ฮั่นแน่!! ว่าด้วย “ผอ.พศ.” ห้ามพระ “เล่นหวย”

ฮั่นแน่!!  อินทพร ณ ศาลายา หลังจากเจียมเนื้อเจียมตัว ซุ่มเก็บตัวเงียบมานานนับแรมปี หลังได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็น “ผอ.พศ.” ได้ไม่กี่วัน “ตบเปรี้ยง” ส่งสัญญาณถึง “พระชอบเสี่ยงโชค” ทำนองว่า หากพระอยากเสี่ยงโชค ชอบเล่นหวยต้อง “สึกออกมา”  เห็นเค้าลางอดีต “ผอ.พศ.” คนผอมตัวเล็กในตำนานโผล่มาลาง ๆ อย่างไรไม่รู้??

แหม่!! อินทพร จั่นเอี่ยม หากคิดแบบนี้พระจำนวนเกือบ 3 แสนรูป คงต้องสึกออกมาไม่ต่ำกว่า 1 แสนรูป โดยเฉพาะ “พระเมือง -พระบ้าน” ดีไม่ดีลามถึง  “มส.” บางรูปด้วยซ้ำไป  เพราะสิ่งนี้แม้จะไม่เหมาะกับ “สมณเพศ” แต่มันคือ วิถีชีวิตของคนไทย ผอ.พศ. คงไม่รู้ว่าอดีต พระภาคใต้เลี้ยงวัวชน ภาคกลางเลี้ยงไก่ชน ภาคเหนือบางวัดประชันฝีมือดนตรีไทย ภาคอีสานพระบรรเลงเป่าแคนใส่กัน อันนี้ถือ “วิถีชีวิต” เจ้ากูแต่ละภาค ถามว่าพระท่านเหล่านี้ท่านรู้ไหมว่า “ผิด” ย่อมรู้ดี..แต่มันเพียงเป็นอาบัติ “ลหุโทษ” เหมือน พระเล่นหวยนั่นแล!! ชาวบ้านเขาเข้าใจและศรัทธา ไม่มองเรื่องเล็ก ให้เป็นเรื่องใหญ่ เหมือน “คนเมือง” มีการศึกษาดี ดังคนกรุง คนเมืองดัดจริตมองพระ “ต้องเป๊ะ” ทุกระเบียดนิ้ว ทั้ง ๆที่ตัวเอง พยายามหาช่องทางเอาเปรียบสังคม กดโกง ทุจริตทุกรูปแบบเพื่อให้รวย มีหน้ามีตาในสังคม!!

ถ้าถามว่าสิ่งที่ “ผอ.พศ.” ว่ามาโดยหลักพระวินัย วิถีแห่งสมณเพศ ถูกต้องไหม..ใช่ถูกต้อง

เรื่องแบบนี้อีก 100 ปีก็แก้ไม่ได้เพราะมันถือวิถีแห่งโลก ยุคนี้เว้น..พระสายป่า สายกรรมฐานเท่านั่น “อาจไม่มีเล่น” สายพระ วัดบ้าน วัดเมือง วัดกรุง คิดว่าร้อยละไม่ต่ำกว่า 20% เล่นเสี่ยงโชคทั้งนั่น

หากจะแก้เรื่อง “หวย”  มีทางออก แต่ ผอ.พศ. ใจถึงหรือเปล่า คือ

ผอ.พศ.  นัดผู้บริหาร “สำนักงานกองสลาก” คุยเป็นจริงเป็นจังว่า หนึ่ง ขอกองสลากออกกฎห้ามยี่ปั๊วที่รับโควต้าจากสำนักงานกองสลากไปขายภายในวัด ไม่ว่าจะเป็นการตั้งแผง ตั้งร้านหรือเดินขาย สอง ขอให้ มหาดไทย ตำรวจ ท้องถิ่น ช่วยสอดส่องดูแล โดยร่วมกับทีมที่ ผอ.พศ.บอกว่ามีอยู่นั่นแหละ อันนี้รวมถึง “หวยเถื่อน” ด้วย เจอที่ไหนจับที่นั่นทั้งผู้ขายและพระภิกษุ และ สาม เพื่อเป็นโมเดลนำร่อง เริ่มจาก วัดไร่ขิง วัดโสธร วัดพระพุทธชินราช หรือวัดใหญ่ ๆ  ที่มีนักท่องเที่ยวคนไปกราบไหว้ขอพรเยอะ ๆ ก่อน ห้ามจำหน่ายหรือมีแผงขายล๊อตเตอรี่ในวัด คนพิการ ก็ห้ามนำมาขาย..เบื้องต้น “ผอ.พศ” ทำแบบนี้ก่อนว่าด้วยเรื่องหวย

