คณะสงฆ์ชื่นชม!! สว.เฉลิมชัย เครืองาม หนึ่งเดียวในรัฐสภาฝากนโยบายพุทธศาสนาถึง..รัฐบาลเศรษฐา วันที่ 14 กันยายน 2566 การแถลงนโยบายรัฐบาลของ “ครม.เศรษฐา ทวีสิน” ระหว่างวันที่ 11 – 12 กันยายน 2566 ต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ ผ่านพ้นไปแล้ว มีหลากหลายนโยบายที่สมาชิกรัฐสภาประกอบด้วย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และ สมาชิกวุฒิสภา ร่วมกันอภิปรายเสนอแนะซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ในขณะที่นโยบายด้าน “ศาสนา” อันเป็นสถาบันหลักของชาติ 1 ใน 3 ไม่มีสมาชิกท่านใดหยิบยกขึ้นมาอภิปรายสักรายเดียว คงมีแต่ พล.อ.ต.เฉลิมชัย เครืองาม สมาชิกวุฒิสภาท่านเดียว ลุกขึ้นมาอภิปราย พร้อมแนะนำให้รัฐบาลนำโดยพรรคเพื่อไทย ดำเนินการเร่งออกกฎหมายเพื่อความมั่นคงแห่งพระพุทธศาสนา 3 ประการคือ หนึ่ง พระราชบัญญัติส่งเสริมคุ้มครองกิจการพระพุทธศาสนา สอง พ.ร.บ.สังเวชนียสถาน และ สาม การสร้างพุทธมณฑลประจำจังหวัด เวปไซต์ “Thebuddh” ได้ถอดคำอภิปรายของ พล.อ.ต.เฉลิมชัย เครืองาม อย่างละเอียดดังนี้ ..ผมขอปรับเรื่องที่ผมจะอภิปรายเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์บ้านเมือง ที่คิดว่าเราต้องการความสงบร่มเย็น ความปรองดอง สมานฉันท์ สิ่งที่ผมจะพูดนั่นได้บรรจุอยู่ในนโยบายรัฐบาลฉบับปัจจุบันอยู่หน้า 24 ถึงแม้จะเขียนไว้เพียงเล็กน้อยแต่ผมเห็นว่ามีความสำคัญและเป็นประโยชน์ที่จะมีการต่อยอดนำไปใช้ ข้อความที่เขียนไว้ในหน้า 24 ส่วนหนึ่งคือเขียนว่า การส่งเสริมสถาบันศาสนาให้เป็นกลไกในการสร้างคุณธรรมและจริยธรรมในการดำเนินชีวิต คงจะแปลกใจที่ผมพูดเรื่องศาสนา นี่แหละครับคือเป็นหนึ่งในสามสถาบันหลักของชาติ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ผมมองดูแล้วคงไม่มีใครพูดเรื่องนี้ ผมจึงจำเป็นต้องหยิบยกเรื่องนี้มา เรื่องนี้ได้บรรจุไว้ในหมวด 6 ในนโยบายแห่งรัฐตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เขียนไว้ในมาตรา 67 ดังนี้รัฐพึงอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น ในการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาอันเป็นศาสนาที่ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่นับถือมาช้านาน รัฐพึงส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาการเผยแผ่หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเถรวาทเพื่อให้เกิดการพัฒนาจิตใจและปัญญา และมีมาตรการกลไกในการป้องกันมิให้มีการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาไม่ว่าในรูปแบบใด ทำไมผมถึงอภิปรายว่ามีความสำคัญ เรื่องนี้อยู่ในหมวดแนวนโยบายแห่งรัฐทุกมาตราที่เขียนอยู่ในนโยบายแห่งรัฐธรรมนูญจะเขียนไว้ว่า “พึง” แต่ข้อความที่ผมอ่านเมื่อสักครู่นั้นรัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่า “ต้อง” เป็นต้องที่อยู่ในแนวนโยบายแห่งรัฐคือต้องมีมาตรการและกลไกในการป้องกันมิให้มีการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาไม่ว่าในรูปแบบใด เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ผมขออนุญาตขยายความว่า “เวลานี้นั้นศาสนาพุทธแม้ว่าจะไม่ได้บัญญัติไว้ว่าเป็นศาสนาประจำชาติแต่พึงระลึกไว้เสมอและเราก็เข้าใจโดยตลอดว่าเป็นศาสนาที่มีมาช้านาน