ส่อง “วัดพระธรรมกาย”แลดูพระสงฆ์คดี “เงินทอนวัด”

“วัดพระธรรมกาย” กำลังจะกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง หลังปรากฏกาย “สองสมเด็จ” คือ “สมเด็จพระพุฒาจารย์” และ “สมเด็จพระมหาธีราจารย์” แผ่บารมีเข้าไปร่วมงานวัดเมื่อเร็ว ๆ นี้ ในขณะที่ “สมเด็จพระมหาธีราจารย์” ล่าสุดนี้ไปร่วมงานอีกครั้ง โดยเป็นประธานสงฆ์ในงานมุทิตาพระภิกษุผู้สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค และมอบโล่เกียรติยศพร้อมทุนการศึกษาแด่สำนักเรียนบาลีดีเด่นทั่วประเทศ

หากจำไม่ผิดนับตั้งแต่ต้นปี 2560 “วัดพระธรรมกาย” ถูกฝ่ายการเมือง “เล่นงาน” ให้ “DSI” ล้ำเส้นบุก “ศาสนจักร” เหยียบย่ำ “หัวใจชาวพุทธ” ทั้งแผ่นดิน เหมือนกับ “รัฐบาล” ไปก่อกรรมให้ “ตำรวจ” จับกุม “พระมหาเถระ” ระดับมหาเถรสมาคม 3 รูป โดยไปเชื่อเล่ห์ลิ้นเฒ่าทรชน “ผมหงอก” ร่วมกับ “พระภิกษุการเมืองบางรูป” กลายเป็น “ครุกรรม -ตราบาป” ของรัฐบาลจนบัดนี้

ในขณะที่กรรมที่กลุ่มคนเหล่านี้ทำ กำลังไล่ล่าคนแล้วคนเล่า เช่น ตำรวจกระชากจีวรพระภิกษุถูกรถชน “ตายโหง” ในขณะที่มีข่าวลือว่าบิ๊ก “DSI” ที่นำกำลังบุกวัดพระธรรมกาย มีคนเห็นภาพ “นั่งรถเข็น” ไป “ขอขมา” สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ถึงวัดปากน้ำภาษีเจริญ

“เปรียญสิบ” พูดมาตั้งแต่เกิดเรื่องแล้วว่า การที่ “รัฐบาล-มหาเถรสมาคม” ดำเนินการทั้ง 2 กรณี ล้วน “ผิดพลาดมหันต์” สิ่งที่เกิดขึ้นกับ วัดพระธรรมกาย สิ่งที่เกิดขึ้นกับ พระมหาเถรสมาคม 3 รูป ล้วนเกิดจาก “อคติ” ล้วนเกิดจาก “การเมือง” เกิดจาก “ความโง่” ของผู้นำไทยล้วน ๆ ส่งผลเสียหายต่อความเจริญพระพุทธศาสนาและประเทศชาติ…อย่างไม่น่าให้อภัย

“เปรียญสิบ” เชื่อว่า ในประเทศไทยหากพูดถึง “ศาสนจักร” ไม่ว่าวัดไหนหรือองค์กรศาสนาใด ไม่ว่าจะเป็น มจร. หรือ มมร. ไม่มีใครยิ่งใหญ่เท่ากับ “วัดพระธรรมกาย”

ปัจจุบัน “วัดพระธรรมกาย” มีวัดและศูนย์ปฎิบัติธรรมอยู่ทุกมุมโลก 102 แห่ง ครบทุกทวีป แม้กระทั้ง “ประเทศมุสลิม” อย่าง จอร์แดน-โอมาน-บาห์เรน-บรูไน วัดธรรมกายก็มีศูนย์ปฎิบัติธรรมมีพระจำพรรษา ถามว่า “องค์กรพุทธ” ในประเทศไทย ใครทำได้แบบนี้ได้บ้าง ในขณะที่ภายในประเทศ มีวัดและศูนย์ปฎิบัติธรรมมากกว่า 120 แห่ง

ส่วนที่ตั้งวัดพระธรรมกาย จังหวัดปทุมธานี มีพื้นที่ประมาณ 2,500 ไร่ เท่ากับพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม มีพระภิกษุ-สามเณร จำพรรษา 1,500 รูป มากที่สุดในประเทศไทย หากรวมพระภิกษุที่ส่งไปอยู่ต่างประเทศและจำพรรษาอยู่ตามจังหวัดต่าง ๆ แล้ว วัดพระธรรมกายมีพระภิกษุร่วม 2,000 รูป มีสำนักเรียนบาลีที่ใหญ่ที่สุด

