วันนี้ (13 มี.ค.64) ณ รัฐมอญ ประเทศเมียนมา แม้สถานการณ์การเมืองจะมีการชุมนุมและประท้วงทั่วประเทศ ที่รัฐมอญคนออกมาชุมนุมน้อยกว่ารัฐอื่น ๆ
คณะสงฆ์รามัญนิกาย ซึ่งเป็นคณะสงฆ์เก่าแก่ของชนชาติพันธุ์มอญ อดีตเจ้าของดินแดนประเทศเมียนมาในปัจจุบัน มีพระภิกษุ -สามเณรทั้งหมดประมาณ 10,000 รูป วัดประมาณ 800 วัด
ทุกปีเมื่อถึงวันแรม 15 ค่ำเดือน 4 ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 13 มีนาคม 2564 จะมีการวัดผลสอบบาลีใต้องค์กรของคณะสงฆ์รามัญที่ชื่อว่า “คณะสงฆ์รามัญธรรมจริยะนิกาย” ทั่วรัฐมอญ รวมทั้งรัฐอื่น ๆที่สังกัดคณะสงฆ์รามัญนิกาย
ในบรรดาคณะสงฆ์ชนชาติพันธุ์ในประเทศเมียนมา มีคณะสงฆ์รามัญเพียงนิกายเดียวเท่านั้น ที่รัฐบาลเมียนมาเปิดโอกาสให้วัดผลสอบ และตรวจสอบด้วยคณะสงฆ์รามัญนิกายและอักษรมอญ โดยการสอบแบ่งออกเป็น 7 ระดับ ประกอบด้วย ชั้นมูละ ชั้นขุททกะ ชั้นมัชฌิมะ ชั้นมหา ชั้นธรรมจริยะ ชั้นสิริธรรมจริยะ และชั้นปาระคู
เดิมการสอบของคณะสงฆ์รามัญนิกายสอบด้วย “มุขปาฐะ” คือ สอบด้วยปากเปล่า แต่หลายปีมานี้เริ่มวัดผลสอบด้วยการเขียน
ทุกปีสนามสอบบาลีของคณะสงฆ์รามัญนิกายจ รวมตัวอยู่ที่เดียวคือ วัดศาสนา 2500 ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเมาะมะแหม่ง ซึ่งวัดแห่งนี้หากเปรียบก็เหมือน “พุทธมณฑล” ของประเทศไทย เป็นวัดที่สังกัดองค์กรที่ชื่อ “คณะสงฆ์รามัญธรรมจริยะนิกาย”
จากการสอบถาม นิสิตมอญ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พระคุณเจ้าเล่าว่า ปีนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ในเมียนมา ยังไม่น่าไว้ใจ คณะสงฆ์รามัญนิกายจึงปรึกษากันว่าควรจัดสอบอำเภอใครอำเภอมัน ประมาณ 10 กว่าสนามสอบ
“ ปีนี้คณะสงฆ์รามัญนิกายสอบบาลีประจำปีระหว่างวันที่ 13 -16 มีนาคม 2564 ทุกปีเราจัดที่วัดศาสนา 2500 แต่ปีนี้โควิดระบาด ที่ประชุมพระผู้ใหญ่จึงอนุญาตให้แต่ละอำเภอจัดการการสอบเองได้ แต่ข้อสอบมาจากส่วนกลางเหมือนประเทศไทย การวัดผลสอบของคณะสงฆ์รามัญนิกายไม่มีเหมือนประเทศไทย อาจเพราะจำนวนพระรามัญเราน้อย สอบเช้า บ่าย ๆ เราก็ตรวจเสร็จเรียบร้อยแล้ว วันที่ 16 จะรู้หมดแล้วใครได้ ใครตก และจะมีการมอบรางวัลให้แก่ผู้สอบได้ทุกปี..”
Leave a Reply