วันที่ 16 กันยายน 67 วานนี้ เวลา 16.30 น. ที่ศูนย์เรียนรู้ โคก หนอง นา บ้านสวนตาจุน อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรองศาสตราจารย์วรวรรณ โรจนไพบูลย์ (อ.น้อยหน่า) ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเชฐ โสวิทยสกุล (อ.โก้) ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ลงพื้นที่ตรวจติดตามการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตแบบอารยเกษตรตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (โคก หนอง นา แปลงนายสุรชา บุญจันทร์) โดยได้รับเมตตาจาก พระครูโสภณปัญญาสาร เจ้าคณะอำเภอมะนัง เจ้าอาวาสวัดนิคมพัฒนาราม ร่วมเยี่ยมชม โดยนายวิฑูรย์ นวลนุกูล รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายชาตรี ณ ถลาง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นายอิทธิพงศ์ ตันมณี หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมโยธาธิการและผังเมือง นายสมาน พั่วโพธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันการพัฒนาชุมชน และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมลงพื้นที่ด้วย โดยมี นายสุรชา บุญจันทร์ เจ้าของแปลง พร้อมครอบครัว ผู้นำท้องที่ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมให้การต้อนรับ
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า วันนี้ตนตั้งใจเดินทางมาเยี่ยม “พี่จุน” หรือ “คุณสุรชา บุญจันทร์” ที่บ้าน ภายใต้การแนะนำของหลวงพ่อพระครูโสภณปัญญาสาร เจ้าคณะอำเภอมะนัง เจ้าอาวาสวัดนิคมพัฒนาราม ที่ดูแลช่วยเหลือพี่น้องชาวจังหวัดสตูล ด้วยการเป็นภาคีเครือข่ายของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลในการที่จะบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสตูลอย่างยั่งยืน ซึ่งพี่จุนได้สมัครเข้าร่วมโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา ในห้วงที่กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทยได้รับงบประมาณจากรัฐบาล คือ งบเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยที่พี่จุนนำที่ดิน จำนวนแค่ 1 ไร่ มาเข้าร่วมโครงการฯ แล้วกลับมาทำการจัดรูปที่ดิน ทำให้เป็นโคก เป็นหนอง เป็นนา ปลูกพืช 5 ระดับให้มีความมั่นคงของชีวิต กระทั่งได้ผลดี และต่อมาจึงขยายจาก 1 ไร่กลายเป็น 7 ไร่ และมีความสุขมาก
นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า พวกเราชาวมหาดไทยดีใจที่เห็นพี่น้องคนไทย อย่างครัวเรือนของพี่จุน ที่อยู่ไกลถึงบ้านควรล่อน ตำบลควนกาหลง อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล ประสบความสำเร็จจากน้ำพักน้ำแรง จากความอดทน จากความเพียร ความไม่ย่อท้อ ด้วยการน้อมนำเอา “ศาสตร์พระราชา” มา “สืบสาน รักษา และต่อยอด” จนกลายเป็นต้นแบบที่สามารถยืนยันได้ว่า ถ้าพวกเราคนไทยทุกคนได้น้อมนำเอาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาใช้ในชีวิตประจำวันอย่างจริงจัง เราจะรอดปลอดภัย และยังพาครอบครัว และสังคมอยู่รอดปลอดภัย มีความมั่นคงด้านอาหาร ด้านคุณภาพของชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้มีอาหารจำนวนมากที่เพียงพอในการใช้ชีวิต ด้วยการ “พึ่งพาตนเอง” ด้วยความมุ่งมั่นที่จะนำเอาสิ่งที่เรียกว่า “แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง” ที่เป็นความอุดมสมบูรณ์ มาสร้างความมั่นคงให้ได้กิน ได้ใช้ ให้อยู่รอดเสียก่อน แล้วค่อยนำไปแบ่งปันแจกจ่ายให้เพื่อนบ้านที่เดือดร้อน และนำไปสู่การแปรรูป รวมตัว รวมกลุ่ม ทำการตลาด เพื่อให้มีเงิน มีทอง สำหรับเป็นทุนในการที่จะเป็นหลักประกันในการใช้ชีวิตเรื่องอื่น ๆ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่พวกเราทุกคนต้องทำให้ตัวเองพอกิน พอใช้ พออยู่ พอร่มเย็นเสียก่อน หลังจากนั้นสามารถนำไปแบ่งปัน และไปทำการตลาด
