“ผู้เขียน” เห็นภาพ พระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา เมตตฺตธมฺโม หรือที่รู้จักกันในชื่อ “พระครูปลัดธีระ” หรือ “พระปีนเสา”  หลังจากไปออกรายการคนดังนั่งเคลียร์ ที่สถานีโทรทัศน์ ช่อง 8 และกำลังจะเดินทางกลับได้ถูกชายฉกรรจ์เดินเข้ามากระโดดถีบกลางหลังอย่างแรง จนทำให้พระครูปลัดธีระร่างลอยกระเด็นไถลไปกับพื้น จนได้รับบาดเจ็บ

ต่อมา “หลวงพี่น้ำฝน” หรือ “พระครูปลัดสิทธิวัฒน์” เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม  สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ยอมรับว่า ชายฉกรรจ์ทั้ง 3 คน ที่โดดถีบ พระปีนเสา เป็นลูกศิษย์ตนเองโดยได้ว่ากล่าวตักเตือนแล้ว  สาเหตุคือไปรอเจอหลวงพี่น้ำฝนที่ช่อง8 ตอนแรกจะไปออกรายการ แต่ยกเลิกไม่ได้ไป พอดูรายการแล้วมีการพาดพิงพระน้ำฝน จึงของขึ้นบันดาลโทสะ ประมาณว่าศิษย์มีครู เบื้องต้นได้สั่งให้ไปมอบตัวรับทราบข้อกล่าวหา

“ผู้เขียน” เห็นภาพฆรวาสถีบพระภิกษุแล้ว ยอมรับว่า  “สะเทือนใจ”  เนื่องจากเพศฆราวาสถีบพระภิกษุ คาผ้าเหลือง  ในพระไตรปิฎกท่านเรียกว่า “อรหทฺธช” แปลกันว่า “ธงชัยของพระอรหันต์” และ “พระปลัดธีระ” ก็ยังเป็น พระภิกษุอยู่ในพระธรรมวินัย ถือว่าเป็นคนใน “ครอบครัว” เดียวกันกับ “หลวงพี่น้ำฝน” หรืออีกนัยหนึ่ง..ทั้งคู่เป็นลูกของพระพุทธเจ้าด้วยกัน

พระไม่รักพระด้วยกัน พระไม่เคารพพระด้วยกันเองแล้ว ใครจะรัก  หลวงพี่น้ำฝนบวชมาแล้ว 31 พรรษา ถือว่าเป็น “พระมหาเถระ” มีวัยวุฒิและคุณวุฒิแล้ว พึงนำจิตที่เมตตา ตามฉายาพระที่ได้รับจากพระอุปัชฌาย์ว่า “กิตติจิตโต” ที่แปลว่า “ผู้มีจิตที่น่าสรรเสริญ”  ไปใช้กับ “พระธีระ” ด้วยก็จะเป็นสิ่งที่สังคมควรสรรเสริญ ยิ่ง “หลวงพี่น้ำฝน” เป็น “พระวินยาธิการ” ที่ชาวบ้านรับรู้กันว่าคือ “ตำรวจพระ” ระเบียบมหาเถรสมาคมว่าด้วยพระวินยาธิการ พ.ศ. 2562 ข้อที่ 23 ที่ระบุไว้ว่า มีหน้าที่และอำนาจ 5 ประการ 1 ในนั่นคือ ตรวจตรา แนะนำ ชี้แจง พระภิกษุสามเณรให้ปฎิบัติชอบตามพระธรรมวินัย กฎหมาย กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง มติ ประกาศ พระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชและคำสั่งผู้บังคับบัญชาเหนือตน

สมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก มักพูดอยู่เสมอว่า การปกครองพึงใช้  “พระคุณให้มากกว่าพระเดช” และบทบาทพระวินยาธิการ ไม่ใช่มีอำนาจอะไรมากเป็นเพียง “ฝ่ายสนับสนุน” เจ้าคณะปกครองเท่านั่น

“พระธีระ”  แม้จะมีพฤติกรรมที่ “โลกติเตียน” เป็นโลกวัชระ แต่ท่านเข้ามาสู่พระธรรมวินัยของพระสัมมาพุทธเจ้า โดยถูกต้อง ปัจจุบันท่านก็ยังไม่ต้อง “ครุกาบัติ” จำพวกอาบัติปาราชิก ท่านก็ถือว่าเป็น พระภิกษุเหมือนกับหลวงพี่น้ำฝน  หรือหากแม้นสมมติท่านไม่ใช่พระภิกษุ การใช้ความรุนแรงก็เป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ในหมู่ของคนมีปัญญาและมีสติ ยิ่งในหมู่สงฆ์ด้วยแล้ว ยิ่งยอมรับไม่ได้กับความรุนแรงทั้งทางวาจา และ กาย

การที่พระธีระถูกถีบในครั้งนี้หลายคนอาจ “สะใจ” แต่ก็มีอีกหลายคนอาจ “เห็นใจ” และสะเทือนใจ

“ผู้เขียน” เห็นสังคมยุคนี้จับผิดพฤติกรรมพระสงฆ์ ตำหนิติเตียนความเชื่อที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ทั้งเรื่องสวดมนต์ ทั้งเรื่องวัตถุมงคล ทั้งเรื่องวัตรปฎิบัติของคณะสงฆ์ หลายอย่าง

ถามว่ามีพระภิกษุสงฆ์รูปใด “หาญกล้า” ออกมาต่อกรกับกลุ่มคนที่ “ด้อยค่า” พระภิกษุสงฆ์ เหมือน “พระธีระ” บ้าง พระธีระ แม้จะไม่มีภูมิความรู้เหมือนพวกพระราชาคณะ เหมือนพวกเจ้าคณะปกครอง หรือเหมือนพระพวก ประโยค 9 ที่ได้รับทั้งนิตยภัต และการดูแลอย่างดีจากประชาชน โดยไม่ต้องนั่งแท็กซี่หรือบิณฑบาตเหมือนพระธีระ

“ผู้เขียน” มองว่า “หัวใจ” พระธีระ ในการต่อกรกับบุคคลเหล่านี้ “น่ายกย่อง” กว่ากลุ่มพระภิกษุสงฆ์ที่เก็บตัวเงียบอยู่ในกุฎิยิ่งนัก

“ผู้เขียน” สะท้อนความคิดกลับไปแบบนี้ มิใช่เห็นด้วยกับ “พฤติกรรม” ของพระธีระ ที่มีพฤติกรรมหลายประการเป็น “โลกวัชชะ” ให้ชาวบ้านติเตียน และสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีให้กับสถาบันสงฆ์ และสมควรอย่างยิ่งที่คณะสงฆ์ต้องนำพระแบบนี้มาอบรมสั่งสอนให้อยู่ในรีตในรอย หรือหากคิดไกลกว่านั่นคือนำไปตรวจสุขภาพจิต

ผู้เขียนเพียงแต่!! นับถือ “หัวใจท่าน” แต่มิได้หมายความว่ายกย่องหรือให้พระภิกษุรุปอื่น ๆ นำไปแบบอย่าง  และ ไม่เห็นด้วยที่เพศฆราวาสถีบพระภิกษุคาผ้าเหลืองแบบนี้ !! หรือหากแม้นไม่ใช่พระธีระ การใช้ความรุนแรงต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ผู้เขียนก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน!!

ขอบคุณภาพช่อง 8