดยอ้่างว่าไม่ตรงตามระเบียบเงินกู้
Leave a Reply