“ตุ๊ด กระเทย เกย์” บวชได้หรือไม่!! หลายปีมานี้มีคำถามจากสังคมเรื่องหนึ่งที่ว่า ทำไมสังคมสงฆ์ตอนนี้ บรรดาพวกตุ๊ด กระเทย เกย์ เข้ามาบวชกันเป็นจำนวนมากการบวชนี้เป็นไปตามพุทธานุญาตหรือไม่ พระอุปัชฌาย์ยินยอมให้บวชได้อย่างไร จำเป็นหรือไม่ที่คณะสงฆ์โดยเฉพาะ “มหาเถรสมาคม” จะต้องออกระเบียบเรื่องการบวชของคนกลุ่มนี้อย่างชัดเจนให้เป็นไปตามพระวินัย เพื่อป้องกันความดีงามของ คณะสงฆ์ส่วนใหญ่ ปัจจุบันต้องยอมรับว่าจำพวก “พระเกย์ ตุ๊ด กระเทย” เข้ามาสู่ “สังคมสงฆ์” เป็นจำนวนมาก บางรูปมีความประพฤติดี มีอาจารงดงาม ช่วยกิจการคณะสงฆ์ได้มาก แต่มีหลายรูปมีพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของคณะสงฆ์ส่วนใหญ่ ซึ่งล้วนกระทบต่อพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะกลุ่มตุ๊ด “พระหนุ่ม -เณรน้อย” มักแต่งหน้า ทาปาก ชโลมผิวพรรณด้วยน้ำหอมกลิ่นฉุดฉาด “เปรียญสิบ” เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ไปร่วมกิจกรรมงานใหญ่ที่ “มหาวิทยาลัยสงฆ์” แห่งหนึ่ง กำลังสนทนากับพระคุณเจ้าระดับผู้บริหารรูปหนึ่ง เห็นพระภิกษุ 2 รูปเดินเข้ามาแล้วยกมือไหว้ “ถอนสายบัว” พระคุณเจ้าที่ร่วมสนทนาด้วยรู้สึก “กระดากใจ” พอสมควรว่า วงการคณะสงฆ์ของเราไปไกลแล้ว โดยเฉพาะใน “มหาวิทยาลัยสงฆ์” แม้แต่ในสังคม “พระระดับผู้ปกครอง” ก็มีหลายรูปที่ได้ยินข่าว “ไม่งาม” ตั้งสายตะวันออก สายต่างประเทศ และรวมถึงสายปกครองทางภาคเหนือ หรือแม้กระทั้งระดับกรรมการ “มหาเถรสมาคม” บางรูปก็เลี้ยงคนกลุ่มนี้ไว้ “ข้างกาย” ซึ่งก็อาจมีคนถามต่อว่าแล้วใน “มหาเถรสมาคม” มีคนจำพวกนี้ปะปนอยู่ด้วยหรือไม่!! “เปรียญสิบ” ได้ยินคณะสงฆ์นานาชาติพูดกันบ่อยครั้งว่า ทำไมมหาเถรสมาคมของประเทศไทย จึงปล่อยให้คนจำพวกนี้เข้ามาบวชได้ มีการคัดกรองหรือไม่ แล้วปล่อยให้พระประเภทนี้มีพฤติกรรม “เยี่ยงกายดังสตรี” ได้อย่างไร “เปรียญสิบ” มิใช่พวกเชี่ยวชาญเรื่องพระวินัย เพื่อประกอบการพิจารณาเรื่องที่กำลังเขียนถึงนี้ ขอยกเอาคำโพสต์ของ “พระมหาภาคภูมิ สีลานนฺโท” พระที่ได้รับการยกย่องจากสื่อมวลชนว่าเสมือน “พระอุบาลี” มาเกิดใหม่ ทั้งที่นิพพานไปแล้ว ได้ตั้งคำถามว่า กะเทย…บวชได้หรือไม่? ตอบว่า กะเทยที่บวชได้ก็มี บวชไม่ได้ (คือถึงบวชก็ไม่เป็นอันบวช) ก็มี โดยกะเทยนั้น ในคัมภีร์ทางศาสนาเรียกว่า บัณเฑาะก์ (ปณฺฑก) ซึ่งแยกบัณเฑาะก์มี 5 จำพวก ได้แก่ หนึ่ง อาสิตตบัณเฑาะก์ คือ ผู้อมองคชาตของชายเหล่าอื่น ถูกน้ำอสุจิหลั่งรด