เห็นภาพ “พระคุณเจ้า” กลุ่มหนึ่งต้อนรับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่  “ห้องรับรองพระสงฆ์” ณ สนามบินขอนแก่นแล้ว อดปลื้มใจและภูมิใจไม่น้อย..เพราะเรื่องนี้ “ผู้เขียน” ร่วมเป็น “ติ่ง” น้อย ๆ  ติ่งหนึ่งในการร่วมเรียกร้องให้มีเช่นกัน

แต่ “แม่งานใหญ่” คนเป็น “สารตั้งต้น” เรียกร้องผ่านสื่อถึงสิทธิ “ความเสมอภาคตามกฎหมาย” หลักคือ “พระราชวัชรสารบัณฑิต” หรือ “เจ้าคุณประสาร”  เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย เมื่อท่านไปเห็น “ห้องละหมาด” ของศาสนาอิสลาม แต่ไม่เห็นห้องสำหรับ “รับรองพระสงฆ์” เพื่อประกอบศาสนกิจบ้างทั้งที่ “จังหวัดขอนแก่น” ถือว่าเป็น “ศูนย์กลางพุทธศาสนา” ในภาคอีสาน สนามบินแห่งนี้มีพระมหาเถระไม่ว่าจะเป็น เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เจ้าคณะภาค หรือแม้กระทั้งพระสงฆ์ ใช้กันเป็นประจำแต่ไม่มีห้องรับรอง..พระสงฆ์

ตอนนั้นเป็นข่าวใหญ่โต แน่นอนชาวพุทธ คณะสงฆ์บางคนบางรูป ประเภท “โลกสวย -ปัญญาน้อย” ประเภท “สายตาสั้น” มองไม่เห็นอะไร..ทัั้งสิทธิทางกฎหมาย ความชอบธรรม หรือแม้กระทั้งความเป็น “เมืองพุทธ” เห็นแต่  “กำแพงวัด” ของตนเอง รอให้โยมประเคนให้อย่างเดียว..อาจมองว่า “เจ้าคุณประสาร” ทำเกินหน้าที่ความเป็นสมณสารูป เรียกร้องสิ่งที่  “ไม่น่าทำได้” 

“ผู้เขียน” สนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ แม้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ดีหรือเสียกับ “พระสงฆ์จังหวัดขอนแก่น” เคยไปใช้สนามบินแห่งนี้ในฐานะ “ลูกค้า”  2-3 ครั้ง ตาม “ปลัดเก่ง” คุณสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดมหาดไทยไปครั้งหนึ่งอีกครั้งตาม “พระเทพปวรเมธี” รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มจร ไปอีกครั้งหนึ่ง แค่นั้น

“เจ้าคุณประสาร” ขอให้ช่วยติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตอนนั้นไม่รู้ว่า “สนามบินขอนแก่น” ขึ้นกับ “กรมท่าอากาศยาน” หรือ “บริษัทท่าอากาศยานไทย” ติดต่อไม่ติดทั้งทางโทรศัพท์และอีเมล์ ปล่อยล่วงเวลาเนิ่นนานหลายอาทิตย์

วันหนึ่งมี “นัดพบ” กับ ดร. นิยม เวชกามา ดร. เพรชวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล  ดร.สำราญ สมพงษ์   ดร.ปิง หรือ คุณณพลเดช มณีลังกา พร้อมคณะ คุยไปคุยมา ดร.ปิง บอกว่ารู้จักมักคุ้นกับ “อธิบดีกรมท่า” จึงรับอาสาประสานไป ผลสรุปคือ..ดีลลงตัว

หลังจากนั้นไม่นาน “เจ้าคุณประสาร” ติดต่อมาบอกว่า “สนามบินขอนแก่น” พร้อมแล้วให้ “ฝ่ายเรา” ไปคุย จึงยกทีมกันไป..และไปในนาม “ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศ”  โดยมี “พระครูปลัดธีวิทย์” พระครูปลัดสุวัฒนสัจจคุณ รองเลขาศูนย์พิทักษ์ พร้อมคณะสื่อมวลชนไปด้วย

งบประมาณค่าเดินทางทั้งหมด ได้รับการอุปถัมภ์จาก “เจ้าคุณประสาร” ไม่ได้ถามว่า..เอามาจากไหน

