ช่วงค่ำวันนี้ (13 เม.ย64 ) ปรากฎภาพแชร์ว่อนสื่อออนไลน์ว่า “อดีตพระพรหมสิทธิ”   อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ กรรมการมหาเถรสมาคม ได้เดินออกจากพระอุโบสถ โดยมีการกลับ “ห่มผ้าเหลือง” เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับอดีตพระภิกษุวัดสระเกศอีก 2-3 รูป เช่น นายบุญทวี คำมา  “อดีตพระศรีคุณาภรณ์” อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ,  นายเทอด วงศ์ชอุ่ม  “อดีตพระราชกิจจาภรณ์” หรือเจ้าคุณเทอด อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ, ที่ก่อนหน้านี้ทั้งหมดมีการ “นุ่งขาวห่มขาว”  วันนี้กลับมาห่มจีวรอีกครั้ง  และที่ผ่านมาทั้งหมดถูกตั้งข้อกล่าวหา “เงินทอนวัด” เช่นเดียวกัน

       ในขณะที่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่  23 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น กรณีเงินทอนวัด อดีตพระพรหมสิทธิ วัดสระเกศ ว่า จำเลยสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติการกระทำความผิดตามมาตรา 157 ฐานะเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ด้วยการเบิก-จ่าย งบประมาณผิดระเบียบขั้นตอนที่สำนักงบประมาณกำหนดไว้

         และ ผิดตามมาตรา 86 เป็นผู้สนับสนุนให้เกิดการกระทำความผิด ด้วยเหตุที่ท่านเป็นพระผู้ใหญ่ มีตำแหน่งทางการปกครองคณะสงฆ์ ควรที่จะตรวจสอบที่มาของงบประมาณ ว่าถูกต้องตามระเบียบงบประมาณหรือไม่ แต่กลับไม่ตรวจสอบ

          ศาลอุทธรณ์พิพากษา งบประมาณที่ได้รับ มีการใช้จ่ายในโครงการถูกต้องทั้งหมดแล้ว ตามที่เสนอของบประมาณ ไม่มีการทุจริตให้เป็นผลประโยชน์ส่วนตนหรือบุคคลอื่น จึงไม่ต้องคืนเงินงบประมาณ

       ถึงแม้จะให้ลงโทษว่า เป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แต่เป็นความผิดไม่ร้ายแรง โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ (รอลงอาญา) เป็นเวลา  2 ปี และปรับ 36,000 บาท

         การหวนสูู่ “ผ้าสาวพัสต์” อีกครั้งของอดีตพระพรหมสิทธิ เป็นสิ่งที่น่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากอดีตพระพรหมสิทธิถือว่าเป็น “พระหัวก้าวหน้า” และมีบารมีทั้งวงการคณะสงฆ์และทางสังคม ต่อจากนี้ไปจะเกิดแรงกระเพื่อมอะไรตามอีกหรือไม่ โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลที่คัดค้านการกลับมาห่มจีวรทั้งจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติที่ก่อนหน้านี้เคยคัดค้านการกลับมาห่มจีวรของ “อดีตพระพรหมดิลก” อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา และรวมทั้งบุคคลอื่น ๆ