ยูเอ็นชื่นชมผลงานกระทรวงมหาดไทยในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) พร้อมเตรียมนำเสนอผลสำเร็จของกระทรวงมหาดไทยที่สามารถซื้อขายคาร์บอนเครดิตเป็นชาติแรกของโลก” ในเวที SDGs Summit 2023 ณ สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2566 เมื่อเร็ว ๆ นี้ คุณกีต้า ซับบระวาล (Gita Sabharwal) ผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย ได้ให้สัมภาษณ์ชื่นชมกระทรวงมหาดไทยต่อสำนักข่าวองค์การสหประชาชาติ (https://news.un.org/en/story/2023/09/1140617) โดยได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการเป็นหุ้นส่วนการพัฒนา (Partnership) ร่วมกับประเทศไทย เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ซึ่งคุณกีต้า ได้มีโอกาสหารือข้อราชการร่วมกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลต่อการขับเคลื่อนตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกับประเทศสมาชิกของ UN ซึ่งคุณคุณกีต้า ซับบระวาล ผู้ประสานงาน UN ประจำประเทศไทย และนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มีกำหนดการที่จะเข้าร่วมการประชุม SDGs Summit 2023 ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 18-19 กันยายน 2566 ณ สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งการประชุมในครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการเร่งรัดการพัฒนาความก้าวหน้าที่เร็วขึ้นในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ภายในปี 2030 ของประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติ (United Nations : UN) ทั่วโลก
“ดิฉันรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งในความร่วมมือระหว่างสหประชาชาติกับกระทรวงมหาดไทยในเรื่องการคัดแยกขยะครัวเรือน ประมาณ 14 ล้านครัวเรือนที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่มเพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศได้ถึง 550,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และรวมถึงการขายคาร์บอนเครดิต ชุดแรก ($21,000) ที่ถูกซื้อโดยธนาคารเอกชนของประเทศไทย อันเป็นจุดเริ่มต้นที่เป็นส่วนสำคัญของข้อตกลงการปฏิบัติตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ซึ่งต้องขอแสดงความชื่นชมยินดีต่อความมุ่งมั่นตั้งใจของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดของประเทศไทยทั้ง 76 จังหวัดรวมถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่ได้ลงนามในความมุ่งมั่นที่จะสร้างประเทศไทยโดยยึดหลักความยั่งยืนร่วมกับสหประชาชาติประจำประเทศไทย” คุณกีต้าฯ กล่าวด้วยความชื่นชมยินดีและภาคภูมิใจ

คุณกีต้า ซับบระวาล (Gita Sabharwal) ผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย ยังได้กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ หนึ่งในแนวคิดที่ตนยึดถืออยู่เสมอ คือ “โลกต้องมาก่อน” โดยเครือข่ายภาคีเครือข่ายในประเทศไทยได้ร่วมกับภาคีของสหประชาชาติทั้ง 21 หน่วยงาน ได้ให้คำมั่นที่จะช่วยปกป้องที่ดินและพื้นที่ทางทะเลร้อยละ 30 ทั่วประเทศ รวมถึงความพยายามในการปลูกป่าเพื่อเพิ่มแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าและสร้าง ”อ่างคาร์บอนใหม่” โดยปีที่แล้ว ภาคีเครือข่ายยังได้ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้แปดล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งเทียบเท่ากับรถยนต์ 1.6 ล้านคันที่ถูกนำออกจากถนน ซึ่งบทบาทของธนาคาร ของนักลงทุนมีความสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เพราะเป็นภาคส่วนที่จะทำให้เกิดการปลดล็อกการจัดหาเงินทุนภายในประเทศสำหรับการเปลี่ยนแปลงสีเขียวทางชีวภาพของประเทศ อีกด้วย


Leave a Reply