“ผู้ว่าฯชัชชาติ” นิมนต์ “เจ้าอาวาสวัดสุทธิ” ร่วมหารือแนวแข่งวงดุริยางค์ ร.ร.”วัดสิทธิ-สุรนารีโคราช” “พระสุธีรัตนบัณฑิต” เสนอแนวทางการจัด “ธรรมในสวน” และ “ดนตรีภาวนา “ ตามแนวคิดของสวนโมกข์กรุงเทพ
วันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม 2565 เวลา 07.00 น. พระสุธีรัตนบัณฑิต,รศ.ดร. เจ้าอาวาสวัดสุทธิวราราม เปิดเผยว่า ได้รับเกียรติจากนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ให้เข้าประชุมหารือแนวทางการ Battle วงดุริยางค์ ระหว่างทีมจังหวัดนครราชสีมา และทีมกรุงเทพมหานคร (โคราช ราชสีมาวิทยาลัย สุรนารี กรุงเทพมหานคร วัดสุทธิวราราม และวชิรธรรมสาธิต + รวมดาวทีมดุริยางค์ในกรุงเทพ ) โดยมีผู้ว่าฯกทม.เป็นประธาน
นายชัชชาติ เปิดเผยภายหลังประชุมเตรียมความพร้อมเรื่อง การประชัน (Battle) วงดุริยางค์ ระหว่างทีมโรงเรียนจังหวัดนครราชสีมาและกรุงเทพมหานคร ณ ห้องนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า ว่า วันนี้ได้ประชุมเรื่องการประชัน Battle วงดุริยางค์ ร่วมกันทั้ง 4 โรงเรียน ในส่วนของกรุงเทพมหานครมี 2 โรงเรียน คือ โรงเรียนวัดสุทธิวราราม โรงเรียนวชิรธรรมสาธิต ซึ่งเป็นวงดุริยางค์วงใหญ่ ส่วนของโคราชมี 2 โรงเรียน คือ โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย และโรงเรียนสุรนารี สำหรับโรงเรียนสุรนารี จะเป็นโรงเรียนหญิงล้วน ใน 4 โรงเรียนนี้ จะมีวงหนึ่งเป็นมาร์ชชิ่งแบนด์ (Marching Band) คือ จะเดินเล่น ส่วนอีก 3 วง จะนั่งเล่นกัน
กำหนดการประชันในวันที่ 31 กรกฎาคม 2565 นี้ ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง เวลาประมาณ 14.00 น. มีบัตรเข้าชมประมาณ 1,200 ใบ แบ่งครึ่งเป็นของโคราช 600 ใบ กรุงเทพมหานคร 600 ใบ จะพิจารณากันอีกทีว่าจะแบ่งอย่างไร นอกจากนี้จะมีการถ่ายทอดสดด้วย ซึ่งทางโคราชให้ความสนใจกันมาก โดยจะเชิญนักเรียนและผู้ปกครองให้มาตั้งแต่วันเสาร์ เพื่อจะได้มาเที่ยวกรุงเทพฯ มาพักผ่อนกันก่อน ในวันอาทิตย์จะได้มาประชัน Battle วงดุริยางค์กัน นับว่าเป็นมิติที่ดี ที่จะได้มาดูศิลปวัฒนธรรม ดูความสามารถของเด็กนักเรียน กระตุ้นเศรษฐกิจระหว่าง 2 จังหวัด เกิดความผูกพัน ไม่ได้แข่งกันแบบจริงจัง เหมือนเป็นการสร้างความสัมพันธ์ สร้างกิจกรรมให้เด็ก เป็นเรื่องที่ดี เป็นกิจกรรมที่ดี ที่เราจะส่งเสริมต่อไปเรื่อยๆ
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวอีกว่า ถึงแม้บัตรเข้าชมจะแบ่งเป็นโคราชและกรุงเทพมหานครคนละครึ่ง แต่เวลาเข้าชมเราจะให้เด็กและผู้ปกครองมานั่งรวมกัน เพื่อความสามัคคี สมานฉันท์ ไม่มีการแบ่งกลุ่มกัน ซึ่งจะมีทั้งศิษย์ปัจจุบันและศิษย์เก่า นับว่าเป็นเรื่องที่น่าสนุก ทางโคราชตื่นเต้นกันมาก ทางกรุงเทพฯ ก็อย่าให้เสียชื่อ ต้องช่วยกันทั้งศิษย์เก่าทั้งพวกเรา สุดท้ายแล้วจะเป็นกิจกรรมที่ดี เป็นความร่วมใจกันไม่ว่าจะอยู่จังหวัดไหน ก็สามารถร่วมมือร่วมใจกันได้
ในส่วนของสถานที่ประชันอยากจัดใน Indoor มากกว่า ระบบเสียงจะได้กระหึ่ม หากจัด Outdoor ระบบเสียงอาจจะกระจายออกไป ส่วนเรื่องฝนก็เป็นห่วง อาจจะมีถ่ายทอดสดหรือไลฟ์สด ถ่ายทอดออกไปยังจุดอื่นๆ ผู้ที่ไม่สะดวกมาจะได้รับชมได้ นอกจากนี้ได้มอบหมายสำนักการศึกษา จัดโปรแกรมท่องเที่ยว เพื่อให้น้องๆที่มาจากโคราช ได้ท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานคร พาเที่ยวชมแหล่งที่น่าสนใจ ถือว่าเป็นอาคันตุกะผู้น่ารักที่มาเยือน โดยมีพวกเราเป็นเจ้าภาพต้อนรับที่ดี
“วงดุริยางค์ของโคราชจะเป็นวงใหญ่กว่าเรา มีสมาชิกประมาณ 80-100 คน ส่วนกรุงเทพมหานคร มีสมาชิกประมาณ 60 คน แต่ไม่เป็นไร ปริมาณไม่สำคัญ เราเอาคุณภาพ” ผู้ว่าฯ ชัชชาติกล่าวทิ้งท้าย
ขณะที่พระสุธีรัตนบัณฑิตกล่าวว่า งานจัดขึ้นวันที่ 31 กรกฎาคม นี้ ณ สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ตั้งแต่เวลา 14.00-16.30 น. เป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ด้านดนตรีและศิลปะของทุกคน ต่อยอด นโยบายดนตรีในสวนของกรุงเทพมหานคร ในการนี้ ได้เสนอแนวทางการจัด “ธรรมในสวน” และ “ดนตรีภาวนา “ ตามแนวคิดของสวนโมกข์กรุงเทพ เพื่อการทำงานที่มีความสุข และให้ธรรมะเป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน รอติดตามกันต่อไป
Leave a Reply