วันที่ 2 ตุลาคม 2567 กรณีที่เว็บไซต์ข่าว “thebuddh” ได้เสนอข่าวเกี่ยวกับวิทยาลัยสงฆ์แห่งหนึ่งถูกบริษัทรับเหมาก่อสร้างติดตามทวงหนี้และมหาวิทยาลัยจะตั้งคณะกรรมสอบข้อเท็จจริงเพราะอาจจะมีการใช้เงินผิดประเภทนั้น

พระราชวัชรสารบัณฑิต หรือ “เจ้าคุณประสาร” รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ได้ชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นนีัว่า ในกรณีดังกล่าวแม้สื่อจะไม่ได้เอ่ยชื่อโดยตรง ไม่ระบุว่าใครที่ใหนอย่างไร แต่ในฐานะมหาวิทยาลัยที่เน้นการบริหารแบบธรรมาภิบาล มีคุณธรรม ซื่อสัตย์ สุจริต ก็ไม่อยากให้เป็นแค่สายลมที่พัดผ่าน เพราะจะทำให้คนทั่วไปเคลือบแคลงสงสัย ไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่าย อาตมาเห็นว่าควรทำความจริงให้ปรากฎ เพราะงบประมาณทั้งหลายทั้งปวงนั้นล้วนเป็นภาษีของประชาชนทั้งประเทศ ในฐานะที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง จึงได้พูดคุยและหาข้อมูลว่าน่าจะหมายถึงวิทยาลัยสงฆ์ใหนในสังกัดเราหรือไม่และก็ปรากฎตามเอกสารของบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างที่ทวงถามมา จึงได้พูดคุยกับผู้บริหารระดับสูงของที่นั่นโดยตรง คุยแบบเปิดเผยไม่ปิดบังและถ้าพบปัญหาก็ต้องรีบแก้ใข จึงมีประเด็นการพูดคุยดังนี้

1.เงินงบประมาณในแต่ละหมวดในแต่ละปีงบประมาณ ได้โยกย้ายหรือทำอะไรที่ส่อไปในทางทุจริต คอรัปชั่นหรือนำไปใช้ผิดประเภทหรือไม่ เพราะนี่เป็นเรื่องใหญ่ เรื่องสำคัญ จะต้องโปร่งใส และนี่เป็นคุณธรรมสำคัญเบื้องต้นของการบริหารที่ มจร ผู้บริหารท่านนั้นท่านก็ยืนยันด้วยวาจาว่าด้วยเกียรติและศักดิ์ศรี ท่านไม่มีเรื่องมัวหมองใดๆเด็ดขาด ท่านทุ่มเทเสียสละเพื่อการศึกษาในส่วนนี้อย่างเต็มกำลัง แต่เนื่องจากงบประมาณที่ได้รับกับค่าใช้จ่าย คือรายรับกับรายจ่ายไม่สมดุลกัน ท่านจึงหางบนอกมาช่วยในส่วนต่างๆภายในวิทยาลัยสงฆ์ในทุกปีงบประมาณ วิธีแบบนี้มันอาจจะทำให้เกิดการสะดุดอยู่บ้างแต่จะพบว่ามันเป็นปัญหาในระยะสั้นเท่านั้น

2.ถ้าพบว่ามันสะดุดและพบว่าเป็นปัญหาระยะสั้นจะแก้ใขอย่างไร ท่านยืนยันว่าถ้าพบว่าตรงใหน อย่างไรที่เป็นปัญหาโดยเฉพาะด้านงบประมาณท่านจะดำเนินการแก้ใข เคลียร์ทุกปัญหา แก้ทุกระบบ เงินจะครบทุกหมวดภายในสิ้นเดือนตุลาคม 2567 หรือถ้าจะช้ากว่ากำหนดนี้บ้างก็ไม่เกินหนึ่งอาทิตย์

3.ท่านยืนยันว่าท่านรักษากฎ ระเบียบ ข้อบังคับอย่างเคร่งครัด ท่านบริหารคน บริหารงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เป็นภาระ ไม่ทำให้มหาวิทยาลัยและส่วนรวมเสียหายแน่นอน

พระราชวัชรสารบัณฑิต กล่าวต่อไปว่าในเบื้องต้นเมื่อได้คุยกันในเชิงบริหารแล้วก็ต้องให้เกียรติท่าน รับฟังและรอการแก้ใขปัญหานั้นๆในกรอบตามระยะเวลาที่กำหนดโดยจะต้องไม่ก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ ที่ผ่านมาอาตมารับผิดชอบในเรื่องนี้โดยตรง ซึ่งก็ยังไม่ได้รายงานให้ท่านอธิการบดีทราบ จากนี้ไปภายในสัปดาห์นี้จะได้รวบรวมข้อมูลต่างๆเสนอรายงานท่านต่อไป

ขอยืนยันว่า มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ทั้งส่วนกลาง วิทยาเขต วิทยาลัยสงฆ์และหน่วยวิทยบริการทั่วประเทศ ต่างทุ่มเททำงานหนักในการจัดการศึกษา ให้บริการวิชาการแก่คณะสงฆ์และสังคม เราคำนึงถึงคุณภาพ ตระหนักในคุณธรรม ศีลธรรม บริหารแบบมีธรรมาภิบาล ดังนั้นงบประมาณในทุกหมวด ในทุกบาททุกสตางค์จะต้องมีกระบวนการที่ถูกต้อง ชอบธรรม เป็นไปตามพระวินัย กฎหมาย ระเบียบและข้อบังคับทุกประการและสำคัญจะต้องคุ้มค่า คุ้มทุนในทุกหน่วยของการลงทุนเพื่อจัดการศึกษาในส่วนนี้ด้วย ปัญหาที่อาจจะพบจะเจออยู่บ้าง มีข่าวออกมาบ้างขอยืนยันว่าเป็นเพียงส่วนน้อย เปอร์เซ็นต์น้อยจริงๆเมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานในทุกภาคส่วนในทั่วประเทศและเมื่อพบก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ไม่ปล่อยผ่าน รีบแก้ใขให้ถูกต้องและทันท่วงที นี่ขนาดไม่เอ่ย ไม่บอกว่าใครที่ใหน ถ้าจะปล่อยผ่านไปก็ยังได้ แต่ด้วยสำนึกแห่งศีลธรรมของสถาบันการศึกษาแห่งนี้เราจะต้องรับผิดชอบและรีบออกมาแก้ใขให้สังคมได้รับรู้ เพราะเราจัดการศึกษาพระพุทธศาสนา บูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่เพื่อสร้างพุทธนวัตกรรมเพื่อพัฒนาจิตใจและสังคม ดังนั้นเราไม่มีอะไรจะปิดบัง ต้องตรงไปตรงมา พระราชวัชรสารบัณฑิต กล่าวในตอนท้าย