และคนไทยนั้นยึดถือว่าเสมือนหนึ่งเป็นศาสนาประจำชาติ สิ่งที่เกิดขึ้นกับพุทธศาสนาในประเทศไทยเวลานี้ต้องยอมรับว่ามีภัยที่มีผลกระทบกับความมั่นคงของพุทธศาสนามากมาย ทั้งภัยภายนอกและภายใน ฉะนั้นผมเห็นว่ารัฐบาลมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีกฎหมายพิเศษขึ้นฉบับหนึ่งชื่อว่า “กฎหมายพระราชบัญญัติส่งเสริมคุ้มครองกิจการพระพุทธศาสนา” หากรัฐบาลรับเรื่องนี้เอาไว้ ผมจะบอกว่าท่านจะได้รับการสรรเสริญจากพระสงฆ์ทั่วประเทศ เพราะนี่จะเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยมีกฎหมายเพื่อกำกับคุ้มครองกิจการพระพุทธศาสนา ซึ่งกิจการพระพุทธศาสนานั้นมีอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของศาสนสถาน ศาสนวัตถุ ศาสนสมบัติ ศาสนพิธี ศาสนิกชน ศาสนทายาท ศาสนศึกษา และที่สำคัญคือศาสนธรรม เรามีปัญหาเรื่องศาสนสมบัติ ศาสนิกชนมากมาย..” เพราะฉะนั้นหากรัฐบาลรับเรื่องนี้ไว้จะเป็นมิติและกลไกสำคัญในการกำกับคุ้มครองพระพุทธศาสนา ซึ่งเรื่องนี้ชาวพุทธ พระสงฆ์กว่า 300,000 รูป วัดกว่า 30,000 วัด ต้องการคุ้มครองกิจการพระพุทธศาสนาที่มีอยู่มากมายนั้นหากได้รับการคุ้มครอง เพราะขณะนี้เรามีเพียงกฎหมายพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ฉบับปี 2505 แก้ไขปี 2484 (ยกเลิก พ.ร.บ.สงฆ์ ปี 2484 มาเป็น พ.ร.บ.สงฆ์ 2505) ซึ่งไม่เพียงพอ ปกติพระสงฆ์จะใช้ “พระธรรมวินัย” ในการกำกับดูแล แต่ลำพังพระธรรมวินัยอย่างเดียวในยุคนี้ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงยุคสมัยมากมายไม่ว่าการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีนั้น พระธรรมวินัยอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการคุ้มครอง รัฐจะต้องทำเรื่องนี้ และผมเห็นเรื่องนี้มีความสำคัญเพราะรัฐธรรมนูญเขียนเอาไว้ว่าต้องมีกลไกมาตรการในการกำกับคุ้มครองพระพุทธศาสนา เพราะฉะนั้นท่านไปดำเนินการได้เลย ที่ผมจะฝากไว้คือ 3 ประเด็น 1. มีพระราชบัญญัติที่ผมว่าไว้ 2. รัฐบาลสนับสนุนให้มีกองทุนหนึ่งเพื่อส่งเสริมให้พระสงฆ์ ศาสนิกชนชาวพุทธได้เดินทางไปแสวงบุญ ณ ประเทศอินเดียหรือเนปาลเพื่อเป็นการกราบสักการะต่อสังเวชนียสถาน เรื่องนี้เป็นสิ่งที่มีความสำคัญจริง ๆ แล้วเคยมีการทำแล้วเมื่อสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยเมื่อ 20 ปีที่แล้วและไม่มีการส่งเสริมต่อเติมมาคือ เรื่องของการสร้างพุทธมณฑลประจำจังหวัดให้มีกระจายอยู่ทั่วประเทศ งบประมาณเหล่านี้ไม่มาก หลายจังหวัดมีแล้วอีกหลายจังหวัดยังไม่มี พุทธมณฑลจังหวัดเป็นสิ่งที่ชาวพุทธกว่า 60 ล้านคนต้องการมานานรัฐบาลสามารถที่จะดำเนินการได้ จำนวนผู้ชม : 25,498 Leave a ReplyFacebook Comments More Articles By the same author เขียนถึง “ดร.อุทิส ศิริวรรณ” หลังประกาศ “อาจลงการเมือง” อุทัย มณี ส.ค. 18, 2021 เห็น ดร.อุทิส ศิริวรรณ โพสต์เฟชบุ๊คถามถึงเงินเยียวยาของพระภิกษุ… ปชต.วิถีพุทธ!’มจร’พร้อมเลือกตั้งนายกองค์กรนิสิต อุทัย มณี ม.ค. 16, 2019 เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 16 ม.