วันที่ 9 ก.ย.2562 พระเมธีธรรมาจารย์(เจ้าคุณประสาร) รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้กำหนดจัดงานครบ 132 ปีแห่งการสถาปนามหาวิทยาลัยระหว่างวันที่ 12 -13 ก.ย.2562 นี้
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระองค์ทรงสถาปนามหาธาตุวิทยาลัยขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2430 ที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นที่เล่าเรียนของพระสงฆ์ฝ่ายมหานิกายและคฤหัสถ์ และเมื่อปี พ.ศ. 2439 ได้พระราชทานเปลี่ยนนามมหาธาตุวิทยาลัยเป็น มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติยศของพระองค์
คณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย จำนวน 57 รูป โดยพระพิมลธรรม (ช้อย ฐานทตฺตมหาเถร)ได้ประชุมพระมหาเถรานุเถระ ณ ตำหนักสมเด็จพระสังฆราช วัดมหาธาตุฯ เพื่อดำเนินการจัดการศึกษาในรูปแบบมหาวิทยาลัย ตามพระราชปณิธานของพระองค์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จึงได้เปิดการศึกษาในรูปแบบมหาวิทยาลัย ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2490 เป็นต้นมา และประกาศให้มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ดำเนินการจัดการศึกษาพระไตรปิฎกและวิชาชั้นสูงในระดับมหาวิทยาลัย และเปิดสอนระดับปริญญาตรี คณะพุทธศาสตร์ เป็นคณะแรกและต่อมาในปี 2505 จึงได้เปิดสอนคณะคุรุศาสตร์ และคณะเอเชียอาคเนย์ เป็นต้น
มีนิสิตรุ่นแรกที่สำเร็จการศึกษาหลักสูตร 4 ปีจำนวน 6 รูป มีพิธีประสาทปริญญาครั้งแรก ณ พระอุโบสถวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กทม โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปลด กิตฺติโสภณมหาเถร) เป็นองค์ประธานมอบปริญญา มีจอมพล ป. พิบูลย์สงคราม นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้นเข้าร่วมพิธีด้วยภายในพระอุโบสถ
และในวันที่ 12 -13 ก.ย. 2562 นี้ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยครบ 132 ปีแห่งการสถาปนา คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย จึงกำหนดจัดงานเพื่อเป็นการฉลอง เพื่อการบำเพ็ญอุทิศพระราชกุศลถวายแด่พระองค์ผู้ทรงสถาปนา และยังมีงานทางด้านวิชาการระดับนานาชาติพร้อมทั้งการ ระดมทุนจากทุกภาคส่วนเพื่อเข้ากองทุนพัฒนามหาวิทยาลัยอีกด้วย
โดยวันที่ 12 ก.ย.ภาคเช้า พระธรรมปัญญาดี นายกสภามหาวิทยาลัย มจร จะเป็นประธานในพิธีเปิด พระราชปริยัติกวี อธิการบดี มจร ปาฐกถาพิเศษเรื่อง เหลียวหลัง แลหน้า สืบสานต่อยอด เป็นการมองจากอดีตตั้งแต่ยุค พระพิมลธรรม(ช้อย) สมเด็จพระพุฒาจารย์(อาจ) สมเด็จพระพุฒาจารย์(เกี่ยว)สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ปอ.ปยุตฺโต)พระราชรัตนโมลี(นคร) พระพรหมบัณฑิต,ศ.ดร. กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค 2 เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส อดีตอธิการบดี มจร มาจนถึงยุคปัจจุบันและจะสานต่อและต่อยอดกันอย่างไรต่อไป
“สำหรับการอภิปรายทางด้านวิชาการนั้น จะมีทั้งภาคภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยจะมุ่งเน้นและการนำผลไปสู่ภาคปฏิบัติเพื่อใช้สำหรับการจัดการศึกษาเพื่อ”ความเป็นเลิศทางด้านวิชาการทางพระพุทธศาสนา”โดยผู้ทรงคุณวุฒิ เช่น พระเทพปวรเมธี รองอธิการบดี มจร พระเมธีวชิโรคม หรือ พระว.วชิเมธี พระมหาสมบูรณ์ วุฑฺฒิกโร คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส ผู้อำนวยการหลักสูตรสันติศึกษาและวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ ศ.ดร.บุญทัน ดอกไธสง รศ.ดร.สุรพล สุยะพรหม รองอธิการบดี มจร รศ.ดร.ชลวิทย์ เจียจิตต์ คณบดีคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ(มศว) เป็นต้น” พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าวและว่า
“และเวลา 18.00น. มีพิธีสติภาวนาเพื่อการรู้ ตื่น และเบิกบาน โดยพระพรหมมงคล (ทอง สุมังคลมหาเถร) วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร จ.เชียงใหม่ จึงขอเชิญชวนศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน ผู้ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์ และเข็มเกียรติคุณจากมหาวิทยาลัย รวมทั้งผู้ให้การอุปถัมภ์ ผู้มีอุปการคุณทุกท่านเข้าร่วมงานและร่วมกันบริจาคเพื่อระดมทุนในกองทุนพัฒนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และขอกราบนิมนต์และเรียนเชิญผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ นิสิต และศิษย์เก่าทุกรุ่น ร่วมกันเขียนคำอวยพร หรือความประทับใจ สิ่งที่อยากบอกกับมหาจุฬา ในโอกาสครบรอบ 132 ปี ได้ที่ https://padlet.com/dhawara_bhu/apxs11q7apa9
Leave a Reply