“สมเด็จพระมหาธีราจารย์” สมองระดับ “ขงเบ้ง” มือประสานสิบทิศ บารมีมากล้น ย่อมมองว่า การพระศาสนา การสาธารณสงเคราะห์ หากจะให้ “มั่นคงและยั่งยืน” ต้องอาศัยขุมกำลัง “วัดพระธรรมกาย” เป็นกองหนุน เพราะพร้อมทั้ง มวลชน ทุน และเครือข่าย จึงพร้อมเป็น “ต้นโพธิ์-ต้นไทร” ให้เข้ามาอยู่อาศัยพักพิง “เกื้อกูลซึ่งกันและกัน”

ในขณะที่พระสมเด็จ หรือพระเถระบางรูป “ไม่กล้า” แม้กระทั่งจะเข้าวัดพระธรรมกาย ไม่กล้าแม้กระทั่งจะให้คณะสงฆ์วัดพระธรรมกายเข้าไป “มุทิตาสักการะ” หรือขอพบ เพราะถูกเป่า “ล้างสมอง” ว่าวัดและคณะสงฆ์วัดพระธรรมกายเป็นภัยต่อพุทธศาสนา ความคิดแบบนี้เกิดจาก “สันดานชนชั้นไพร่” ล้วน ๆ

ในขณะที่เวลา “ผู้นำต่างศาสนา” ขอเข้าพบ อ้าแขนรับยิ้มล่า!! กระจอกสิ้นดี!!

ที่พูดนี้มิได้ความว่า “เปรียญสิบ” เป็นศิษย์วัดพระธรรมกาย หรือเป็นศิษย์ของพระมหาเถระ “คดีเงินทอนวัด” บอกตรง ๆ แม้แต่ข้าวมื้อเดียว ไม่เคยได้กินฟรีจาก..วัดเหล่านี้

ล่าสุด “คดีเงินทอนวัด” เห็นสำนักนายกรัฐมนตรีร่วมกับคณะอดีตพระพรหมสิทธิ วัดสระเกศ จัดพิมพ์หนังสือ “ทศชาติ : ฉบับญาณวิชระ” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ถือว่าเป็น “นิมิตหมายที่ดี” เพราะหนังสือแบบนี้ กว่าจะพิมพ์ได้ หมายความว่าต้องมี “สัญญาณบวก” ซ้ำเห็น “พระมหาเทอด” ไปออกวิทยุกรมประชาสัมพันธ์ด้วยแล้ว ในฐานะคนเคยทำงานช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์เก่าสิบกว่าปี เชื่อว่าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้ต้องได้รับ “ไฟเขียว” จากชนชั้นอำนาจแน่นอน


ทั้งสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เข้าไปร่วมงานกับวัดพระธรรมกาย ทั้งอดีตพระพรหมสิทธิและคณะ เรียบเรียงและจัดพิมพ์หนังสือ “ทศชาติ” ร่วมกับสำนักนายกรัฐมนตรี ชนชั้นปัญญาต้องมองออกว่า..ชนชั้นอำนาจในประเทศไทยเริ่มเดินหน้า..การเยียวยาความผิดพลาดในอดีตแล้ว คือ ทำให้เห็นโดยไม่ต้องพูดให้มากความ ประเภทต่อความยาวสาวความยืด

คงเหลือแต่พวก “ดอกบัวใต้ตม” บางจำพวกที่ไร้ “สติและปัญญา” ยึดมิจฉาทิฏฐิเป็นที่พึ่ง ถูกอคติครอบงำ  “ดวงตามืดบอด” ยังคิดว่าวัดพระธรรมกายและอดีตพระมหาเถระคดีเงินทอนวัดเป็นภัยต่อพระพุทธศาสนาและประเทศชาติ เป็นภัยต่อคณะสงฆ์ คนจำพวกนี้แม้ยืนอยู่ตรงหน้าพระพุทธเจ้า พระองค์คงหน่ายหน้าหนี..เพราะโปรดไม่ขึ้น??

…………………………

คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง

โดย….“เปรียญสิบ” : [email protected]

Leave a Reply