วันนี้ (16 เม.ย. 67) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงรายละเอียดการรับสมัครนักศึกษาตามโครงการจัดส่งนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย ปีการศึกษา 2567 โดยในปีนี้กระทรวงมหาดไทย เปิดรับสมัครนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2566 ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา สตูล และสงขลา (เฉพาะอำเภอจะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย) รวม 44 ทุน ประกอบด้วย สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ 27 ทุน (ทุนละ 40,000 บาท/ปี) และสาขาวิชาสังคมศาสตร์ 17 ทุน (ทุนละ 30,000 บาทต่อปี)

“การดำเนินโครงการฯ ในครั้งนี้เกิดขึ้นจากการที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2513 เห็นชอบในหลักการให้กระทรวงมหาดไทยจัดส่งนักศึกษาชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลามจังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยต่าง ๆ และ โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2514 และขอความร่วมมือจากสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ 9 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยศิลปากร และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รับผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษา ในคณะ/สาขาวิชาต่าง ๆ เป็นกรณีพิเศษ และได้ขอขยายระยะเวลาการดำเนินงานโครงการจัดส่งนักศึกษาชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลามจังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัย มาเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง และต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2562 เห็นชอบขยายระยะเวลาตามโครงการจัดส่งนักศึกษาชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัย (ระยะที่ 10) พ.ศ. 2562 – 2566 โดยให้พิจารณาปรับเปลี่ยนหลักการและเหตุผล ตลอดจนหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินโครงการฯ ให้มีการผสมผสานกลุ่มเป้าหมายจากศาสนาและวัฒนธรรมอื่น ๆ ที่มีความหลากหลายของพื้นที่เข้าไปในสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและเปลี่ยนชื่อโครงการเป็น “โครงการจัดส่งนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัย” ทั้งนี้ ในปี พ.ศ. 2564 มีมหาวิทยาลัยเข้าร่วม โครงการฯ เพิ่มเติม จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยนเรศวร และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง รวมมหาวิทยาลัยของรัฐที่เข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้น 12 แห่ง ซึ่งในปีการศึกษา 2567 กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการรับสมัครและคัดเลือกนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดนราธิวาส ปัตตา ยะลา สตูล และสงขลา (เฉพาะอำเภอจะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย) ที่ได้รับความเสียหาย หรือ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ เข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงต้น

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่ออีกว่า สำหรับในปีนี้ กระทรวงมหาดไทยได้กำหนดคุณสมบัติผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ดังนี้ 1) มีสัญชาติไทย มีภูมิลำเนาและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในพื้นที่ที่กำหนด ติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 ปี และมีอายุไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์นับถึงวันที่รับสมัคร 2) บิดา หรือมารดา หรือ ผู้ปกครอง ของผู้สมัคร จะต้องมีภูมิลำเนาปัจจุบันในพื้นที่ดังกล่าวติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปีนับถึงวันที่รับสมัคร 3) ผู้สมัครฯ จะต้องกำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในปีการศึกษา 2566 หรือ จบการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ในสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา สตูล และสงขลา (เฉพาะอำเภอจะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย) 4) มีผลการเรียนดี มีความประพฤติดี โดยจะมีหนังสือรับรองจากสถานศึกษาที่สำเร็จการศึกษา แนบมาประกอบด้วย และกรณีผู้สมัครเป็นผู้สำเร็จการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ตั้งแต่ 1 ปีการศึกษาขึ้นไปให้สถานศึกษาที่ผู้สำเร็จการศึกษา หรืออำเภอที่ผู้สมัครมีภูมิลำเนาอยู่เป็นผู้ออกหนังสือรับรองความประพฤติของผู้สมัคร และในกรณีที่ผู้สมัครได้เข้าร่วม หรือ เคยเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ จิตอาสากับหน่วยงานของรัฐ สถาบันการศึกษาอื่น หรือหน่วยงานภาคเอกชน ให้สามารถใช้หนังสือรับรอง ประกาศเกียรติคุณเกียรติบัตร หรือ วุฒิบัตร ที่ออกโดยหน่วยงานนั้น ๆ เป็นส่วนหนึ่งประกอบการรับรองความประพฤติได้ 5) เป็นผู้ที่ได้รับความเสียหายหรือที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 6) ขาดแคลนทุนทรัพย์ โดยมีหนังสือรับรองฐานะทางครอบครัวจากอำเภอที่ผู้สมัครมีภูมิลำเนาอยู่ 7) ไม่เป็นผู้เคยถูกคัดชื่ออออกจากสถานศึกษาใด ๆ 8 ) ไม่เป็นผู้กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยของรัฐในระบบปิด 9) มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่มหาวิทยาลัยที่คัดเลือกเข้าศึกษานั้น ๆ กำหนด และ 10) ต้องไม่เป็นผู้ที่กำลังรับทุนหรือเคยได้รับทุนตามโครงการฯ นี้มาก่อน
“นอกจากนี้ นักเรียนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามประกาศฯ และประสงค์จะสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ประจำปีการศึกษา 2567 จะต้องเป็นผู้มีคะแนนจากการสอบวัดวิชาความถนัดทั่วไป (TGAT) วิชาความถนัดวิชาชีพ (TPAT) และ/หรือวิชาข้อสอบวัดความรู้เชิงวิชาการ (A-Level) ที่ยังไม่หมดอายุโดยจะต้องมีคุณสมบัติทางการศึกษาตามเงื่อนไขและมีผลคะแนนสอบส่วนกลางที่มีการประกาศผลคะแนนในระบบคัดเลือกกลางบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาแล้ว ตามแต่ละรายวิชาของคณะ/สาขาวิชาที่ประสงค์จะใช้คัดเลือก ตามหลักเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนดแนบท้ายประกาศฉบับนี้ จึงจะได้รับการพิจารณาเข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งในปีนี้มีมหาวิทยาลัยที่จะรับนักศึกษาตามโครงการฯ จำนวน 11 แห่ง ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยนเรศวร และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง” นายสุทธิพงษ์ กล่าว



Leave a Reply