วันที่ 11 ธ.ค. 64 หลังจากเสาหลักแห่งวัดสร้อยทอง พระอารามหลวง พระธรรมปริยัติโสภณ (จัด โกวิโท) มรณภาพลงเมื่อวันที่ 28 พ.ค.2563 ทำให้วัดสร้อยทอง จำต้องมีเจ้าอาวาสรูปใหม่ ซึ่งจนกระทั้งบัดนี้ยังไม่มีรูปใดได้รับโปรดเกล้า ฯ ให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสยังเป็นทางการ ปล่อยให้วัดหลวงหลายวัดตกอยู่ในสภาพ “ไร้หัว” ดังเช่นวัดสร้อยทองแห่งนี้ทั่วประเทศ
วัดสร้อยทอง เป็นสำนักเรียนบาลีที่มีชื่อเสียงของคณะสงฆ์ มีพระภิกษุ -สามเณรไปอาศัยเรียนอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้ง อดีตพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ อดีต พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต ซึ่งทั้ง 2 ท่านได้ลาสิกขาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในขณะที่ล่าสุดเมื่อวานนี้ พระมหา ดร. สมพงษ์ รัตนวํโส ซึ่งถือว่าเป็นคู่หู มหาสมปอง ได้ลาสิกขาเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย
ผู้สื่อข่าว “Thebuddh” ได้สอบถามจากแหล่งข่าวท่านหนึ่ง เปิดเผยว่า มีข่าวว่า หลังจากเกิดความเห็นไม่ตรงกันระหว่างอดีตพระมหาที่ลาสิกออกไปกับพระเถระชั้นผู้ใหญ่ มีการตั้งคณะกรรมการภายในวัดเพื่อจัดการเรื่องนี้ ซึ่งได้ข้อสรูปว่า ขอให้พระมหาทั้ง 3 รูปย้ายออกจากวัดสร้อยทอง ซึ่งประเด็นนี้ก็อาจเป็นไปได้ว่าทั้งมหาไพรวัลย์ และมหาสมปอง ตาลปุตฺโต ไม่ยอมย้ายวัด เพราะหากย้ายไป อาจหาวัดอยู่ได้ยาก จึงเลือกทางเดินด้วยการสึก ส่วน ดร.พระมหาสมพงษ์ น่าจะโดนหางเลขไปด้วย
“ภายในวัดเอง ก็มีพระผู้ใหญ่บางรูป ไม่ค่อยปลื้มมหาที่ลาสิกขาออกไป เพราะมองว่าไม่ได้ช่วยงานวัดอะไร สังฆกรรมภายในวัดก็ไม่ค่อยได้เข้าร่วม มันหลาย ๆ อย่างปนกัน แต่ถึงอย่างไรเสียเป็นที่น่าเสียดายว่าคณะสงฆ์เราไม่สามารถรักษาคนเก่งไว้ได้ ตรงนี้คงต้องเป็นการบ้านให้คณะสงฆ์ต้องขบคิดกันว่าจะทำอย่างไร เลือดคนรุ่นใหม่ คนมีคุณภาพจะได้ไม่ไหลออก ยุคนี้มันมีทางเลือกเดินของพระภิกษุสามเณรมากไม่เหมือนยุคก่อน เรื่องนี้คณะสงฆ์อย่าปล่อยแล้วปล่อยเลย..”
แหล่งข่าวยังระบุต่ออีกว่าสาเหตุการลาสึกขาเป็นดั่งข่าวที่ว่าจริงหรือไม่ คนที่รู้คำตอบได้ดีที่สุดคือ มหาทั้ง 3 รูปที่สึกออกไปนั่นเอง.
ภาพ: tvpoolonline.
Leave a Reply