ปลัดมท. ปลูกจิตสำนึกคนไทยให้รู้ “คุณค่าประวัติศาสตร์” อันนำมาซึ่งความ “รู้รักสามัคคี-รักแผ่นดินเกิด”

วันที่ 23 ม.ค. 66 เวลา 08.15 น. ที่ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนสระบุรี ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดการทดสอบผู้เข้ารับการฝึกอบรมโครงการศึกษาอบรมวิทยากรเพื่อทำหน้าที่ผู้ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทยประจำท้องถิ่น ปี 2567 รุ่นที่ 3 โดยได้รับเกียรติจากนายกองเอก ธารณา คชเสนี นายหมวดตรี น้ำเพ็ชร คชเสนี สัตยารักษ์ ดร.ลักษิกา เจริญศรี ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทานร่วมเป็นวิทยากร พร้อมผู้ช่วยประเมินมาตรฐานการเล่าเรื่องจากกองบัญชาการกองทัพไทย กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ โอกาสนี้ นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นายพลวรรธน์ เทียนชัยมงคล นายวิชัย บุญมี นายดุรงค์ฤทธิ์ ศิริวัฒนพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ และผู้เข้ารับการศึกษาอบรม จำนวน 149 คน จาก 6 จังหวัด ได้แก่ สระบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี และพระนครศรีอยุธยา ร่วมรับฟัง

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ทุกคนที่อยู่ ณ ที่นี้ คือ ผู้เป็นความหวังของประเทศไทยในการที่จะได้มีโอกาสไปบอกเล่าให้กับพี่ ๆ น้อง ๆ ลูกหลานเยาวชน ได้รู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยและท้องถิ่น ซึ่งในวันนี้ได้มีโอกาสมาพบปะพูดคุยเพื่อเป็นกำลังใจในการที่จะไปช่วยกันทำสิ่งที่ดีให้กับสังคมและประเทศชาติ ซึ่งการช่วยทำให้ประเทศชาติมั่นคง และประชาชนมีความสุขได้ ขึ้นอยู่กับความรักความสามัคคีของคนในชาติ ดังพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงตรัสว่า ประเทศไทยจะต้องมีผู้มีความรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย เพราะวิชาประวัติศาสตร์ชาติไทยจะทำให้เรารู้รากเหง้าที่มาที่ไปของบรรพบุรุษของเรา และมีความภาคภูมิใจและความกตัญญูกตเวที ซึ่งพระองค์ท่านตรัสเพื่อประเทศชาติโดยส่วนรวม เพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเราได้ไปทำความดีร่วมกันถ่ายทอดสิ่งที่ดีให้กับลูกหลานเยาวชน

คนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยดีอย่างไรนั้น ประการแรก คือ ได้รู้ในเรื่องราวของตนเอง ได้ศึกษาเรียนรู้ต้นกำเนิดที่มาที่ไปของบรรพบุรุษ และเมื่อรู้แล้วก็จะนำมาประการต่อมา คือ ได้รู้รักสามัคคี มีความหวงแหนต่อแผ่นดิน ซึ่งประเทศไทยเรามีเพลงชาติไทยที่ทำให้เราได้ตระหนักและสำนึกรักแผ่นดิน นอกจากนี้สังคมไทยเรายังมีความหลากหลายของชนชาติ เราทุกคนจึงต้องอยู่ร่วมกันด้วยความรักความสามัคคีโดยไม่เกี่ยงว่าเป็นชนชาติเผ่าพันธุ์ใด ทุกพื้นที่ของประเทศไทยเป็นบ้านของเรา ซึ่งการที่ได้อัญเชิญพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ให้พวกเราได้รับฟังรับชม เป็นที่มาให้พวกเราได้มีกำลังใจในการสอบเพื่อผ่านการฝึกอบรมผู้ถ่ายทอดความรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยประจำท้องถิ่น และเพื่อให้ผู้บริหารของจังหวัดสระบุรี นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ได้กำหนดแนวทางขับเคลื่อนไปสนับสนุน “ครู ก” ทำให้เกิด “ครู ข” เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ ทำให้ทุกพื้นที่มีจิตอาสาในการขยายผลเผยแพร่ความรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดต้องเป็นผู้นำการหนุนเสริมให้แก่ผู้ผ่านการอบรมและสนับสนุนให้เกิดการศึกษาวิชาประวัติศาสตร์ที่เป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่องทั้งในวาระสำคัญต่าง ๆ และวันสำคัญของประเทศชาติได้ อันจะเกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงต้น

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้เพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและขับเคลื่อนวิชาประวัติศาสตร์ชาติไทย โดยกำหนดเป็นวาระประชุมหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่นท้องที่ ในการสนับสนุนการศึกษา โดยลดเวลาเรียนเพิ่มเวลาการเรียนรู้ ทำให้คุณครูได้มีโอกาสเล่าวิชาประวัติศาสตร์ชาติไทยให้ลูกหลานฟัง ซึ่งกระทรวงมหาดไทยโดยกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นได้กำหนดให้สถานศึกษาในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้มีการเรียนการสอนวิชาหน้าที่พลเมือง วิชาศีลธรรม และวิชาประวัติศาสตร์ชาติไทย วันละ 1 ชั่วโมง ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว และได้ร่วมหารือกับกระทรวงศึกษาธิการในการไปขับเคลื่อนวิชาประวัติศาสตร์ชาติไทยให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งแม้ว่าปัจจุบันทุกโรงเรียนมีการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ชาติไทยอยู่แล้วแต่ไม่ได้เป็นวิชาหลัก ซึ่งเราอยากให้ 3 วิชาดังกล่าวได้พัฒนามาเป็นวิชาหลัก เพื่อแสดงถึงความสำคัญในการทำให้เด็กได้เรียนรู้ในวิชาที่มีคุณค่าเหล่านี้มากยิ่งขึ้น

ขอฝากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีในเรื่องดังกล่าว และขอเป็นกำลังใจให้กับทุกท่านในการสอบครั้งนี้ เพราะทุกคนเป็นผู้บอกเล่าประวัติศาสตร์ชาติไทย เป็นครูจิตอาสา ผู้มีจิตใจมุ่งมั่นในการสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการทำให้ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งพระองค์ได้ “สืบสาน รักษา และต่อยอด” พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งพระองค์ท่านทรงมีพระราชปณิธานที่แน่วแน่ในการทำให้ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข” และช่วยกันแก้ไขในสิ่งผิด พร้อมทั้งน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา เพื่อให้ประชาชนทุกคนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติม

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอให้ทุกท่านได้ไปช่วยกันทำให้ลูกหลานของเรามีความรักความห่วงใยในแผ่นดิน และมีความสำนึก ความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษของไทย และร่วมเป็นกำลังสำคัญและเป็นเสาหลักของประเทศในการบอกเล่าประวัติศาสตร์ชาติไทยและประวัติศาสตร์ท้องถิ่นประจำจังหวัด อำเภอ ซึ่งทุกท่านจะเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องจากทุกภาคส่วนว่าเป็นผู้มีความเสียสละ ทำหน้าที่เสาเอกของชาติในการบอกเล่าประวัติศาสตร์ชาติไทยส่งต่อไปยังลูกหลานของเราต่อไป

Leave a Reply