และเพื่อ “สะสาง” พระพุทธศาสนาของ “สมณโคดม” ให้ใสสะอาดบริสุทธิ์ผุดผ่องสมดังมโนรถ ของท่านผอ.พศ ขอความกรุณา “ผอ.พศ” กราบทูล “สมเด็จพระสังฆราช” ว่าต่อจากนี้ไป ใครนิมนต์ท่านไปเจิมหรือไปพรมพระพุทธมนต์งานปลูกเสกวัตถุมงคล..ห้ามเสด็จไปเด็ดขาด  และรวมทั้ง “ผอ.พศ.” อาศัยความ “ตั้งใจดี” นี้ไปบอก “สมเด็จธงชัย” ในฐานะ เบอร์หนึ่งสายพระเกจิว่า เนื่องจากกระผมในฐานะ ผอ.พศ.อยากเห็นความบริสุทธิ์ผุดผ่องของพระพุทธศาสนาและมีความประสงค์ต้องการให้พระสงฆ์ในประเทศไทยตั้งอยู่ใน “พระวินัย” อย่างแท้จริง ขอพระคุณเจ้าโปรดงดไปงานปลูกเสกด้วยเถิด!! หรือหากตั้งใจมั่นคงที่ว่านี้ ไปกราบสักการะ “สมเด็จธีร์” อีกท่านก็ดีว่า.กระผมขอให้เจ้าประคุณสมเด็จเลิกดูหมอเป็นโหราจารย์ได้ไหมครับ  ในฐานะ “ผอ.พศ.” น่าจะพูดกันได้??

“อินทพร จั่นเอี่ยม” เหลืออายุราชการอีกปีกว่า ๆ หากเดินทาง “สายเอก” ดังที่แนะนำไว้  น่าจะสมความปรารถนา ถือว่าสร้างผลงานถวายเป็น “พุทธบูชา” และหากท่านทำได้ ทั้งห้ามพระเล่นหวย ห้ามพระปลูกเสก ห้ามพระดูหมอตั้งตนเป็นโหราจารย์

“อินทพร จั่นเอี่ยม” จะกลายเป็น..บุคคลในประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของชาวพุทธ

“ผู้เขียน” ขอชื่นชมความตั้งใจดีของ “ผอ.พศ.” ไว้ ณ โอกาสนี้

แต่.!! เพื่อให้ท่านอยู่รอดปลอดภัย ตอนนี้อยากให้ท่านไปใส่ใจเรื่อง “นโยบายเร่งด่วน7 ประการ”ของ “รมต.แจ๋น”  ที่มอบหมายให้สำนักงานพุทธ ฯเร่งดำเนินการด้วย   ตอนนี้ล่วงเลยมาแล้ว 3 เดือนกว่า ๆ  ถึงไหนแล้ว ทั้ง เรื่องการเผยแผ่เชิงรุก ทั้งเรื่องบัตร Smart card  การพัฒนาพุทธมณฑลให้เป็นศูนย์กลางพุทธโลก รวมทั้งเงินนิตยภัต และเงินค่าตอบแทนของชาว จปศ.

โดยเฉพาะเรื่อง “นิตยภัต” ยังไม่ต้องพูดถึงจะปรับขึ้น ตอนนี้แก้ปัญหา “ตกเบิก” ตามพระสังฆาธิการ พระธรรมทูตร้องเรียนได้แล้วหรือยัง เงินค่าตอบแทน จปศ. ทั้งพระปริยัติสามัญ นักธรรม บาลี และพระปริยัตินิเทศก์  พ.ร.บ.โปรดเกล้ามาตั้งแต่ปี 2562  ทำไมเงินจึงไม่ตกมาถึงคณะสงฆ์ครบถ้วนทั้ง 4 กลุ่ม สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติในฐานะ “แม่งาน” จะตอบคำถามและรับผิดชอบอย่างไร!

