วันก่อนเจอการแต่งฉันท์ของ “พระมหาเอื้อน หาสธมฺโม ป.ธ.9, Ph.D” หรือ “อดีตพระพรหมดิลก” อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา และอดีตกรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ได้ชื่อว่าเป็น “กระบี่มือหนึ่ง” ของแผ่นดิน ในการแต่งฉันท์ แต่งคาถาเนื่องในวาระสำคัญต่าง ๆ ของประเทศ หลังจากท่านประสบ “วิบากกรรม” สังคมสงฆ์และชาวพุทธไม่ใคร่ได้เห็นการแต่งคาถาจากพระคุณเจ้ารูปนี้เลย
“หลวงพ่อเอื้อน” ท่านแต่งขึ้นสืบเนื่องมาจากวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว วันที่ 28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2564 ที่ผ่านมา แต่งคาถาถวายพระพรชัยมงคลทั้งภาษาบาลีและพร้อมแปลให้เสร็จสรรพ
“เปรียญสิบ” เป็นผู้มีวาสนาน้อย ในชีวิตมิเคยได้เข้าพบกราบท่านเลย เคยเจอครั้งเดียวที่หอประชุมพุทธมณฑล เพียงแค่กราบ พร้อมกับมีคนแนะนำว่า เราเป็นนักข่าว
ท่านพูดเพียงสั้น ๆว่า “อาตมาพูดได้เฉพาะการศึกษาบาลีเท่านั้น” หากต้องการจะสัมภาษณ์ก็ยินดี จบแค่นั้น
ปีนี้หลวงพ่อเอื้อนอายุ 76 ปี ถือว่าเป็น “พระชรา” รูปหนึ่ง ที่มีคุณูปการต่อประเทศชาติและพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ “การศึกษาพระบาลี”
วัดสามพระยา เมื่อไม่มี “หลวงพ่อเอื้อน” สั่งการดูแลควบคุม ยุคนี้ “เหมือนไฟมอด” ไปหมดแล้ว กระทบต่อความมั่นคง ความเจริญก้าวหน้า ในการศึกษาบาลีของคณะสงฆ์ไทย อย่างหลีกเลี่ยงมิได้
เพราะ!! วัดสามพระยา คือ “ตักศิลา” ศูนย์กลางในการศึกษาบาลี ที่ “สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์” หรือ สมเด็จฟื้น ท่านวางรากฐาน ปูฐานเอาไว้
ช่วงเข้าพรรษาแบบนี้หากหลวงพ่อเอื้อนไม่ถูก “มารศาสนา” เข้ามาทำลาย ไม่ถูก “การเมืองสงฆ์” เล่นงาน ปานนี้สำนักเรียนบาลีวัดสามพระยา คับคั่ง ครึกครื้น เต็มไปด้วย พระนักการศึกษาบาลีระดับเปรียญเอกคือ ประโยค 7-9 เดินทางทยอยมาขออาศัยวัดสามพระยา เพื่อเรียนบาลีเรียนบาลีแบบ “อยู่ฟรี กินฟรี” ปีหนี่งนับร้อยรูป
เมื่อสิ้น “พระพรหมดิลก” เหลือแต่ “หลวงพ่อเอื้อน” สำนักเรียนวัดสามพระยา “แทบร้าง”
ทุกวันนี้ยังมองไม่เห็นประโยชน์อะไรเลยจากการที่ หลวงพ่อเอื้อน ถูกจับติดคุก ถูกถอดสมณศักดิ์ และถูกปลดจากตำแหน่งเจ้าอาวาส
นอกจาก..เห็นแต่ความเสื่อมถอยของการศึกษา “พระบาลี” ที่คณะสงฆ์ไทยเชื่อว่า มันคือแก่นแท้ในการรักษา สืบทอด พระพุทธศาสนา
นอกจาก..เห็นแต่รอยปริ รอยร้าว ระหว่างคณะสงฆ์ด้วยกันเอง
“วัดสามพระยา” หลังสิ้นบารมี “หลวงพ่อเอื้อน” ก่อให้เกิดความซบเซามิใช่เฉพาะแค่ “การศึกษาบาลี” เท่านั้น
รวมถึงกระทบต่อกิจการคณะสงฆ์ ในการปลุกเปลี่ยนให้ตื่นรู้ “พระสังฆาธิการ” ในเรื่องการเดินหน้ากิจการพระพุทธศาสนาด้วย
เสียดายวันนี้วัดสามพระยา ไม่มี “พระพรหมดิลก” เสียดายวันนี้ “พระมหาเอื้อน” ในวัย 76 ปี มิได้เป็น “เจ้าอาวาส”
หวังว่า..วันหนึ่งกรรมดีที่ท่านก่อ ความดีที่ทำท่าน ฟ้าคงเปิดสักวัน??
………………………..
คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง
โดย “เปรียญสิบ”
Leave a Reply