เมื่อถึงสนามบินขอนแก่น “ผอ.สนามบิน” ชื่อ “สมหมาย” นามสกุลจำไม่ได้ เข้ามาต้อนรับคณะเราถึงภายใน พร้อมกับพาไปดู “ห้องรับรองพระสงฆ์” ที่เตรียมไว้แบบลวก ๆ  กระทันหัน ป้ายหน้าห้องติดคำว่า “ห้องปฎิบัติศาสนกิจ”  ผู้เขียนเป็นคนบอกว่าต้องเปลี่ยนเป็น “ห้องรับรองพระสงฆ์” หากเป็นชื่อ ห้องปฎิบัติศาสนกิจ ศาสนอื่นเขาก็มาใช้ได้ ตอนนี้ไม่รู้ว่าเปลี่ยนแล้วหรือยัง เมื่อคุยกันเรียบร้อย “คุณสมหมาย” พาไปดูห้องรับรองต่าง ๆ ชั้น 2 มีห้องรับรองหลายห้อง ว่างมากมาย “ผู้เขียน” ถามถึงห้องละหมาด คุณสมหมายก็พาไปดู แต่ไม่ได้เข้าไปดูด้านใน..เพราะกลัวไม่ให้เกียรติ

“ผู้เขียน” ถาม ผอ.สนามบินขอนแก่นว่า ทำไมสนามบินทุกแห่ง ต้องทุกมี “ห้องละหมาด” แต่ทำไมไม่มี  “ห้องรับรองพระสงฆ์” ท่านให้ข้อมูลว่า ยุครัฐมนตรีคนมุสลิมท่านหนึ่ง ท่านไปปฎิบัติงานที่ภาคใต้..เมื่อถึงสนามบิน ท่านถามถึงห้องละหมาด..แต่ไม่มี   ด้วยเหตุนี้ปัจจุบันเวลาสร้างสนามบินที่ไหน..ในแบบแปลนเลยต้องมี “ห้องละหมาด” และคนที่เขียนแบบหรือคนตรวจ “รับงาน” ก็คือ ชาวพุทธเรานี่แหละ!!  สุดช้ำ

ก่อนกลับ “เจ้าคุณประสาร -พระครูปลัดธีวิทย์” รับปากกับ ผอ.สนามบินขอนแก่นว่าจะหา “เจ้าภาพ” และงบประมาณ มาปรับปรุงตบแต่ง “ห้องรับรองพระสงฆ์” พร้อมหนังสือพระพุทธศาสนามาไว้ในห้องรับรองแห่งนี้ ตอนหลังได้รับแจ้งว่า “เจ้าคุณประสาร” ว่าได้คุยกับ “เจ้าคุณชุมพร”  ปัจจุบันคือ  “พระวชิรรัตนาภรณ์” เลขานุการเจ้าคณะภาค 9 เรื่องการหาเจ้าภาพ เจ้าคุณชุมพร แจ้งว่าได้ปรารภกับ “พระพรหมวัชรเมธี” เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม ในฐานะเจ้าคณะภาค 9 แล้ว “หลวงพ่อยินดีเป็นเจ้าภาพให้ทั้งหมด” 

ตั้งแต่นั้นมาจนบัดนี้..ผู้เขียนไม่เคยเดินทางไปสนามบินขอนแก่นหรือติดตามเรื่องนี้อีกเลย..จนเห็นภาพที่ปรากฎในข่าว เห็นภาพห้องที่ได้รับการปรับปรุงแล้ว..สบายใจ ชื่นใจ และภูมิใจ

สิ่งที่  “พวกเรา” เรียกร้องมาแล้วได้ผล ผลที่ได้มีคน “สานต่อ” คือ ชาวพุทธ คณะสงฆ์ในจังหวัดขอนแก่นและใกล้เคียง “รับช่วง” ต่อ  ไม่ปล่อยทิ้งให้ “รกร้าง” ไม่อย่างนั้นจะมีหน่วยงานภาครัฐดูถูกอีกว่า..มีห้องรับรองพระสงฆ์แล้วรกร้าง จึงไม่จำเป็น “ต้องมี” 

ตอนนั้นเท่าที่คุยกับ “เจ้าคุณประสาร” หรือ พระราชวัชรสารบัณฑิต และ “พระครูปลัดธีวิทย์” หรือพระครูปลัดสุวัฒนสัจจคุณ แกนนำ ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย..

สนามบินขอนแก่น..แค่ “จุดเริ่มต้น”  ถือว่าเป็น “ต้นแบบ” ที่ศูนย์พิทักษ์ ฯ จะร่วมผลักดันเดินหน้าต่อไปคือ..สนามบินทุกแห่งต้องมี..ห้องรับรองพระสงฆ์