“สมเด็จพระมหาวีรวงศ์” เปิดโครงการวัดประชารัฐสร้างสุข เน้นย้ำ พระสงฆ์ต้องเป็น “นักเสียสละ -นักเผยแผ่”

วันที่25ก.ย.66 เวลา 09.00 น. ณ วัดเขียนเขต (พระอารามหลวง) อ.ธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายสาธารณูปการ ของมหาเถรสมาคม ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฎิบัติการเพื่อขับเคลื่อนโครงการ “วัด ประชารัฐ สร้างสุข”  โดยมีพระธรรมรัตนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 1 ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการวัด ประชารัฐ สร้างสุข ส่วนกลาง พระเทพเสนาบดี เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการวัด ประชารัฐ สร้างสุข ส่วนกลาง พระเทพเวที เจ้าคณะภาค 6  พระเทพปริยัติเมธี เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ เป็นต้น พร้อมด้วย นายชยพล สุขเอี่อม อธิบดีกรมการศาสนา นายอัครเดช เกียรติชานน ที่ปรึกษาด้านการปกครอง กระทรวงมหาดไทย นางพัชรินทร์ พัดทอง ผู้ตรวจสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ คณะสงฆ์  หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องที่  และประชาชนถวายการต้อนรับ

สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการวัดประชารัฐสร้างสุขว่า ในการประชุมมหาเถรสมาคมคราวที่แล้วที่ประชุมได้เห็นชอบระเบียบมหาเถรสมาคมว่าด้วยการดำเนินงานโครงการวัด ประชารัฐ สร้างสุข” ระเบียบนี้มีทั้งหมด 40 ข้อ  ระเบียบตรงนี้ต่อไปการทำงานขับเคลื่อนโครงการวัดประชารัฐสร้างสุข จะเป็นรูปธรรมได้อย่างแท้จริง ให้วัดและพระสงฆ์เป็นแกนกลางของชุมชนได้อย่างแท้จริง แต่ทั้งนี้ทั้งนั่นคณะสงฆ์ต้องร่วมด้วยช่วยกัน ทุกจังหวัดต้องช่วยกัน ทุกวัดต้องช่วยกัน หากใจเราเสียสละ โครงการวัดประชารัฐก็จะประสบความสำเร็จ เราทิ้งชาวบ้านไม่ได้ ตามหลัก “บวร” บ้าน วัด โรงเรียน หรือราชการ ต้องร่วมมือกันทำงาน ขอยกตัวอย่างความเสียสละและการเป็นนักเผยแผ่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์รัชกาลที่ 9 ท่านเป็นนักเสียสละ ท่านเป็นนักเผยแผ่ มีคราวหนึ่งตอนที่พระองค์ครองราชย์ใหม่ ๆ มีนักข่าวต่างชาติ ถามพระองค์ว่าในฐานะพระมหากษัตริย์ มีนโยบายดูและประชาชนอย่างไร ซึ่งพระองค์ตอบแบบง่าย ๆ ว่า ทำอะไรก็ได้ เพื่อให้ประชาชนมีความสุข เพื่อให้ประเทศชาติเกิดความสามัคคี และพระองค์ก็ทำแบบนี้มาตลอดตั้งแต่ครองราชย์จนสวรรคต  รวมทั้งพระองค์ทรงเป็นนักเผยแผ่ด้วย ครั้งหนึ่งพระองค์เสด็จไปต่างจังหวัดนิมนต์พระสงฆ์ไปฉันที่พระราชนิเวศน์ที่พัก พระองค์ตรัสว่า หลวงพ่ออย่าสอนให้คนมุ่งไปสวรรค์ มุ่งไปนิพพานกันให้มากนัก ต้องสอนให้พวกเขาทำอย่างไร ประพฤติตนอย่างไร จึงจะมีความสุข อยู่ด้วยกันแล้วเกิดความสามัคคี ขอให้เน้นปัจจุบันเป็นหลัก แม้แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน พระองค์เคยมีหนังสือถึงองคมนตรีว่า ช่วยกันส่งเสริมพระสงฆ์ให้มีการศึกษาและปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ  รวมทั้งมีหนังสือถึงวัดหนึ่งว่า พระสงฆ์ต้องมีจิตสำนึก ทำอย่างไรให้พระสงฆ์เป็นที่พึ่งของประชาชนและชุมชนได้  ต่อมามีองคมนตรีท่านหนึ่งนำความนี้มากราบทูลสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งพระองค์ตรัสว่า พระสงฆ์เราต้องเป็นที่พึ่งของประชาชน ต้องมีประโยชน์ต่อประเทศชาติ สถาบันพระมหากษัตริย์มีคุณูประการต่อคณะสงฆ์มาก พระสงฆ์เราต้องมีจิตสำนึก เกียรติยศที่พวกเรามีทุกวันนี้ก็เพราะมาจากพระมหากษัตริย์ เราต้องช่วยกันทำวัดให้เป็นศูนย์กลาง

