“วิกฤติวัดบางคลาน”..มส.ไร้น้ำยา!!

ระยะหลังๆ มานี้พยายามมากที่จะ “ข่มใจ” จะไม่ “ก้าวล่วง” ว่ากล่าว มหาเถรสมาคม เพราะเห็นว่า พวกท่านเป็น พระผู้ใหญ่ และจะหมดวาระลงแล้ว และทั้งก่อนหน้านี้ หลายครั้งหลายหนพยายามตั้งคำถามให้สังคมช่วยกันคิด ช่วยกันพิจารณาตลอดว่า มส.มีไว้ทำไม??

แต่ชาวพุทธส่วนใหญ่ ทั้งคณะสงฆ์และชาวพุทธ ยังหาคำตอบไม่ได้เหมือนกันว่า มส.มีไว้ทำไม!!

ตามพ.ร.บ.คณะสงฆ์ 2505 หน้าที่ของมหาเถรสมาคมข้อแรกคือ ปกครองคณะสงฆ์ให้เป็นไปโดยเรียบร้อยดีงาม

กรณีเหตุการณ์ “วัดบางคลาน” ตอนนี้ “จิตสำนึก” ของมหาเถรสมาคม ไม่ทราบว่า..วัดบางคลานยังเป็นไปโดยความเรียบร้อยดีงามอยู่หรือไม่

“เปรียญสิบ” แม้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปกครอง “คณะสงฆ์” แต่ในฐานะ “ชาวพุทธ” เคยบวชเรียนมา รู้สึก “อับอาย” และ “เสียหน้า” มาก เมื่อเห็นข่าว “สว.คนหนึ่ง”..ชี้หน้า-ต่อว่าพระ และพูดทำนองว่าจะ “ตบพระ”

มหาเถรสมาคม..ไม่คิดจะปกป้องเจ้าอาวาส เจ้าคณะปกครองในพื้นที่ร่วมทั้งเจ้าคณะจังหวัดบ้างหรือไร??

ทำไม!! พวกท่าน “ใจร้าย” กับผู้ใต้บังคับบัญชากันจัง โดยเฉพาะ “พระพรหมโมลี” ในฐานะรักษาการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ..ไม่คิดจะทำอะไรบ้างหรือไร “อ่อนปวกเปียก”

“เปรียญสิบ” ว่า พระคุณเจ้าอย่าเป็นเลย “เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ” ลาออกไปเถอะ อยู่ไปก็ช่วยอะไรไม่ได้..ซ้ำมีกระแสข่าวว่า อยากตัดปัญหาด้วยให้ รักษาการเจ้าอาวาสวัดปัจจุบัน…ลาออก หากเป็นจริง “พระพรหมโมลี” นี่แหละควรลาออกจากรักษาการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ให้เป็น “แม่กองบาลี” อย่างเดียวพอ

ส่งเสียงไปถึง “เจ้าคณะภาค 4” พระพรหมวัชรวิสุทธิ์ จังหวัดกำแพงเพชร ด้วย พระคุณเจ้าต้องกล้ามากกว่านี้ ลองไปเยี่ยม “แม่ทัพภาคที่ 3” ดูบ้างก็ดี

ส่วน “สมเด็จพระพุฒาจารย์” พี่ใหญ่แห่งวงการ “มหานิกาย” หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ท่านมีอีกตำแหน่งหนึ่งนอกจาก กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออกแล้วนั่นคือ “ประธานฝ่ายปกครอง” ของมหาเถรสมาคม ทุกครั้งเวลาเกิดเรื่องในวงการคณะสงฆ์ “นิ่งเงียบ” ตลอด

เรื่องวัดบางคลาน ท่านน่าจะ “ขยับปาก” กระซิบบอก “สมเด็จธงชัย” ผู้มากบารมี “ทุกวงการ” ให้ช่วยจัดการบ้าง

วัดบางคลาน” สว.ดังกล่าว ไม่มีอำนาจอะไรเลย เพียงแต่เสียงดังนิดหน่อย “เจ้าคณะปกครอง” ขี้หดตดหาย..ต่อไปหากวัดใดมีคนไปทำบุญเยอะ มีรายได้มาก..เจอกลุ่มอิทธิพลแบบนี้เข้าไปข่ม..พระไม่ตายยกเข่งหรอกหรือ

มหาเถรสมาคม เก่งเหลือเกินกับพระผู้น้อย เก่งเหลือเกินกับพระสงฆ์ เก่งเหลือเกินสอนโยม แค่ สว. ซึ่งอดีตเป็นแกนนำชาวนา กับกลุ่มอิทธิพลเล็กๆ แค่นี้ ยังไม่เอาไปอยู่ พวกพระคุณเจ้าจะมีหน้าเป็น “รัฐมนตรีพระ” มีภารกิจต้องดูแล “สังฆมณฑล” ได้อย่างไร

