รองแม่กองบาลีสนามหลวง ชมคณะสงฆ์และภาคีทำงานสร้างสุขภาวะในโรงเรียนพระปริยัติธรรม

รองแม่กองบาลีสนามหลวง ชื่นชมคณะสงฆ์และภาคีทำงานสร้างสุขภาวะในโรงเรียนพระปริยัติธรรม ชี้ให้ขับเคลื่อนงานเน้นบูรณาการงานกิจการคณะสงฆ์ หวังให้เกิดสุขภาวะองค์รวมทุกมิติและพัฒนาสังคมที่ยั่งยืน

วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 เวลา 08.30 น. ที่ห้องประชุม อาคารพระปริยัติธรรม วัดอาวุธวิกสิตาราม กรุงเทพฯ พระธรรมวชิรสุธี(ทองดี) เจ้าอาวาสวัดอาวุธวิกสิตาราม และรองแม่กองบาลีสนามหลวง ประจำคณะธรรมยุตได้เมตตาเป็นประธานเปิดเวทีการสร้างสุขภาวะในโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรมและบาลีสนามหลวง ผ่านกระบวนการสร้างธรรมนูญสุภาพระดับพื้นที่

กล่าวตอนหนึ่งว่า “…ต้องชื่นชมและอนุโมทนาคณะสงฆ์และหน่วยงานภาคีเป็นอย่างยิ่งที่เข้ามาส่งเสริมและสนับสนุนดำเนินการตามบทบาทและภารกิจของส่วนงานของตนเพื่อร่วมขับเคลื่อนสร้างสุขภาวะในโรงเรียนพระปริยัติธรรมทราบว่าที่ผ่านมามีการขับเคลื่อนสร้างสุขภาวะในโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา และวันนี้ได้ร่วมด้วยช่วยกันขับเคลื่อนในส่วนของพระปริยัติธรรมแผนกธรรมและแผนกบาลี ต้องขอชื่นชมขอบคุณและอนุโมทนาเป็นอย่างยิ่ง หลักการสำคัญในการสร้างสุขภาวะก็เพื่อให้เกิดความสมดุลในเรื่องสุขภาพในทุกมิติทั้งมิติทางกาย จิต สังคม และปัญญา ซึ่งการดำเนินการเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อพระภิกษุ สามเณรและบุคลากรในโรงเรียนพระปริยัติธรรมภายใต้การจัดทำธรรมนูญสุขภาพสงฆ์นี้ก็จะช่วยให้โรงเรียนพระปริยัติธรรม สำนักเรียนได้มีกรอบหรือมาตรการร่วมกันในการส่งเสริม ป้องกันดูแลบุคลากรของตนเอง และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยให้เกิดสุขภาวะตามบทบาทและหน้าที่ของตน…”

ในส่วนของพระเทพเวที,รศ.ดร. เจ้าคณะภาค 6 รองแม่กองบาลีสนามหลวง ประจำหนเหนือ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต มจร ในฐานะประธานคณะทำงานฯ ได้กล่าวย้ำให้เห็นถึงความสำคัญในเรื่องการสร้างสุขภาวะในโรงเรียนหรือสำนักเรียนให้ครบทุกมิติทั้งทางกาย จิต สังคม และปัญญา โดยเริ่มต้นจากมิติทางกาย เช่น โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรมและแผนกบาลีที่อาจารย์ใหญ่หรือผู้บริหารโรงเรียนดูแล หากทุกท่านทำให้สะอาด มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ตรงนี้เห็นเป็นรูปธรรมและจับต้องได้ ก็จะทำให้มีการขยายผลไปที่กุฎิ อุโบสถ หรือสถานที่อื่น ๆ ในวัด ทั้งนี้ ในการขับเคลื่อนหรือดำเนินการขอให้บูรณาการกับงานกิจการคณะสงฆ์ เพราะธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติมีการประกาศใช้เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2560 มีการดำเนินการประสบความสำเร็จมากมายทั้งคณะสงฆ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ขณะนี้มีการทบทวนธรรมนูญสงฆ์เพื่อปรับปรุงแก้ไข ฉบับที่ 2 โดยฉบับที่ 2 นี้ ใช้กลไกการปกครองคณะสงฆ์โดยบูรณาการกับวัดประชารัฐสร้างสุข หน่วยอบรมประชาชนกลาง (อ.ป.ก) ซึ่งมีหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล (อ.ป.ต.) ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามระเบียบมหาเถรสมาคม ทำหน้าที่เป็นแกนนำในการเผยแผ่หลักธรรมและเป็นศูนย์กลางชุมชน เพื่อสงเคราะห์เกื้อกูลชุมชนในทุกๆ ด้านที่ไม่ขัดต่อหลักพระธรรมวินัยและกฎหมาย เป็นกลไกสำคัญทำหน้าที่ อบรม ส่งเสริม และสร้างสิ่งอันเป็นคุณประโยชน์แก่ประชาชนในตำบลนั้นๆ ตามหัวข้ออบรม 8 หัวข้อ คือ ศีลธรรมและวัฒนธรรม สุขภาพอนามัย สัมมาชีพ สันติสุข ศึกษาสงเคราะห์ กตัญญูกตเวทิตาธรรม และสามัคคีธรรม จะเห็นได้ว่า การบูรณาการจากธรรมนูญสงฆ์ วัดประชารัฐสร้างสุข ผ่านกลไก อ.ป.ก. อ.ป.ต. คณะกรรมการฝา่ยสาธารณะสงเคราะห์ และมหาเถรสมาคม ก็จะทำให้การขับเคลื่อนมีการบูรณาการงานกิจการคณะสงฆ์ สืบสาน รักษา ต่อยอด ให้เกิดสุขภาวะองค์รวมในทุกมิติและพัฒนาสังคมที่ยั่งยืน” พระเทพเวทีกล่าวทิ้งท้าย

ในส่วนผู้แทนจากหน่วยงานภาคีเครือข่าย อาทิ ผู้แทนจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า การที่ตนได้มีโอกาสมาร่วมกิจกรรมและรับฟังและได้รับทราบปัญหาในวันนี้ซึ่งปัญหามีความแตกต่างกันระหว่างสำนักเรียนที่มีจำนวนมากหรือน้อย หรือในส่วนกลางและในส่วนภูมิภาคมีลักษณะปัญหาที่แตกกันก็จะได้นำปัญหาที่รับฟังมานี้ไปช่วยแก้ไขและบูรณาการกับงานตามภารกิจของส่วนงานต่อไป

Leave a Reply