เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2565 พระปลัดสรวิชญ์ อภิปญฺโญ,ผศ.ดร. ผอ.หลักสูตร ค.ม.จิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว มจร เปิดเผยว่า สถานการณ์โลกเปลี่ยน ระบบการศึกษาต้องปรับเพื่อให้สอดรับกับปัญหาและพลวัตของสังคมโลก โดยเฉพาะรูปแบบการจัดการเรียนการสอน หลักสูตรจัดการศึกษาที่ทันกับสถานการณ์ ร่วมถึงความร่วมมือของภาคส่วนต่างๆในการร่วมกันพัฒนาทักษะความสามารถกำลังคนในการพัฒนาตน ให้คนได้พัฒนาสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
ประกอบกับ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาให้เป็น “ศูนย์กลางการศึกษาพุทธศาสนาโลก” โดยเฉพาะเป็นผู้นำด้าน “การจัดการศึกษาพระพุทธศาสนาและวิปัสสนากรรมฐาน” บุคลากรของมหาวิทยาลัย ต้องก้าวออกจากสถาบัน ต้องเผยแพร่ออกไปสู่สังคมและนานาชาติด้วย รวมถึงการดึงคณะสงฆ์จากนานาชาติมาร่วมจัดการศึกษาและทำงานร่วมกัน
“การจัดสัมมนาทางวิชาการเป็นภาคภาษาอังกฤษ มีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นช่องทางการสื่อสารและติดตามสถานการณ์การศึกษาของโลกโดยเชิญนักวิชาการประเทศต่างๆ มาร่วมกันแสดงความเห็น (show) แลกเปลี่ยนแบ่งปัน(Share) และสนับสนุนแนวคิด(Cheer) เพื่อเป็นแนวทางการนำไปสู่การปฏิบัติและศึกษาค้นคว้าประเด็นทางการศึกษาต่อไป ชึ่งการจัดสัมมนาลักษณะแบบนี้จะจัดขึ้นเดือนละหนึ่งครั้ง ส่วนวันเวลาจะแจ้งให้ทราบอีกต่อไป” พระปลัดสรวิชญ์ กล่าว
ส่วนพระณรงค์ สังฆวิชิต ผู้ร่วมสัมมนา กล่าวว่า โครงการสัมมนาภาคภาษาอังกฤษที่เชิญมาคุยเรื่องการศึกษาในอนาคตที่ดีควรจะเปลี่ยนอย่างไร จาก อาจารย์ทั้งไทย อินเดีย พระและฆราวาส ทั้งในมจร. อินเดียและอาจารย์จากมหาวิทยาลัยนอกมจร. ต้องกราบขอบคุณรายการดีๆนี้ที่ออกแบบและดึงหลายภาคส่วนมาคุยโดยพระอาจารย์ พระปลัดสรวิชญ์ อภิปญฺโญ(ดวงชัย),ผศ.ดร.อาจารย์ประจำภาควิชาจิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนวคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อาจารย์เมตตาช่วยเชิญหลายภาคส่วนมาคุยเรื่องการศึกษาในอนาคต ถ้าอาจารย์ไม่ได้ออกมาทำเรื่องนี้เราคงไม่มีโอกาสมาคุยมาแลกเปลี่ยนกันจริงจังกันขนาดนี้ขอบคุณความรักในความรู้ความเสียสละมุ่งมั่นของทุกท่านทุกคน ชอบฟังพระอาจารย์ดร. สมพงษ์ สนฺตจิตฺโต พูดเรื่องการศึกษาแบบ Traditional education and Modern Education ย้ำให้คิดเรื่อง การศึกษาหรือ ปัญญา Education and wisdom are แตกต่างกัน จะเอาดร. Degrees ไม่ได้ ต้องมีคุณภาพ ต้องมีปัญญา
“รศ.ดร. เมธาพันธ์ โพธิธีรโรจน์ พูดเรื่องการศึกษาต่อผู้สูงอายุนี้น่าสนใจดี เพราะเวลาพูดเรื่องการศึกษาเราแทบทิ้งผู้สูงอายุไปเลย มองแต่เด็กและเยาวชน ส่วนตัวยังเชื่อว่า มจร. ยังมีคนเก่งอยู่ เยอะอีกหลายท่านและต้องหาวิธีดึงศักยภาพของคนเก่งทุกท่านออกมาให้สังคมชาวพุทธไทยและต่างประเทศยอมรับให้มากขึ้น และนำอาจารย์ในมจร.ออกมาประทะสังสรรค์กับอาจารย์ในต่างประเทศต่างมหาวิทยาลัยให้ได้เรียนรู้แลกเปลี่ยนมุมมองให้มากขึ้นมากขึ้น ไม่ใช่เรื่องเอาชนะแต่คือการเรียนรู้ร่วมกันและตกผลึกเป็นความรู้ที่สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและคำนึงถึง ระมัดระวังโทษและปัญหาที่ตามมา” พระณรงค์ กล่าว
Leave a Reply