วันที่ 17 กันยายน 2566  นายสุมธ เมธีรัตนาพิพัฒน์ นายอำเภอโพทะเล กล่าวว่า จากกรณีที่เมื่อวันที่ 17 และวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือบิ๊กโจ๊ก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาแก้ไขปัญหาความขัดแย้งภายในวัดบางคลาน ที่ยาวนานกว่าสิบปี โดยร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งฝ่ายเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน และฝ่ายกลุ่มลูกศิษย์ของอดีตเจ้าอาวาสรูปเก่าที่มรณภาพไปแล้ว ที่มี สว.กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ เป็นแกนนำ โดยมีการเจรจาบันทึกข้อตกลงร่วมกันในการถอยคนละก้าว เพื่อยุติปัญหา และให้วัดบางคลานเกิดความสงบสุขเหมือนในอดีต

แต่ปรากฏว่า ปัญหายังไม่จบสิ้น หลังจากที่บิ๊กโจ๊กเดินทางกลับ เจ้าอาวาสก็ยังไม่สามารถเข้าวัดปฏิบัติศาสนกิจได้ รวมทั้งไวยาวัจกร คนงาน เจ้าหน้าที่มูลนิธิวัดบางคลาน และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องไปดำเนินการเก็บวัตถุพยานหลักฐาน ลายนิ้วมือแฝง ที่มีการบุกรุกทำลายทรัพย์สินต่าง ๆ ในวัด เนื่องจากยังมีกลุ่มชาวบ้านที่ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง ทั้งยังตัดกุญแจวิหารหลวงพ่อเงิน กุญแจมูลนิธิวัดบางคลาน และกุญแจกุฏิสามฤดูของเจ้าอาวาสด้วย ซึ่งตรงนี้ทางอำเภอโพทะเลยังไม่ได้มีการประสานฝ่ายความมั่นคง เพื่อเชิญให้เจ้าอาวาสเข้าวัด

ในเดือน ต.ค. นี้ จะมีการพิพากษาคดี ซึ่งต้องมีการพูดคุยหลายฝ่าย ฝ่ายเจ้าอาวาสเองได้ไปยื่นขออำนาจต่อศาลในการใช้สิทธิ์คุ้มครอง แต่ต้องรอศาลว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งเป็นอย่างหนึ่งอย่างใดหรือเปล่า

ส่วนการดำเนินคดี สว.กิตติศักดิ์ ในการละเมิดบุกรุกวัดบางคลานนั้นเป็นไปด้วยความล่าช้า ซึ่งตรงนี้อาจจะมีการให้ทนายความฟ้องตรงต่อศาลต่อไป

นายกิจชัย บุญปู่ ทนายความ เผยว่า ได้รับมอบหมายจากพระครูสิทธิวรากร เตรียมยื่นฟ้องขับไล่กลุ่มผู้ละเมิดบุกรุกวัดบางคลาน ส่วนคดี สว.กิตติศักดิ์ ตอนนี้สำนวนอยู่ในมือตำรวจ สว.กิตติศักดิ์ มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ส่วนจะถอนประกันก็ถอนไม่ได้ เพราะว่าคุณกิตติศักดิ์ไม่ได้ประกันตัว ในกรณีของกฎหมายถ้าเดินไปหาตำรวจแล้วเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ก็ไม่ต้องทำสัญญาประกัน แจ้งข้อหาแล้วก็กลับบ้านได้

นายพร ปั้นเพ็ง ไวยาวัจกรวัดบางคลาน กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ในจังหวัดพิจิตร ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือฝ่ายปกครอง ยังไม่สามารถที่จะดำเนินการเบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้ ฝากถึงท่านนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการจัดการกับพวกมีอิทธิพลกลุ่มนี้ให้สิ้นซากไปจากจังหวัดพิจิตร ทุกวันนี้ เจ้าอาวาสวัดเข้าไปบริหารวัดไม่ได้ แต่ต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ให้พวกที่มายึดวัดอยู่กันอย่างสบาย

ที่มา : มติชน