“เปรียญสิบ” อายที่มีมหาเถรสมาคมแบบนี้ อายต่างศาสนาที่มี “ผู้นำชาวพุทธ” ไร้สมรรถภาพเช่นนี้ ไม่ว่า “คริสต์-อิสลาม” เวลาคนของเขา โดยเฉพาะ “ผู้ใต้บังคับบัญชา” เกิดเรื่องแบบนี้ “ถึงไหนถึงกัน”

อันนี้อะไรกัน..ดีเวลา “นิมนต์” ไปงาน ดีด้วยเวลาถวายซอง “หนา หนา”

“วัดบางคลาน” เป็นแบบอย่างที่ มหาเถรสมาคม ต้องขออำนาจรัฐเข้าไปคุ้มครอง ปกป้อง “ผู้ใต้บังคับบัญชา” ยิ่งศาลวินิจฉัยให้ผู้บุกรุกผิดแล้วด้วย ยิ่งง่าย..ขออำนาจรัฐจากกองปราบ ขออำนาจรัฐจากส่วนกลาง..เชื่อเถอะไม่ถึง 3 เดือนเรียบร้อย

ส่วน “คุณแจ๋น” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่บอกว่า จะเรียกสำนักพุทธฯ เรียกตำรวจมาคุย รวมทั้งอาจชวน สว.ตัวปัญหามาคุยด้วย ซ้ำบอกต่ออีกว่า จะให้เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ “ไกล่เกลี่ย” คิดได้อย่างไร “หน่อมแน้ม”

ฟังข่าวว่า “คุณชาดา ไชยเศรษฐ” รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นคน “มุสลิม” ได้รับมอบหมายให้ปราบ “ผู้มีอิทธิพล” รับปากว่ายินดีหาก..พระคุณเจ้าร้องขอ

หาก “เปรียญสิบ” เป็น “เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ” เป็นเจ้าคณะจังหวัด เชิญ “ชาดา” แวะไปเยี่ยมเยียน “วัดบางคลาน” แล้ว

“เปรียญสิบ” ขอสาธุการ “ชาดา” ท่านทำไปเถอะ ทำตามที่ศาลท่านพิพากษาไว้แล้ว ทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย ใครโกงสมบัติศาสนาไป ใครโกงเงินวัดไป ไม่ว่าจะเป็นพระหรือฆราวาส..ต้องติดคุกให้หมด ยึดทรัพย์กลับคืนมาให้หมด

ยุคนี้บอกตรงๆ คณะสงฆ์ส่วนใหญ่ “สิ้นหวัง” หมดหวังกับ “กรรมการมหาเถรสมาคม” สิ้นหวังหมดหวังกับผู้อำนาจ “ชาวพุทธ” โดยเฉพาะนักการเมือง-เจ้าหน้าที่รัฐ ประเภท “ดีแต่พูด” ดีแต่ “สร้างภาพ” มาก

ขอพึ่ง “คุณชาดา” รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็น “คนมุสลิม” มาจากพรรคภูมิใจไทยนี่แหละ อาจแก้ปัญหาให้กับ “ชาวพุทธ” วัดบางคลานได้..

ส่วนกรรมการมหาเถรสมาคม..ฝากผู้มีอำนาจคัดสรรแต่งตั้งเร็วๆ นี้ รูปไหนตัดได้ตัด รูปไหนมีตำแหน่งมากกว่า 3 ตำแหน่ง อย่าเอามาให้เป็นเลย “เกะกะ” เสียพื้นที่ เสียโอกาสให้กับ “พระดี -พระเก่ง” รูปไหน “อายุมาก” เกิน 80 ปี อย่าแต่งตั้งให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับงานบริหาร “หวังดี” ถวายเกียรติให้ท่าน แต่อาจได้ “บาปติดตัว” เพราะเอา “คนชรา” มาทรมาน “สมอง” ไม่ทำงานแล้ว พระพุทธศาสนา สถาบันสงฆ์จะ “เจริญ -มั่นคง” ได้อย่างไร

และยิ่งตาม พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2561 การแต่งตั้งกรรมการมหาเถรสมาคม ไม่จำกัดสมณศักดิ์ ไม่จำกัดพรรษา เป็นพระราชอำนาจโดยตรง จึงควรคัดสรร “พระภิกษุ” ที่ครบเครื่องทั้ง “บู๊และบุ๋น” ให้ไปเป็น “มหาเถรสมาคม” ให้มากกว่าที่เป็นอยู่ดังชุดปัจจุบันหน่อยเถอะ..แล้วคณะสงฆ์จะแซ่ซ้องทั่ว “สังฆมณฑล”

กรณีวัดบางคลานเดียวนี้คนบ่นกันตรึม พูดกันเยอะว่า มส.ไม่มีกึ๋น-มส.ไร้น้ำยา!!

………………………………………

คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง

โดย…“เปรียญสิบ”: [email protected]

Leave a Reply