“ตนในฐานะผู้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมผลักดันให้พี่น้องประชาชนได้ขับเคลื่อนโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา หรือ อารยเกษตร ในฐานะอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน คนที่ 29 รู้สึกปลื้มปีติและมีความสุขที่ได้เห็นความสำเร็จของพี่น้องประชาชนที่น้อมนำเอาแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาใช้และมีความสุข สมกับคำกล่าวที่ว่า “ทฤษฎีใหม่และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงคือทางรอดของชีวิต เป็นทางรอดของโลก” เพราะต้นไม้ใบหญ้าสร้างความร่มรื่นให้กับพวกเรามาก ซึ่งปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโลกร้อน น้ำท่วม ภัยแล้ง ปัญหา PM 2.5 ที่พื้นที่ทั้ง 7 ไร่บริเวณนี้และพื้นที่ข้างเคียงไม่มีปัญหาแน่นอน เพราะเราได้ช่วยกันทำให้พื้นที่ของเรามีป่า 5 ระดับ ป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่างอย่างสมบูรณ์” นายสุทธิพงษ์ กล่าวเน้นย้ำ
นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอฝากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ท่านนายอำเภอทุกอำเภอของจังหวัดสตูล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ช่วยกันใช้พื้นที่ของพี่จุน รวมทั้งกราบรบกวนพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระครูโสภณปัญญาสาร เจ้าคณะอำเภอมะนัง เจ้าอาวาสวัดนิคมพัฒนาราม ได้ร่วมกับทางราชการในการที่จะช่วยขยายแนวคิดดี ๆ วิธีการดี ๆ อย่างนี้ ไปสู่พี่น้องครัวเรือนอื่น ๆ เพื่อให้พวกเขาได้มีความสุขอย่างยั่งยืน ดังที่ศูนย์สารภีสตูล และแปลงโคก หนอง นา บ้านสวนตาจุนแห่งนี้ เพื่อพวกเราทุกคนได้อิ่มบุญที่เห็นคนมีความสุข อันเป็นกำลังสำคัญในการทำให้พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังพระราชดำรัสที่ได้พระราชทานเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ความว่า “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ประสบความสำเร็จ เกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมย่างกว้างขวาง ทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนตลอดไป
ด้านนายสุรชา บุญจันทร์ (ตาจุน) เจ้าของแปลง กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของการสมัครเข้าร่วมโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานคำเรียกว่า “อารยเกษตร” นั้น เพราะตนอยากให้ครอบครัวมีอาหารการกินที่ปลอดภัยและอุดมสมบูรณ์ ไม่อด ไม่อยาก และจากผลทดสอบในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 พบว่า เราไม่ลำบากอะไร แล้วยังมีเหลือสำหรับแบ่งปัน แต่เดินไปแจกจ่ายแบ่งปันไม่ได้ เพราะช่วงนั้นทางราชการประกาศให้งดออกจากบ้าน ซึ่งตนขอยืนยันว่า การน้อมนำพระราชดำริอารยเกษตรสู่การปฏิบัติตนเป็นวิถีชีวิตถึงทุกวันนี้ ทำให้สามารถเลี้ยงดูครอบครัวและตนเองได้ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นเงินมากมาย แต่ก็ไม่อด แล้วยังสามารถต่อยอดได้ สามารถหยิบยื่นแบ่งปันให้กับผู้คนได้ ทุกวันนี้จากเดิมสมัครเข้าร่วม 1 ไร่ ตนได้ขยายพื้นที่เป็น 7 ไร่ และตั้งใจว่าจะได้ส่งต่อขยายผลให้ลูกสาวและลูกเขยได้ร่วมดำเนินการและสานต่อเพื่อความอยู่ดีมีสุขของลูกหลานในอนาคตต่อไป
Leave a Reply