พช.นครพนม จับมือภาคีเครือข่ายปลูกฝังเยาวชนเรียนรู้ศาสตร์พระราชา “เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ”

วันที่ 20 สิงหาคม 2564 เวลา 08.30 น. ณ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครพนม  นายสุธี สระบัว ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยคณะผู้พิพากษา และผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครพนม ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครพนม ร่วมกับ นายศิรวัชร อ่อนเหลา โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครพนม และ นายสุรพล แก้วอินธิ พัฒนาการจังหวัดนครพนม ลงพื้นที่ร่วมกิจกรรมจอบแรกศูนย์เรียนรู้ตามโครงการ “โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง เพิ่มพลังใจเยาวชนเมืองศรีโคตรบูรณ์” ซึ่งโครงการฯ ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไข บำบัด ฟื้นฟูเด็กและเยาวชน สร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีแก่เด็กและเยาวชนด้านพฤตินิสัย การเรียนและอาชีพภายใต้กระบวนการยุติธรรม ซึ่งมีความมุ่งหวังในการสร้างพื้นที่เรียนรู้ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา ในพื้นที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครพนม พื้นที่ขนาด 1 ไร่ 2 งาน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการกล่อมเกลาเด็กและเยาวชนซึ่งอยู่ในกระบวนการรอการสอบสวน เด็กและเยาวชนซึ่งถูกควบคุมระหว่างพิจารณาคดี รวมถึงเด็กและเยาวชนที่อยู่ระหว่างถูกควบคุมตัวตามคำสั่งศาล ให้มีการปรับเปลี่ยนทัศนคติให้มีความพร้อมในการกลับไปสู่การดำเนินชีวิตตามปกติ ตลอดจนมุ่งหวังให้เด็กและเยาวชนดังกล่าว เกิดทักษะในการประกอบอาชีพตามหลักกสิกรรมธรรมชาติ อันเป็นรากฐานวิถีชีวิตของสังคมไทยในชนบท เป็นกระบวนการเรียนรู้ตามแนวทางศาสตร์พระราชา “เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ”

จากนั้น นายสุรพล แก้วอินธิ พัฒนาการจังหวัดนครพนม ที่ปรึกษาโครงการฯ พร้อมด้วย นางวรนุช กรุงเกตุ ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมงานพัฒนาชุมชน พัฒนาการอำเภอเมืองนครพนม และนักวิชาการพัฒนาชุมชนจังหวัด ได้ให้ข้อมูลฯ เพิ่มเติมและร่วมกิจกรรมกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ศาลพระภูมิ ก่อนที่จะขุดจอบแรกตามโครงการฯ

นายสุรพล แก้วอินธิ กล่าวว่า กระผมมีความยินดีอย่างยิ่ง ที่ท่านผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครพนม ผู้พิพากษาสมทบและผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครพนม เปิดโอกาสให้สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครพนม ได้เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชน ให้เขามีภูมิคุ้มกัน พร้อมที่จะเผชิญกับสังคมอย่ารู้คุณค่าของตนเอง และเป็นพลังในการพัฒนาประเทศตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งหลายท่านอาจจะมองว่าเศรษฐกิจพอเพียงเป็นการถอยลงคลอง แต่แท้จริงแล้วเป็นการถอยกลับสู่ความมั่นคง ยั่งยืน ตามรากฐานที่บรรพบุรุษทำไว้ดีแล้ว ผมและทีมงานจะช่วยผลักดันโครงการดังกล่าว ให้ประสบความสำเร็จพัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้ตามโครงการ “โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง เพิ่มพลังใจเยาวชนเมืองศรีโคตรบูรณ์” ต่อไป

Leave a Reply