ไกล่เกลี่ยสำเร็จ! ผู้เช่าที่ธรณีสงฆ์วัดกรุงเก่า ยอมเปิดเส้นทางออกถนนพหลโยธิน

กมธ.ศาสนาฯสภา พร้อมพศจ.พระนครศรีอยุธยา รักษาการแทนเจ้าอวาส ร่วมเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ปมผู้เช่าที่ธรณีสงฆ์วัดลาดทรายไม่ยอมเปิดทางเส้นทางออกถนนพหลโยธิน เป็นผลสำเร็จ ผู้เช่ายอมเปิดทางเบื้องต้น พร้อมนำถกชั้นกรรมาธิการต่อไป

วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดลาดทราย ตำบลลำไทร อ.วังน้อยจ.พระนครศรีอยุธยา นายประดับ โพธิกาญจนวัตร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และคณะ ได้เข้าหารือกับพระฉัตรชัย อธิปญโญ รักษาการแทนเจ้าอวาสวัดลาดทราย ถึงกรณีการร้องเรียนเพื่อขอทางออถนนพหลโยธิน ของชาวบ้านโดยมีนายธวัชชัย งามเจริญพุทธศรี ได้ร้องเรียนถึงคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้หลังคณะกรรมาธิการได้มาศึกษาข้อเท็จจริงแล้ว ทราบว่ามีการเช่าพื้นที่วัดโดยนางพัฒน์ศรินทร์ ภู่ระหงษ์ เป็นผู้เช่าและปิดกั้นทางออกถนนพหลโยธิน ที่ผ่านมาได้มีการร้องเรียนไปยังหลายหน่วยงาน เช่น ศูนย์ดำรงธรรม แต่ไม่คืบหน้า

ในกรณีนี้นางพัฒน์ศรินทร์อ้างว่า ได้ให้เช่าช่วงกับบริษัทจำหน่ายรถแม็คโครไปแล้วหากมีการรื้อถอนตนอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ผู้เช่าช่วงอาจเรียกร้องค่าเสียหายต่อตนได้ ภายหลังจากใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมง ในการหารือ นางพัฒน์ศรินทร์เปิดเผยว่าที่ดินบริเวณนี้หากขายสิทธิ์ในราคาทั่วไปจะขายกันที่ 76 ตรว. ต่อเงิน 400,000 บาท ทั้งนี้ทั้งนั้นหากจะเปิดช่องผ่านที่ดินที่ตนเองให้เช่าช่วงนั้น ตนต้องรื้อถอนอาคารพาณิชย์ โดยค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างโดยประมาณคือ 2.5 ล้านบาท หากเยียวยาตามจำนวนเงินดังกล่าว ตนก็จะยินดีเปิดทางให้ ภายหลังจากเจรจากันเป็นเวลานาน นางพัฒน์ศรินทร์ได้ให้เซ็นต์เอกสารไว้เป็นหลักฐานการยินยอมให้เปิดทางออกสู่ถนนพหลโยธิน เพื่อนำเสนอในชั้นกรรมาธิการ ต่อไป

นายประดับ กล่าวว่า ปัญหาเรื่องการเช่าที่ดินนี้มีการร้องเรียนอย่างต่อเนื่อง โดยตนมาครั้งนี้ประสานทางออกให้กับวัดเพื่อหาทางออกให้กับทุกฝ่าย ตามอำนาจหน้าที่ของตน ซึ่งมีความจำเป็นต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายตามกรอบของกฎหมาย ในแง่ของข้อกฎหมายนั้นในปัจจุบันมีมติมหาเถรสมาคม และกฎกระทรวงที่วางกรอบได้ชัดเจนขึ้น ช่วยให้วัดได้ประโยชน์มากขึ้น อีกทั้งยังเสริมความปลอดภัยให้กับพระภิกษุที่จะต้องอยู่ในกรอบพระธรรมวินัย ให้ปลอดภัยจากการกระทบกระทั่งกับประชาชนในพื้นที่กับพระสงฆ์ และทำให้พระอยู่เป็นที่พึ่งและศูนย์รวมใจให้กับญาติโยมดังในอดีต ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจมีช่องโหว่บ้าง ตนจะนำจุดอ่อนเพื่อนำเสนอในชั้นกรรมาธิการต่อไป

พระฉัตรชัย อธิปญโญ กล่าวว่า อาตมาได้เข้ามารักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดลาดทราย ทั้งนี้ต้องเรียนตามตรงว่า เป็นความลำบากของพระสงฆ์ที่มาบวชเพื่อถวายชีวิตให้กับพระพุทธเจ้าและพระพุทธศาสนา มีเป้าหมายคือตัดกิเลสมีพระนิพพานเป็นที่ไป แต่ด้วยเงื่อนไขในการดำรงความเป็นพระสงฆ์ในปัจจุบันที่มีหน้าที่และอำนาจการปกครองทำให้พระสงฆ์จะต้องมีภาระมากขึ้น ด้วยตนเป็นพระเล็กๆ ที่อยู่วัดต่างจังหวัด ในบางครั้งต้องอดทนและต่อสู้กับปัญหาต่างๆ มากมาย แต่ก็ยึดหลักที่ว่า “ชีวิตนี้ถวายกับพระพุทธเจ้า” โดยยึดหลักความถูกต้องและความเป็นธรรมเป็นที่สุด ถ้าทำดีแล้วแม้จะเอาชีวิตเป็นเดิมพันเพื่อถวายกับพระศาสนาตนก็ยอม

พระฉัตรชัย กล่าวด้วยว่า อาตมาขออนุโมทนาที่ทาง ดร.เพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล รองประธานกรรมาธิการการศาสนาฯ และคณะ รวมถึงผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และนายสิปปวร แก้วงาม ผู้ตรวจการสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่ให้การประสานงานและช่วยเหลือ วัดเล็กๆ อย่างวัดอาตมาเป็นอย่างมาก

Leave a Reply