มส.รุกคืบ!! ขอให้โรงเรียนตั้งอยู่ในเขตวัด “จัดการสอนธรรมศึกษา” ตามหลักสูตรของคณะสงฆ์

วันศุกร์ที่ 9  สิงหาคม 2567  เมื่อเวลา 14.00  น. ณ ตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร เจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงลาการประชุม ทรงมีพระบัญชาให้ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เป็นประธานในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ โดยมีกรรมการมหาเถรสมาคมเข้าร่วม โดยก่อนการประชุม นายพงศ์พล โยธินทวี ผู้อำนวยการกลุ่มงานมหาเถรสมาคม ปฏิบัติราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กราบทูลถวายเปิดการประชุม โดยมีผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น ได้แถลงข่าวการประชุมมหาเถรสมาคม มีวาระการประชุมมหาเถรสมาคมหลายวาระด้วยกัน ซึ่งหนึ่งในนั่นคือ มติมหาเถรสมาคมอนุมัติ เรื่อง ขอให้โรงเรียนที่ตั้งอยู่ในวัดจัดการเรียนการสอนธรรมศึกษา ตามหลักสูตรของคณะสงฆ์ เพื่อเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้นักเรียนและเยาวชน มีศีลธรรม คุณธรรม และจริยธรรม ที่ได้จากการศึกษาเล่าเรียนธรรมศึกษาให้มีจำนวนเพิ่มมากยิ่งขึ้น

โรงเรียนวัด เป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในธรณีสงฆ์ หรือตั้งในบริเวณวัด หรือใช้ทุนทรัพย์ของวัด สืบเนื่องในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้า โปรดกระหม่อมให้จัดตั้งโรงเรียนในวัดต่างๆ เนื่องจากประชาชนชาวไทยในยุคก่อนการจัดตั้งโรงเรียนนิยมส่งบุตรหลานเข้าศึกษาตามวัดต่างๆตามขนบธรรมเนียมประเพณี[1] โดยโรงเรียนวัดแห่งแรกที่จัดตั้งคือ โรงเรียนวัดมหรรณพาราม (ปัจจุบันคือโรงเรียนวัดมหรรณพ์)

จากการสำรวจโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่ใช้คำว่า วัด นำหน้าชื่อทั่วประเทศมีทั้งหมด 21,125 แห่ง เป็นโรงเรียนระดับประถม 20,907 แห่ง และโรงเรียนระดับมัธยมอีก 218 แห่ง

ได้มีโรงเรียนหลายแห่งเปลี่ยนชื่อโดยเอาคำว่า วัด ออก โรงเรียนที่เปลี่ยนชื่อนั้นฝ่ายผู้บริหารโรงเรียน หรือผู้ปกครอง มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อชื่อวัดนำหน้า โดยคิดว่าเป็นโรงเรียนชั้นสอง และไม่นิยมส่งบุตรหลานเข้าเรียนในโรงเรียนวัด เป็นเหตุให้ คณะอนุกรรมาธิการกิจการพระพุทธศาสนา ในคณะกรรมาธิการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ของสภาผู้แทนราษฎร เสนอต่อมหาเถรสมาคมเพื่อให้ออกคำสั่งแก่โรงเรียนวัดที่ใช้พื้นที่ของวัดหรือธรณีสงฆ์ที่เปลี่ยนชื่อแล้วรวมทั้งกำลังจะเปลี่ยนชื่อให้นำชื่อ วัด ใส่ไปดังเดิม ซึ่งมหาเถรสมาคมเห็นชอบตามข้อเสนอ จึงได้ออกมติมหาเถรสมาคมห้ามเปลี่ยนชื่อโรงเรียนโดยตัดคำว่าวัดออกส่วนโรงเรียนที่เปลี่ยนชื่อไปแล้วให้เปลี่ยนกลับใช้ชื่อเดิม

ทั้งนี้ให้ยกเว้นโรงเรียนที่ใช้ชื่อพระราชทาน ส่วนโรงเรียนใดไม่ปฏิบัติตามจะห้ามใช้พื้นที่ของวัด ตลอดจนที่ธรณีสงฆ์อื่นๆ นอกจากคำสั่งเรื่องการเปลี่ยนชื่อแล้วยังได้ให้สถาบันการศึกษาหรือโรงเรียนวัดร่วมมือกับทางวัดในการพัฒนาโรงเรียน (ที่มาวิกิพีเดีย)

Leave a Reply