หากเป็น “คนบางศาสนา”  มี พรบ.แบบนี้แล้วล่าช้า คนพศ.อาจติดคุกหรือไม่ก็สำนักงาน ฯถูกเผาแล้ว

ฝาก “การบ้าน” ให้ “ผอ.พศ.” ต่อว่า ปัญหาใหญ่ปัญหาหนึ่งของคณะสงฆ์ตอนนี้ มีวัดนับหมื่นวัด อันนี้ไม่รวม “สำนักสงฆ์ -ที่พักสงฆ์” มีปัญหาที่ดิน

ยกตัวอย่างจังหวัดกาญจนบุรี “วัดตั้งอยู่ในตัวเมือง”  แวดล้อมด้วยห้างสรรพสินค้า มีบ้านสวัสดิการของทหาร มีโครงการบ้านจัดสรร วัดไม่สามารถออกโฉนดเพื่อสร้างโบสถ์ทำสังฆกรรมได้ เพราะติดว่าเป็นที่ของกรมธรารักษ์ มอบให้ทหารดูแล แต่ “ทหารไม่ปล่อย” ท่านจะแก้อย่างไร ลักษณะนี้มีหลายวัด บางวัดตั้งมานับร้อยปี แต่ตอนหลังหน่วยงานรัฐทั้งทหาร ป่าไม้ อุทยาน สปก.ประกาศทับที่วัด ตรงนี้ท่านจะแก้อย่างไร

วัดบางแห่ง “ไม่เชื่อน้ำยา” ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ต้องจ้างทนายหรือให้ NGO เข้ามาช่วยเหลือต่อสู้กับทหารและอุทยาน ป่าไม้ก็มี โดยเฉพาะจังหวัดกาญจนบุรี หลายวัดติดปัญหากฤษฎีกาทหาร 2481 ท่านเคยคิดจะ “ปลดล๊อค” เรื่องเหล่านี้บ้างหรือไม่??

หรือแม้กระทั้งวัดใหญ่ ๆ ในกรุงเทพมหานคร “บางวัด” ชาวบ้านอาศัยอยู่นับร้อยปีไม่ย้ายออก วัดจะพัฒนาอะไรก็ไม่ได้ เช่น วัดอรุณราชวราราม ทุกวันนี้วัดจะทำที่จอดรถสำหรับคนมาทำบุญที่วัดหรือนักท่องเที่ยวที่ดินหลังวัด วัดมีโครงการขอให้ย้ายออกมาร่วม 30 ปีทุกวันนี้ยังไม่สำเร็จ หากท่านไม่เชื่อไปถามอดีตลูกพี่ “สิปป์บวร”  ของท่านก็ได้  บางครอบครัวเช่าที่ดินวัดมารุ่นปู่ย่าไม่กี่ร้อยบาท ตกทอดมาถึงลูก ปล่อยเช่าช่วงต่อเป็น “หมื่น” ตรงนี้จะหาทางออกอย่างไร ไล่ก็ไม่ไป บางวัดซื้อที่ดินให้ก็ไม่ย้ายออก

หากท่าน “ตั้งใจ” จริง แก้ปัญหาที่ดินวัด ถือสร้างผลงาน “ชิ้นโบว์แดง” ให้ตัวเอง และเพื่อให้ “เจ๊แจ๋น” ของผู้เขียนได้ผลงานด้วย ลองเสนอ “มส.” ทำเป็นวาระแห่งชาติ เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับที่ดินวัดทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตร กระทรวงทรัพย์ กลาโหม กระทรวงคลัง มาพูดคุยเรื่องการออกโฉนดที่ดินวัดให้หน่อย “หยิบปัญหา” มาคุยบนโต๊ะ

อันนี้ยังไม่นับเรื่องที่ท่านควรทำ “ปัญหาชาวพุทธภาคใต้” การสร้างยุวชนชาวพุทธกลับถิ่นเกิด เช่น ต้องมีโควต้าพิเศษให้เรียนธรรมศาสตร์ จุฬา ฯ เกษตร หรือเหล่าโรงเรียนทหาร นายร้อยตำรวจ เหมือนอย่างที่ “เด็กใต้พี่น้องมุสลิม” เขามี แล้วนำเด็กเหล่านี้กลับไปบรรจุเป็นราชการพัฒนาดูแลบ้านเกิดเมืองนอนของเขา..ตรงนี้สำนักงานพุทธ ฯทำได้ไหม!!

ตอนนี้ “อินทพร จั่นเอี่ยม” มีอำนาจเต็มแล้วไม่ใช่รักษาการแทนอีกต่อไปแล้ว แสดงความสามารถความรู้ประสบการณ์ที่ทำงานอยู่กับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติร่วม 20 ปีให้เต็มที่อย่าให้เสียชื่อคนนครสวรรค์..

Leave a Reply