วันที่ 6 ต.ค. 66  หลังจากเมื่อคืนนี้เวลาประมาณ 22.00 น. เกิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ขึ้นไปตรวจห้องพักพระนิสิต ซึ่งเป็นห้องพักของนายกองค์กรบริหารพระนิสิต มจร ในสภาพมึนเมา ซึ่งทราบชื่อต่อมาว่าคือนายวิชัย จันทร์ประโคน เป็นเจ้าหน้าที่ธุรการของกองกิจการนิสิต จากการบอกเล่าของระบุว่า พระราชวัชรสารบัณฑิต หรือ “เจ้าคุณประสาร” รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มจร ผ่านข้อความบางช่วงบางตอน ระบุว่า

เมื่อคืนนี้ (5 ตค.) เวลาประมาณสี่ทุ่มเศษ ได้รับโทรศัพท์จากประธานสภาฯแจ้งว่ามีเจ้าหน้าที่กองกิจการนิสิตมาบุกตรวจค้นห้องในเวลาวิกาลและมีอาการมึนเมา (คำบอกเล่าทางโทรศัพท์)และถ้าปล่อยให้เหตุการณ์ดำเนินไปเช่นนี้ประธานสภาฯก็จะโทรแจ้งความดำเนินคดี ผมถามว่าใคร ก็บอกชื่อว่าวิชัย ผมเลยขอคุยสายด้วย  ปลายสายบอกว่าชื่อ..วิชัย จันทร์ประโคน

วิชัย บอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่มาปฎิบัติหน้าที่ ได้รับแจ้งมา พูดแบบนี้อยู่หลายครั้ง ถามว่ามาทำไม มีอะไร ดึกแล้ว เขาก็ยืนยันว่ามาปฎิบัติหน้าที่ จึงขอให้วิชัย ถอยกลับไปก่อน มันจะเป็นเรื่องเป็นราว มหาวิทยาลัยเราจะเสียหาย พร้อมกับสนทนากับประธานสภาฯโดยรวมก็ไม่ต่างอะไรกับสนทนากับวิชัย คือหลักการให้ยุติ ต่างคนต่างถอยไปก่อน ภาพรวมจะทำนองนี้ ทั้งยังบอกอีกว่า จริง ๆ  แล้วไม่ได้รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง แต่ก็ไม่ปฎิเสธในฐานะผู้บริหาร คือพยายามให้ถอยกลับเข้าที่ตั้ง ทั้งสองฝ่าย ไม่อยากให้เรื่องใหญ่โต บานปลายลุกลามและแพร่หลาย นี่คือมหาวิทยาลัยของเรา สุดท้ายต่างคนต่างถอยคือวิชัย ลงไปจากตึก ส่วนพระนิสิตขอให้ยุติการไลฟ์สด..

ทีมข่าว “Thebuddh” ได้สอบถามเรื่องนี้ “พระเทพเวที” รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต มจร ซึ่งเป็นต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ได้มอบหมายให้ พระมหาราชัน จิตฺตปาโล  ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องนี้ และให้ผู้ช่วยอธิการบดีเป็นประธานดำเนินการวินิจฉัยตัดสินแบบเด็ดขาด ซึ่งว่ากันไปตามความผิด  โดยมี พระมหาประยูร  โชติวโร  ผู้อำนวยการกองกิจการนิสิต คอยดูแลด้วย

ส่วน “แหล่งข่าว” พระนิสิตผู้อาศัยอยู่ ณ หอพักพระนิสิตนานาชาติ ระบุว่า ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าหน้าคนนี้มีพฤติกรรมแบบนี้ หลายเดือนก่อนพระนิสิตและนิสิตฆราวาสพูดคุยกันใต้ตึก ก็จอดรถและเรียก รปภ.มา พร้อมตั้งคำถามว่า “ล้อมวงดื่มสุรา” กันหรือไม่ และเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ ความจริงมีการบุกเข้ามาในห้องและค้นตามตู้นิสิตในสภาพมึนเมาด้วย

“ทราบว่าเป็นหลานของผู้บริหารท่านหนึ่ง ไม่รู้ว่าเรื่องจะเงียบหรือเปล่า แต่ในฐานะตัวแทนพระนิสิตคงยอมให้เรื่องมันเงียบไม่ได้ จะทำหนังสือถึงผู้บริหารเพื่อจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเรื่องแบบนี้ และที่สำคัญ หนึ่ง เมา สอง ยามวิกาล และสามค้นห้อง..”

ในขณะที่เพจองค์กรบริหารนิสิต มจร ส่วนกลาง ได้โพสต์ว่า

จากกรณีเจ้าหน้าที่กองกิจการนิสิต เมากร่างบุกรุกเข้าค้นห้องนิสิตในเวลายามวิกาล  มีความผิดกฎหมายอาญา มาตรา 362 ประกอบมาตรา 364 (1)(3) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ   การจะค้นต้องขอหมายค้นมาก่อน ตามประมวลวิธีพิจารณาคดีความอาญา มาตรา 69 และ มาตรา 70  กอรปกับ พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551

มาตรา31 มาตรา42 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

หากดื่มสุราในขณะปฏิบัติงาน มาจนเสียราชการหรือทำให้เกิดเรื่องเสียหาย อาจถูกให้ออกจากราชการ

อนึ่ง “การเป็นเจ้าหน้าที่ควรให้บริการ ช่วยเหลือนิสิตมากกว่า จับผิด..”

องค์กรบริหารนิสิตขอเรียกร้องให้ผู้บริหาร ”ไล่ออกสถานเดียว” เพื่อเป็นกรณีตัวอย่างเพราะหากยังมีเจ้าหน้าที่แบบนี้ พฤติกรรมแบบนี้ อาจจะนำมาซึ่งความไม่ปลอดภัยของนิสิตและความเสียหายถึงองค์กรและมหาวิทยาลัยได้..