“เพชรวรรต” ทึ่ง “เจ้าคณะปกครองโคราช” อยากได้ “ธนาคารพุทธ” พ้องแนวคิดเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เพื่อไทย

เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 เวลา 16.00 น. ที่วัดบึง พระอารามหลวง จ.นครราชสีมา นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล อดีตรองประธานกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร และผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่าตนและคณะได้เข้ากราบพระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เพื่อรับฟังแนวคิดความยากลำบากของพระสงฆ์ในพื้นที่ภาคอีสาน

พระเทพสีมาภรณ์ กล่าวว่า อาตมาเห็นว่าควรมีธนาคารพระพุทธศาสนา เพราะหากมาเห็นการทำงานโดยเฉพาะทำงานในพื้นที่ต่างจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสาน จะรู้ว่าพระสงฆ์ทำงานกันหนักมาก อย่างวัดของอาตมา โรงเรียนพระปริยัติธรรมก็มิได้เงินจากทางการมาช่วยเลย ก็ได้ญาติโยมให้การร่วมบุญในการสนับสนุนตรงนี้ก็กว่า 20 ล้านบาทต้องหาเงินเอง เงินที่ต้องช่วยเหลือพระเณร ทั้งงานปริยัติธรรม สามัญ บาลี ต่อเดือนก็ต้องจ่ายหลายแสนบาท อย่าคิดว่าพระอยู่สบาย ทำงานกันเหนื่อยมาก ภารกิจทั้ง 6 ด้านของสงฆ์ต้องปฏิบัติ รวมทั้งหน้าที่ของสงฆ์ตามพระธรรมวินัย ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ เทศนา ก็ต้องทำให้ครบถ้วน ญาติโยมถึงจะศรัทธาไม่ได้เป็นงานที่ง่าย หากรัฐบาลผลักดันธนาคารพุทธ เป็นเหมือนเม็ดเงินที่พร้อมสนับสนุนงานการศาสนา โดยโปร่งใส ก็จะทำให้พระตัดกังวลออกไปได้ สำหรับแนวคิดว่าพระห้ามจับเงิน ถ้าพระไม่จับเงินจะขยายงานศาสนาอย่างไร สำคัญตรงที่จับเงินแล้วเป็นเพียงทางผ่านเพื่อให้งานสำเร็จก็จะเป็นคุณูปการ

ด้านนายเพชรวรรต กล่าวว่า จากที่ผ่านมาตนได้ปฏิบัติ ในกรรมาธิการศาสนาฯ ก็ได้รับการเสนอให้มีพรบ.ธนาคารพุทธ โดย มรว.จิราคม กิติยากร ซึ่งตนและคณะก็ได้ร่าง พรบ.ธนาคารพุทธฯ เรียบร้อยแล้ว แต่ติดขัดว่าเป็น พรบ. เกี่ยวกับการเงิน ล่าสุดได้มีหนังสือจากสำนักนายกรัฐมนตรี ในการนำของพล.อ.ประยุทธ ก็ปัดตก พรบ. ดังกล่าวตกไป ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายมาก เพราะแนวคิดนี้เป็นการดำเนินการของฆราวาสไม่เกี่ยวกับพระสงฆ์ แต่จะมีพุทธบริษัทสี่เข้ามาเป็นที่ปรึกษาอย่างมีธรรมาภิบาล อย่างโปร่งใส

นายเพชรวรรต กล่าวต่อไปว่า แนวคิดธนาคารพุทธนี้ ในความคิดเห็นของตน มีความสัมพันธ์กับแนวคิดเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ของพรรคเพื่อไทย เพราะเริ่มต้นต้องมีจุดรวมของเงินที่เป็นลักษณะของธนาคาร การผันเงินไปสู่รากหญ้า โดยมีการตั้งต้นจากงบประมาณชาติ จะมีเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบ อยู่หลายรอบ ตนอาจจะเสนอต่อพรรคเพื่อไทยหากได้จัดตั้งเป็นรัฐบาล เพื่อผลักดันธนาคารพุทธในอนาคตเพราะเม็ดเงินหากเป็นเงินสกุลดิจิตอล หากมีธนาคารรองรับจะได้รับการเชื่อถือ หากเป็นธนาคารพุทธแล้วจะกลายเป็นธนาคารสากลทันทีเพราะมีชาวพุทธอยู่ทั่วโลก และที่สำคัญมหาอำนาจทางด้านการเงินเริ่มกลายมาเป็นชนชาติทางเอเชีย เช่น จีน เป็นต้น จะทำให้สกุลเงินดิจิตอล เติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะใช้กันทั่วโลกโดยอาศัยที่เมืองไทยเป็นเมืองพุทธ และกระจายสกุลเงินนี้ออกไป เหมือนในอดีตที่เมืองไทยในสมัยอาณาจักรตามพรลิงค์ นครศรีธรรมราช เคยใช้สกุลเงิน “นโม” ขยายอย่างโด่งดังไปทั่วโลกมาแล้ว

Leave a Reply