วันที่ 14 พฤศจิกายน 65 ตามที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้กำหนดพิธีประสาทปริญญาแก่ผู้สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิต มหาบัณฑิต และพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต รวมทั้งเข็มเกียรติคุณและดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ประจำปี พุทธศักราช 2565 ระหว่างวันที่ 10 -11 ธันวาคม 2565 เวลา 13.00 น. ณ อาคาร มวก. 48 พรรษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้มีการกราบทูลอาราธนา สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งต่อมาสมเด็จพระสังฆราช ทรงโปรดรับอาราธนาเสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธีประทานปริญญาบัตรให้ในวันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม 2565 ส่วนวันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม ทรงมอบหมายให้ “สมเด็จพระมหาธีราจารย์” กรรมการมหาเถรสมาคม วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาคมปฎิบัติหน้าที่แทน ได้สร้างความปราบปลื้มและยินดีแก่ผู้บริหาร คณาจารย์ และนิสิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะนิสิตผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีที่จะเข้ารับประทานปริญญาบัตรในวันที่ 10 ธันวาคม ที่มีจำนวนถึง 2,921 รูป/คน
สำหรับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มีนิสิตที่สำเร็จการศึกษามาแล้วจำนวน 67 รุ่น แยกเป็นระดับปริญญาตรี 63,484 รูป/คน ปริญญาโท 10,154 รูป/คนและปริญญาเอก 2,537 รูป/คน รวมทั้งสิ้น 76,175 รูป /คน
ปัจจุบันเปิดการเรียนการสอนไปแล้วทั่วประเทศและทั่วโลก โดยในต่างประเทศมีสถาบันสมทบ 5 ประเทศ ได้แก่ ประเทศฮังการี สิงคโปร์ ศรีลังกา เกาหลีใต้ และใต้หวัน
ส่วนในประเทศไทยมีวิทยาเขต วิทยาลัยสงฆ์ หน่วยวิทยบริการและโครงการขยายห้องเรียน ครอบคลุมทุกภูมิภาคใน 45 จังหวัดทั่วประเทศ เปิดการเรียนการสอนมากถึง 227 หลักสูตร เพื่อให้พระภิกษุ สามเณร และประชาชนทั่วไป มีนิสิตทั้งสิ้นประมาณ 20,000 รูป/คน มีผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่มากกว่า 3,000 รูป/คน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ผลิตบุคลากรไม่เฉพาะเพื่อสนองงานคณะสงฆ์เท่านั้น แม้แต่ในสังคมไทยก็มี “ศิษย์เก่า” จากสถาบันการศึกษาแห่งนี้เป็นจำนวนมากเช่นกัน
Leave a Reply