“พระมหานรินทร์” ฟาด!! กรณ์ มีดี “กรณ์ไม่มีดี-โง่แล้วอวดฉลาด” ปมเซฟ “พระต้น”

วันที่ 2 ตุลาคม 2567  พระมหานรินทร์ นรินฺโท ป.ธ. 9 อดีตแอดมินเพจ alittlebuddha เจ้าอาวาสวัดไทยลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้พูดถึง กรณ์ มีดี ที่ก่อนหน้านี้ออกมาเคลื่อนไหโพสต์ “เซฟพระต้น” หรือ พระทวีวัฒน์ จารุวณฺโณ ประธานสำนักศึกษาธรรมดอยธรรมนาวา อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ว่า

“กรณ์ ไม่มีดี” กรณ์ เกิดมาทั้งที เคยบวชเรียนทั้งนักธรรมบาลี แต่เสียดาย ไม่รู้จักรักษาพระธรรมวินัย เวลามีใครบิดเบือนพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าในพระไตรปิฎก น่าที่จะช่วยกันออกมารักษาให้ถูกต้อง กรณ์กลับสวนกระแสด้วยการ “เซฟพระต้น” โดยอ้างเอาจำนวนนักเรียนว่าได้บรรลุตามพระต้น “เป็นจำนวนมาก” ต่อไปถ้ามีการทำประชามติให้เด็กนักเรียนสามารถ “แก้ไขพระไตรปิฎก” ได้ ก็คงจะเข้าทาง กรณ์ เพราะเด็กคือเสียงสวรรค์

กรณ์เคยเป็นหัวหน้าพรรคแผ่นดินธรรม ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. โชคดีที่ไม่มีใครเลือกนายกรณ์และพรรคพวกเลย ถ้าได้รับเลือกก็คงสร้างความเสียหายแก่พระศาสนาเป็นแน่แท้ เพราะแกมักจะออกนอกลู่นอกทาง แบบว่าคนส่วนใหญ่เขาไปทาง แต่กรณ์ชอบเดินสวนทางที่สำคัญ กรณ์นำเอาพระดำรัสของสมเด็จพระสังฆราชมาตีความอย่างผิด ๆ โดยกล่าวว่า

“หลังจากที่สมเด็จพระสังฆราช มีพระดำรัส ว่าไม่ให้พระต้นนอกลู่นอกทาง ผมก็เห็นด้วยกับสมเด็จพระสังฆราช หลังจากนั้นก็เห็นพระอาจารย์ต้น เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระสังฆราชก็ทรงเตือนเรื่องอย่านอกลู่นอกทาง แต่พระองค์ก็ชมเชยในคำสอนอื่นๆ ที่สอนได้ถูกต้อง และยังสั่งว่า ส่วนที่สอนถูกต้องแล้วให้สอนต่อไป แต่อย่าได้นำความเป็นเกจิ เข้ามา
(คำว่า เกจิ ในที่นี้ หมายถึง ไสยศาสตร์ เวทย์มนต์ ซึ่งเป็นข้อห้ามของพระพุทธองค์) ซึ่งความหมายของคำว่า เกจิ ที่นายกรณ์พูดถึงนั้น “ขัดแย้ง” กับแนวทางที่สำนักงานเลขานุการในสมเด็จพระสังฆราช ได้ระบุไว้ในเอกสารอย่างชัดเจน ดังนี้

“เกจิ หรือเกจิอาจารย์ หมายถึง อาจารย์บางพวกบางเหล่า ที่แสดงอัตโนมัติ แสดงความเห็นด้วย หรือแย้ง โดยถือความเห็นของตนเป็นใหญ่ แตกต่างกันออกไป ซึ่งอาจไม่เป็นไปตามหลักการในพระไตรปิฎกและคัมภีร์สำคัญต่างๆ ในพระศาสนา นัยนี้เป็นความหมายเดิม มุ่งเน้นเรื่องคำสอนเป็นประมาณ มิใช่ตามความหมายด้านคาถาอาคมที่ใช้แพร่หลายในปัจจุบัน”

ขนาดมีหลักฐานจากสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช “ยืนยัน” ถึงความหมายของคำว่า เกจิ อยู่โทนโท่ แต่กรณ์ยังตะแบงเปลี่ยนความหมายกลายเป็น “ไสยศาสตร์ เวทย์มนต์”
ไม่อ่านอย่าเซ็น ไม่เห็นอย่าวิจารณ์ ขนาดพระดำรัสสมเด็จพระสังฆราช นายกรณ์ยังไม่ยอมอ่านให้เข้าใจ จะว่าหูหนวกตาบอดก็ไม่ใช่ แถมยังนำไปใช้ตามใจของตนเองเสียอีก นิสัยแบบเดียวกับพระต้นเลย อัปรีย์กินหัวเลยกรณ์เอ๋ย

คนแบบนายกรณ์นี้ท่านเรียกว่า โง่แล้วอวดฉลาด

Leave a Reply