ในขณะที่ “อนุชา” รัฐมนตรีที่ดูแลสำนักงานพุทธฯ ชี้แจงว่า กรณีการพัฒนาที่ดินศาสนสมบัติกลางเฉลิมโลก ความจริงเป็นการทำสัญญาเช่าที่ดิน เพื่อปรับปรุงพัฒนาสิ่งปลูกสร้างศาสนสมบัติกลาง โดยเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ในอดีต ในปี 2556-2557 ไม่ได้เกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดปัจจุบัน จึงไม่สามารถสืบได้แน่ชัดว่าการทุจริตเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนไหน แต่ในรัฐบาลปัจจุบันได้มีการต่อรองให้รัฐบาลได้รับผลประโยชน์เพิ่มขึ้น เพราะสัญญาเดิมที่ทำไว้เมื่อปี 2556 รัฐบาลในขณะนั้นทำสัญญาให้เช่าที่ดินเป็นเวลาถึง 70 ปี แต่เมื่อปี 2562 สัญญาเหมือนเดิม ต่างกันตรงที่ตัดคำว่าให้มีการต่ออายุเช่าที่ดิน 30 ปีออกไป??

จบเห่!! เมื่อข้อมูล “นักการเมือง” ออกมาแบบนี้ ใครจะต้องรับผิดชอบ ใครจะกล้าตามต่อ เพราะบรรดา 3 คนที่ไปยื่นให้ตรวจสอบที่กระทรวงยุติธรรม มีบางราย “ถูกหิ้ว” ยัดคดีเก่าให้ ไม่กล้าขยับต่อ “เปลืองตัว”

“เปรียญสิบ” เชื่อว่าเรื่องนี้พัวพันหลายฝ่ายทั้งพระคุณเจ้าระดับ “สมเด็จ” ที่ดูแลศาสนาสมบัติกลาง ทั้งคนในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทั้งบริษัทเอกชนที่เข้าไปร่วมพัฒนาตลาดเฉลิมโลก

ดีไม่ดีมี “นักการเมือง” ในยุคก่อนปี 2557 เข้าไปพัวพันด้วย??

ความจริงอยากให้ “นิยม เวชกามา” ลุยต่อ…หากรักพระพุทธศาสนาจริง อยากปกป้องสมบัติของชาติ สมบัติของศาสนาจริง ต้องกล้ายื่นให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ หรือ กมธ.ปปช.รัฐสภาร่วมตรวจสอบด้วยก็ได้

เพราะเรื่อง “ศาสนสมบัติกลาง” นี้เป็นเรื่องใหญ่ ที่ทุกฝ่ายควรออกมาปกป้อง ออกมาตรวจสอบ ลองไปดูสิว่า ศาสนสมบัติกลาง ตอนนี้ใครดูแล มีการดูแลจัดการอย่างไร ไปร่วมกันกางดูสัญญาว่าเป็นอย่างไร แม้แต่สมบัติวัด ที่ดินวัดก็เหมือนกัน วัดใหญ่ๆมีที่ดินที่ญาติโยมถวายให้แทบทั้งนั้น หรือแม้กระทั้งมูลนิธิมหามกุฎฯ ก็มีน้อยเสียเมื่อไร ลองไปร่วมตรวจสอบสัญญากันหน่อยสิว่า เป็นอย่างไร!!

แต่เรื่องนี้เชื่ออาตมาเถอะหากไปตรวจจริง..ก็เจอตอ!!

……………….

คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง

โดย….“เปรียญสิบ” : [email protected]