ความกระวนกระวายจึงระงับไปได้[ด้วยการปล่อยน้ำอสุจิแม้ของตน สอง อุสูยบัณเฑาะก์ คือ ผู้เห็นอัชฌาจารของคนเหล่าอื่น เมื่อเกิดความริษยา ความกระวนกระวายย่อมระงับไปด้วยการปล่อยอสุจิ สามโอปักกมิกบัณเฑาะก์ ผู้ถูกตัดลูกอัณฑะทั้งหลายออกไปแล้ว สี่ ปักขบัณเฑาะก์ ผู้เป็นบัณเฑาะก์เฉพาะตอนข้างแรมเพราะอานุภาพแห่งอกุศลวิบาก แต่ข้างขึ้น ความเร่าร้อนกระวนกระวายย่อมระงับไป และจำพวกที่ ห้า นปุงสกบัณเฑาะก์ ผู้เกิดขึ้นโดยไม่มีภาวรูปตั้งแต่ในปฏิสนธิเลยทีเดียว ในอรรถกถากุรุนทีท่านแก้ไว้ว่า “ในบัณเฑาะก์ 5 จำพวกนั้นอาสิตตบัณเฑาะก์และอุสูยบัณเฑาะก์ ไม่ห้ามการบรรพชาและอุปสมบท แต่อีก 3 จำพวกนอกนี้ห้าม แม้ในบัณเฑาะก์ 3 จำพวกนั้น สำหรับปักขบัณเฑาะก์ห้ามการบรรพชาใน ปักษ์ที่เขาเป็นบัณเฑาะก์เท่านั้น..” ด้วยคำนี้ พึงทราบว่า ก็แม้ในปักข์ที่ไม่เป็นบัณเฑาะก์ ก็ได้เพียงแค่บรรพชา จะให้อุปสมบทแม้ในกาลนั้นก็ไม่ควร และเมื่อถึงปักข์ที่เป็นบัณเฑาะก์ ต้องให้สึก และพระผู้มีพระภาคทรงหมายเอาบัณเฑาะก์ที่ห้ามการบรรพชานั้น จึงตรัสว่า “อนุปสัมบัน ไม่พึงให้อุปสมบท ที่อุปสมบทแล้ว พึงให้สึก” อาสิตตบัณเฑาะก์ อุสูยบัณเฑาะก์ และปักขบัณเฑาะก์ ทั้ง 3 จำพวกต่างมีปุริสภาวะ (ภาวะบุรุษ) และลักษณะเหมือนบุรุษ โดยเป็นอเหตุกปฏิสนธิ แต่ที่พลอยถูกเรียกว่า “บัณเฑาะก์” ไปด้วย เพราะพวกเขามีกิเลสกลุ้มรุมมาก เหมือนนปุงสกบัณเฑาะก์ บรรดาบัณเฑาะก์3 จำพวกเหล่านั้น อาสิตตบัณเฑาะก์และอุสูยบัณเฑาะก์ สามารถอดทนกิเลสที่รุมเร้า ไม่ยอมล่วงละเมิดสิกขาบทได้โดยอาศัยโยนิโสมนสิการเป็นต้น ดังนั้น จึงทรงอนุญาตให้บรรพชาได้ สำหรับ ฝ่ายปักขบัณเฑาะก์ ในช่วงข้างแรม ย่อมถูกความเร่าร้อนด้วยกิเลสท่วมทับอย่างหนัก เหมือนกับคนบ้า พอล่วงละเมิดเสร็จแล้วเท่านั้น จึงจะบรรเทาความเร่าร้อนลงได้ ดังนั้น ในช่วงข้างแรมนั้น พระองค์จึงไม่ทรงอนุญาตให้บรรพชา ส่วนโอปักกมิกบัณเฑาะก์ เป็นสเหตุกปฏิสนธิหรืออเหตุกปฏิสนธิก็ได้ โดยมีคำอธิบายดังต่อไปนี้ “ก็เมื่ออัณฑะทั้งสองยังอยู่ แม้นิมิตจะถูกตัดออกไปแล้ว ก็หาได้เป็นบัณเฑาะก์ไม่ ถึงภิกษุจะเป็นผู้ไม่ได้อาพาธเลย ตัดองคชาตออกไป ก็เป็นเพียงอาบัติถุลลัจจัยเท่านั้น ไม่เป็นบัณเฑาะก์ แต่เมื่ออัณฑะทั้งสองถูกตัดออกไปแล้ว แม้องคชาตก็ไม่เป็นสภาพควรแก่การงานเพราะราคะได้ (คือไม่สามารถจะใช้เสพเมถุนได้อีก) ปุริสภาวะย่อมหายไป ลักษณะของบุรุษมีหนวดเป็นต้นก็ดี การอุปสมบทก็ดี ย่อมหายไป ย่อมมีความเร่าร้อนด้วยกิเลสอันมีกำลังมากจนห้ามการล่วงละเมิดได้ยาก เหมือนนปุงสกบัณเฑาะก์ เพราะเหตุนั้น บุคคลเช่นนี้ แม้เป็นผู้อุปสมบทแล้ว ก็พึงให้สึกเสีย..” สรุปว่า กะเทยจะบวชได้คือบวชแล้วสำเร็จเป็นพระหรือไม่ ก็ต้องดูว่าเป็นกะเทยประเภทไหน ถ้าเป็นกะเทยประเภทที่อมองคชาตชายอื่นหรือประเภทที่เมื่อดูคนมีเพศสัมพันธ์กันแล้วเกิดความริษยาแล้วจึงคลายกำหนัด อย่างนี้บวชได้ (คือถ้าบวชก็สำเร็จเป็นพระ) แต่ถ้าเป็นประเภทที่ถูกตัดลูกอัณฑะออกไปเพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งก็ดี ประเภทที่ไม่มีภาวรูปก็ดี ประเภทที่เป็นกะเทยตอนข้างแรมก็ดี อย่างนี้บวชไม่ได้ (ถึงอุปัชฌาย์ไม่รู้ ให้บวช การบวชก็ไม่สำเร็จ) แม้พระบรมศาสนาจะมี “พระเมตตา” เป็นที่ตั้ง แต่พระองค์ก็ทรงวางหลักเกณฑ์รายละเอียดการรับคนประเภทคนเหล่านี้เข้ามาสู่สังคมสงฆ์ ประเภทไหนสมควรบวชได้ บวชไม่ได้ และเมื่อแม้บวชมาแล้วก็ไม่ได้เป็นพระภิกษุ “พึงให้สึกเสีย” “เปรียญสิบ” ยกตัวอย่างการอธิบายความของ “พระมหาภาคภูมิ สีลานนฺโท” ไว้เพื่อเป็น “สารตั้งต้น” ให้กับคณะสงฆ์ ได้ขบคิดหาแนวทางป้องกัน “สังคมสงฆ์” ส่วนใหญ่ จัดระเบียบคนกลุ่มนี้ เพื่อความมั่นคงและยั่งยืนแห่งพระพุทธศาสนา ซึ่งปัญหาคนกลุ่มนี้นับวัน ยิ่งมีปัญหามาก แต่มันเป็น “มุมมืด” ในวัดในสังคมคณะสงฆ์ และปัญหาเหล่านี้หาก “มหาเถรสมาคม” ไม่ยึด “พระวินัย” เป็นที่ตั้ง ไปให้ความสำคัญกับ “สิทธิในการบวช” ไปให้ความสำคัญกับกฎหมายมากกว่าพระวินัย ปล่อยปละละเลย เป็นสนิมที่เกิดจากเนื้อใน..ระวังจะพังทั้งยวง!! จำนวนผู้ชม : 2,715 Leave a ReplyFacebook Comments More Articles By the same author “ดร.มหานิยม” ชมรองผอ.พศ.กล้าหาญออกมาระบายถูกตัดงบฯทุกปี ถามว่าที่ส.ส.พรรคก้าวไกล อหังการ์ต่อพระพุทธศาสนามากเกินไปหรือไม่? อุทัย มณี มิ.ย. 16, 2023 เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2566 ดร.นิยม เวชกามา อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย… “เจ้าคุณต้น”แห่งธรรมนาวา เข้ารับรางวัล “เสาอโศกผู้นำศีลธรรม” มจร วังน้อย อุทัย มณี พ.ค. 14, 2025 วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 เวลา 14.00 น. ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย… ภาพประวัติศาสตร์ “อัญเชิญพระธาตุเขี้ยวแก้ว” กลับจีน พบตลอด 73 วันมีประชาชนเข้ากราบสักการะกว่า 3 ล้านคน อุทัย มณี ก.พ. 15, 2025 วันที่ 15 ก.พ. 68 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม… “อธิการบดี มจร” ตั้งคณะกรรมการปริวรรตคัมภีร์พระพุทธศาสนาโบราณลุ่มน้ำโขง อุทัย มณี ก.