ค.2562 ที่สำนักงานกองกิจการนิสิต สำนักงานอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร)… “นิยม เวชกามา” โต้ “ไพบูลย์ นิติตะวัน” เรื่องปลด 3 จจ. “ยังไม่จบ” จ่อทำหนังสือขอ “เจ้าคณะหนใหญ่”ชี้แจง อุทัย มณี ต.ค. 15, 2021 วันที่ 15 ต.ค. 64 ดร. นิยม เวชกามา ส.ส. เพื่อไทย โต้กลับคำแถลงของนายไพบูลย์… พระเทพปวรเมธีประธานสงฆ์ ในพิธีฌาปนกิจศพมารดาศ.พิเศษ ร.ท.ดร.บรรจบ บรรณรุจิ อุทัย มณี ต.ค. 03, 2020 วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ.2563 เวลา 15.30 น.พระเทพปวรเมธี, รศ.ดร. รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร… ยุค ๔.๐ ยุคพี่มหาเปิดตัว ‘พรรคมหาเปรียญ’ สู่สังคมไทย? อุทัย มณี ธ.ค. 28, 2018 @ ผมว่ายุคนี้เป็นยุคที่บรรดาพี่มหาทั้งหลายของผมเริ่มออกจากมุมอับของสังคมที่เคยแอบๆอยู่ก็มทยอยๆออกมาแสดงตังเปิดตัวกันเป็นจำนวนมาก… “ปลัดมท.”หารือ “เอกอัครราชทูต กต.” เดินหน้าขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากสู่สากล อุทัย มณี ก.พ. 22, 2022 ปลัดกระทรวงมหาดไทยหารือร่วมเอกอัครราชทูตประจำกระทรวงการต่างประเทศ… พช.ไอเดียเจ๋ง!! ติดคิวอาร์โค้ดต้นไม้ถวาย “วัดมหาจุฬาฯ” อุทัย มณี มิ.ย. 09, 2021 วันที่ 9 มิถุนายน 2564 นางสาวสรินยา มาตรดำ พัฒนาการอำเภอวังน้อย… ดูกันชัดๆกรณี’ดราม่า พล.ต.ท.ใหญ่กว่า พล.ต.อ.’ เฟซบุ๊กพ.ต.ท. ระพิณ ชาติไทย เปิดให้เห็นภาพทุกมุม อุทัย มณี ธ.ค. 23, 2018 วันที่ 23 ธ.ค.2561 เฟซบุ๊กพ.ต.ท.ระพิน ชาติไทย เลขานุการสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย… สำนักพุทธ ฯ เบรก !! “ม๊อบครูสอนพระ-เณร” อ้างส่งหนังสือถึงคลังขอเบิก “งบฉุกเฉิน” 596 กว่าล้านบาทแล้ว อุทัย มณี ส.ค. 20, 2023 วันที่ 20 ส.ค. 66 สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติทำหนังสือด่วนที่สุด… Related Articles From the same category “สมเด็จพระพุฒาจารย์”เริ่มแล้ว! ปลูกฟ้าทะลายโจร 10,000 ต้น เขาแม่ชีโคราช วันที่ 6 สิงหาคม 2564 ที่โรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัย ดร.ณพลเดช มณีลังกา อนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาด้านพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆ สภาผู้แทนราษฎร และนายกสมาคมการบินนภารักษ์ ได้จัดเตรียมต้นกล้าฟ้าทะลายโจร ที่จะนำไปปลูกที่เขาแม่ชี จ.นครราชสีมา ได้นำมาถวายต้นกล้ากับสมเด็จพระพุฒาจารย์ โดยมีพระสุวรรณมหาพุทธาภิบาล (เจ้าคุณโฮ้) จำนวนเริ่มต้น 500 ต้น ซึ่งต้นกล้าทั้งหมดจำนวน 10,000 ต้น พระสุธีวราภรณ์ (ยุวชน เขมปญฺโญ ป.ธ.6)… ชาวพุทธกาฬสินธุ์เดือดฮือไล่ ‘พระครูเล็ก’ พ้นจังหวัดหลังมีข่าวจะมาเยี่ยม “สนามสอบนักธรรม” วันที่ 21 พ.ย. 64 หลังจากเมื่อวานนี้มีภาพพระครูสุทธิญาณโสภณ (เล็ก… ดร.มหานิยมร่วมธรรมะสัญจรคณะสงฆ์สกลนครอำเภอเต่างอย เมื่อวันจันทร์ที่ 12 กันยายน 2565 ดร.นิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร เขต… เรื่องเล่า : โคกหนองนา “ระนอง” “ทีมข่าวเฉพาะกิจ” หลังจากเดินทางไปร่วมพูดคุยกับชาวบ้านถึงผลสำเร็จ… ปลัดมหาดไทย รับมอบ พื้นที่ปรับปรุงภูมิทัศน์ริมถนนราชพฤกษ์ตัดใหม่ และถนนเลียบคลองมหาโยธาเมืองปทุมธานี จากภาคส่วนเอกชน ชื่นชมเอกชนร่วมทำดีเพื่อสังคม นที่ 25 มีนาคม 2566 ที่บริเวณริมทะเลสาบ โครงการเลค ฟอเรสต์ ราชพฤกษ์ตัดใหม่…
Leave a Reply