“กมธ.ศาสนาฯสภาฯ ลงพื้นที่ ถกงบฯสร้างพุทธมณฑลอุทัยธานี

วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม 2565 เวลา 09.00 น. ที่พุทธมณฑลอุทัยธานี นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล รองประธานกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายนพดล แก้วสุพัฒน์ ที่ปรึกษากรรมาธิการ นายทองแดง เบ็ญจะปัก กรรมาธิการ และคณะ ได้เข้าร่วมประชุมกับเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อศึกษาดูงานเกี่ยวกับการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา ของคณะกรรมการศาสนาฯ โดยนายเพชรวรรต กล่าวว่าจากมติ ครม. เมื่อปี 2547 ได้มติให้จัดสร้างพุทธมณฑลทุกจังหวัด รวมถึงได้มีมติจากมหาเถรสมาคมด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ คณะ กมธ. จึงได้เข้ามาติดตามความคืบหน้า ในจังหวัดอุทัยธานี สุพรรณบุรี และชัยนาท

ด้านนายอลงกต วรกี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี กล่าวว่า สำหรับจังหวัดอุทัยธานี เนื่องจากเป็นจังหวัดเล็ก งบประมาณค่อนข้างน้อย โครงการส่วนใหญ่ได้จัดสนับสนุนเพื่อประชาชนในด้านอุปโภค บริโภค ด้านการเกษตร โครงการโดยหลักจะมุ่งเน้นในการสร้างถนน ปรับปรุงเรื่องน้ำ การสนับสนุนจากสภาจังหวัดอาจจะไม่มีงบเพียงพอในการพัฒนาพุทธมณฑล อีกทั้งยังมีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณเนื่องจากพุทธมณฑลอุทัยธานีจัดซื้อโดยมูลนิธิไม่ได้เป็นหน่วยงานราชการ จึงอาจจะต้องหาวิธีแก้ปัญหาต่อไป

ด้านพระราชอุทัยโสภณ เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี กล่าวว่า ขณะนี้ที่ดินของพุทธมณฑลอุทัยธานี หลังจากที่ได้มีการระดมทุนจากพุทธบริษัทภายในจังหวัดและภายนอก เมื่อปี 2554 ได้ที่ดินมาจำนวน 160 ไร่ ขณะนี้ได้ถมดินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ได้ระดมทุนเพื่อจัดสร้างวิทยาลัยสงฆ์ ซึ่งเมื่อสร้างเสร็จทางคณะสงฆ์จังหวัดอุทัยธานี ได้ทูลเชิญสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อที่จะมาเปิดอาคาร สำหรับที่ดินได้จัดสรรแบ่งส่วนมอบให้ มจร. จำนวน 99 ไร่

นายเพชรวรรต กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการมาติดตามการสร้างพุทธมณฑลอุทัยธานีในครั้งนี้ก็เพื่อจะศึกษาข้อมูลเพื่อนำเสนอสภา ทั้งนี้ได้ทราบมาว่า สำหรับข้อจำกัดในการสนับสนุนจากภาคราชการ เมื่อที่ดินเป็นของ มจร. และใช้งบประมาณของภาครัฐก็จะไม่ขัดระเบียบอะไร ทั้งนี้จะมีงบประมาณในปี 2564 ที่ผ่านมาได้งบประมาณในการสร้างอาคารสำนักงานอาคารการเรียนการสอนจำนวน 130 ล้านบาท ในเบื้องต้นในความคิดเห็นส่วนตัวหากพุทธมณฑล ดำเนินด้วยการศึกษา ด้วย มจร. และสนับสนุนเศรษฐกิจพอเพียงโดยโครงการโคกหนองนา ก็จะทำให้พุทธมณฑลที่จะเป็นเหมือนเมืองของพุทธศาสนา สามารถสร้างความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งนี้อาจมีการผลักดันให้สำนักงานพระพุทธศาสนาประจำจังหวัดมาประจำที่พุทธมณฑล

จากนั้นเวลา 15.00 น. คณะกรรมาธิการศาสนาฯ ได้เข้ากราบพระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินันโท) เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์ ที่ บริเวณพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ (หลวงพ่ออู่ทอง) พุทธมณฑลประจำจังหวัดสุพรรณบุรี เขาทำเทียม อำเภออู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เพื่อศึกษาดูงานพุทธมณฑลสุพรรณบุรี

Leave a Reply