“สมัยก่อนวัดเป็นศูนย์กลาง เจ้าอาวาสเป็นแกนนำชุมชน พระเป็นผู้กำหนดนโยบายในการพัฒนาหมู่บ้าน ชุมชน ปัจจุบันหายากแล้วแบบนี้ เพราะอะไร พวกเราต้องช่วยกันคิด ว่าจะทำอย่างไรให้บทบาทตรงนี้กลับคืนมา  โครงการวัดประชารัฐสร้างสุข เป็นหนึ่งในโครงการของมหาเถรสมาคม ตามแผนการปฎิบัติรูปกิจการพระพุทธศาสนา เราต้องช่วยกันยิ่งตอนนี้รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมเรื่องซอฟพาวเวอร์ วัดหลายวัดมีศักยภาพ ทำอย่างไรให้วัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ เป็นแหล่งให้คนเข้ามาสักการะบูชาของดีที่มีอยู่ในวัดได้ ตรงนี้คณะสงฆ์ วัด และโครงการวัดประชารัฐสร้างสุข เข้าไปส่งเสริมและสนับสนับสนุนได้..”

ด้าน พระธรรมรัตนาภรณ์ เปิดเผยว่า โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข เป็นหนึ่งในโครงการของแผนปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา โดยฝ่ายสาธารณูปการของมหาเถรสมาคม มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการเพื่อพัฒนาวัดให้เป็นสถานที่สัปปายะ เป็นแหล่งเรียนรู้ทางพระพุทธศาสนา และเป็นรมณียสถานอันเป็นความสงบทางจิตใจของพุทธศาสนิกชน โครงการนี้มีป้าหมายสำคัญ คือ การส่งเสริมให้มีเกิดการขับเคลื่อนกิจกรรมและองค์ความรู้ 5 ส. ไปสู่การปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ การจัดการสิ่งแวดล้อม และรักษาความสะอาดภายในวัดและชุมชน สถาบันการศึกษาให้ถูกต้องตามสุขลักษณะ และการพัฒนาการเรียนรู้ทางสังคมวิถีพุทธ และการมีจิตอาสาเพื่อการพัฒนาสังคมทที่ยั่งยืน

ต่อจากนั้นมีการมีการบรรยายจากตัวแทนกระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรมและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำหรับช่วงบ้านมีการบรรยายแนวทางประเมินโครงการวัด ประชารัฐ สร้างสุข โดย พระเทพเสนาบดี เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี และ พระสุธีรัตนบัณฑิต อนุกรรมการและเลขานุการคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการวัด ประชารัฐ สร้างสุข ส่วนกลาง พร้อมทั้งมีวัดจากทั่วประเทศเสนอผลงาน วัดต้นแบบ สร้างมาตรฐานเยี่ยม ซึ่งวันนี้มีการนำนิทรรศการภายในหอประชุมด้วย..

Leave a Reply