สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีเททองหล่อรูปเหมือน  “พระราชญาณมงคล (เสน่ห์ ปภงฺโร ป.ธ.5)”

วันที่ 25 ก.ค. 65  วานนี้ เวลา 15.00 น. ที่วัดปรมัยยิกาวาส วรวิหาร ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีเททองหล่อรูปเหมือนขนาดเท่าองค์จริง “พระราชญาณมงคล (เสน่ห์ ปภงฺโร ป.ธ.5)” อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลเกาะเกร็ด อดีตเจ้าอาวาสวัดปรมัยยิกาวาส วรวิหาร โดยมี พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี คุณปรมาภรณ์ พิบูลย์ชัยมงคล หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และพุทธศาสนิกชน ร่วมในพิธี

โอกาสนี้ เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พระครูพิพิธเจติยาภิบาล เจ้าอาวาสวัดปรมัยยิกาวาส วรวิหาร นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก และคุณปรมาภรณ์ พิบูลย์ชัยมงคล เข้าถวายสักการะ จากนั้น นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทวงมหาดไทย จุดเครื่องทองน้อยหน้ารูป พระราชญาณมงคล เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล พระสงฆ์ให้ศีล เจริญพระพุทธมนต์ (ภาษารามัญ) พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก จุดเทียนขันน้ำมนต์ในมณฑลพิธี และรูปพระราชญาณมงคล คุณปรมาภรณ์ พิบูลย์ชัยมงคล จุดเทียนพระสงฆ์นั่งปรกอธิษฐานจิตทั้ง 8 รูป จบแล้ว เป็นการถวายไทยธรรมแด่พระสงฆ์ กรวดน้ำรับพร  เสร็จแล้ว เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เททองหล่อรูปเหมือน พระราชญาณมงคล พร้อมด้วย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี คุณปรมาภรณ์ พิบูลย์ชัยมงคล และเจ้าภาพแต่ละเบ้าทอง พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์เจริญชัยมงคลคาถา เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ พร้อมทั้งโปรยข้าวตอก – ดอกไม้ กราบลาพระรัตนตรัย เป็นอันเสร็จพิธี

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า พระราชญาณมงคล (เสน่ห์ ปภงฺกโร) มีนามเดิมว่า เสน่ห์ นามสกุล แดงเฟื่อง เกิดเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2493 บ้านเลขที่ 28 ม.6 ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นบุตรของนายฉ่ำ และนางสนั่น แดงเฟื่อง เมื่อสำเร็จการศึกษาชั้นปีที่ 4 เข้าพิธีบรรพชา เมื่ออายุ 12 ปี ที่วัดใหญ่สว่าง อารมณ์ ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี วันที่ 4 ก.ค. 2505 โดยมีพระนันทวิริยาจารย์ (กุหลาบ ธมฺมวิริโย) เจ้าคณะอำเภอปากเกร็ด เป็นพระอุปัชฌาย์ ครั้นอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2513 ที่วัดเสาธงทอง ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยมีพระไตรสรณธัช (มาลัย ปุปผทาโม) วัดปรมัยยิกาวาส เป็นพระอุปัชฌาย์, พระใบฎีกาจำปี วัดโปรดเกษ ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูใบฎีกาพร้อม วัดเสาธงทอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ มุ่งศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2527 สอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค เป็นนักธรรมชั้นเอก ต่อมาในปี พ.ศ. 2536 เป็นพระครูสัญญาบัตร รองเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ชั้นเอก ที่ พระครูวิมลธรรมาภรณ์, พ.ศ. 2538 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดปรมัยยิกาวาสวรวิหาร, พ.ศ.2541 เป็น พระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสพระอารามหลวง ชั้นเอก ในราชทินนามเดิม และเป็นเจ้าคณะตำบลเกาะเกร็ด, 5 ธันวาคม พ.ศ. 2547 เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญ ที่ พระสุเมธมุนี และ 5 ธันวาคม พ.ศ.2559 เป็น พระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชญาณมงคล โสภณศาสนกิจ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี พระราชญาณมงคล (เสน่ห์ ปภงฺกโร)  หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “เจ้าคุณเสน่ห์” เป็นพระเกจิที่ชาวบ้านเชื้อสายไทย-มอญ ที่อาศัยอยู่ในบริเวณเกาะเกร็ด ให้ความศรัทธาเป็นอันมาก ตลอดระยะเวลาที่เป็นเจ้าอาวาสวัด ได้จัดระเบียบการปกครองวัด พระภิกษุ สามเณรทุกรูปต้องปฏิบัติตนตามพระธรรมวินัย และกฎมหาเถรสมาคม ในด้านการเผยแผ่ธรรม ใช้ธรรมะกล่อมเกลาชาวบ้านให้ดำรงตนด้วยความสุจริต มิให้ลุ่มหลงมัวเมาในอบายมุข ใช้ชีวิตอย่างสมถะและพอเพียง จนรับการยกย่องให้เป็นพระนักพัฒนาที่พึ่งของชาวบ้านมีจิตที่เปี่ยมด้วยความเมตตา อุทิศตนรับใช้พระพุทธศาสนาอย่างมุ่งมั่น เป็นพระสงฆ์สุปฏิปันโนผู้ปฏิบัติดีและมีความรู้ในภาษามอญที่สำคัญอีกท่านหนึ่งของประเทศไทย

“การประกอบพิธีเททองหล่อรูปเหมือนขนาดเท่าองค์จริง “พระราชญาณมงคล (เสน่ห์ ปภงฺโร ป.ธ.5)” ในครั้งนี้ เกิดจากศรัทธาอันแรงกล้าของพุทธศาสนิกชนที่ได้รับความเมตตาจากท่านเจ้าคุณที่เมื่อครั้งท่านยังมีชีวิตอยู่ได้สร้างคุณงามความดี จนเกิดเป็นความเลื่อมใสศรัทธาจนสืบมาแก่คนรุ่นหลัง บรรดาคณะศิษยานุศิษย์และสาธุชนจึงร่วมทรัพย์ ร่วมแรง ร่วมใจ กันสร้างรูปหล่อหลวงพ่อท่านเจ้าคุณเสน่ห์ เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้ประชาชนที่มีความเคารพศรัทธาได้กราบไหว้บูชาเพื่อเป็นสิริมงคล” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย

Leave a Reply