ค. 04, 2022 มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการโครงการปริวรรตคัมภีร์โบราณลุ่มน้ำโขง… เจ้าคณะหนใหญ่ตะวันออก มอบตราตั้ง “เจ้าคณะภาค” จำนวน ๕ รูป อุทัย มณี มิ.ย. 17, 2021 วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๔ เวลา ๑๔.๐๐ น. ณ ณ พระมหามณฑปเฉลิมพระเกียรติ… สมณศักดิ์ชั้น “พระครู” หลายปีที่รอคอย?? อุทัย มณี ส.ค. 09, 2021 จำไม่ได้แล้วว่าสมณศักดิ์ระดับพระครูในประเทศไทย ไม่ได้รับโปรดกล้าฯจากพระมหากษัตริย์มาแล้วกี่ปี… มติ มส. มอบตำรวจพระจัดการเรื่อง “พระบิณฑบาตไม่เหมาะสม : ฝ่าฝืนบ่อยจับสึกได้” อุทัย มณี ส.ค. 11, 2020 เมื่อวานนี้ (10 ส.ค.63 ) ณ พระตำหนักจันทร์ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร… ยูเอ็นไทยปิดสำนักงานฉลองวิสาขบูชาโลก ไฉนไทยพุทธทั้งผองเปิดศึกกันวุ่นวาย อุทัย มณี พ.ค. 14, 2022 วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม 256 พระครูปลัดปัญญาวรวัฒน์,ศ.ดร. ผู้อำนวยการหลักสูตรสันติศึกษา… สมเด็จพระสังฆราช เจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตภาวนา ถวายพระพรชัยมงคลแด่เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ อุทัย มณี ธ.ค. 17, 2022 เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2565 เพจสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช… Related Articles From the same category ‘กรรมการ มส.’มอบประกาศนียบัตร การบริหารกิจการคณะสงฆ์ ๑๔ รุ่น ๒,๕๗๓ รูป วันอังคาร ที่ ๑๘ เดือน มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๒ ที่วัดพิชยญาติการาม… เกร็ดประวัติศาสตร์ : พระพิมลธรรม พระต้นแบบของนักต่อสู้!! ยึดมั่น “สันติวิธี” เมื่อวานแวะไปขอหนังสือจากสถาบันวิปัสสนาธุระ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย… เรื่องเล่า..บวชสามเณรภาคฤดูร้อน ถอดบทเรียนจากหนังสือ “ทศชาติ” การบวชเณรภาคฤดูร้อนในช่วงปิดเทอมเมษายนปีนี้กลับมาคึกคักอีกครั้งหลังจากเงียบเหงาไปหลายปี … “สุทธิพงษ์-ดร.วันดี” พบนักออกแบบผ้าไทยใส่ให้สนุกรุ่นใหม่ น้อมนำพระดำริ “เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี” เพื่อความยั่งยืนของภูมิปัญญาไทย วันที่ 29 ตุลาคม 67 วานนี้ เวลา 17.30 น. ที่สุราลัยฮอล์ ชั้น 7 ศูนย์การค้าไอคอนสยาม… รถตู้วัดปากน้ำ ชนกระบะ “เจ้าอาวาสบาดเจ็บ” วันที่ 19 เม.ย.67 พ.ต.ท.อภิชา เตียงประโคน วัตร(สอบสวน)สภ.เฉลิมพระเกียรติ…
Leave a Reply