วันที่ 29 สิงหาคม 67  ณ วัดป่าพิฆเณศวร์ (วัดบ้านบาก) หมู่ที่10 ตำบลกุดลาด อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี พระศรีวิสุทธิมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ พร้อมด้วยผู้บริหารสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล พนักงานส่วนตำบล และพนักงานจ้างองค์การบริหารส่วนตำบลกุดลาด ได้ร่วมอบรมปฎิบัติธรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยมหลักของคนไทย สร้างความรัก ความกตัญญูกตเวที ความสามัคคีสมานฉันท์ในหมู่คณะ และทำให้เกิดสมาธิและสติปัญญา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฝึกปฏิบัติธรรม จะช่วยทำให้มีจิตใจพื้นฐานที่โอบอ้อมอารี มีเมตตากรุณาและมีคุณธรรม ซึ่งจะทำให้พื้นฐานทางจิตใจอยู่ในกรอบคุณธรรมและจริยธรรม ย่อมส่งผลให้ทุกคนเป็นคนดี มีสติในการปฏิบัติหน้าที่และดำรงชีวิตอย่างมีความสุขตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาและสามารถแก้ปัญหาต่าง ๆได้ และเพื่อพัฒนาประเทศชาติเจริญก้าวหน้าได้อย่างมีคุณภาพต่อไป

พระศรีวิสุทธิมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี เจ้าอาวาสวัดปากน้ำได้บรรยายธรรมในหัวข้อ “หลักการเป็นข้าราชการที่ดี” ซึ่งปรากฏในวิธูรชาดกที่ได้น้อมนำมาจากหนังสือ “ทศชาติปณิธาณมหาบุรุษไม่เปลี่ยนแปลง ฉบับเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ” ว่า “เป็นข้าราชการ พึงเป็นคนมีมารยาทงาม มีศิลปะ หมั่นฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ มุ่งทำประโยชน์ มีความหนักแน่น ไม่หวั่นไหว ทั้งคราวโชคหรือคราวเคราะห์ มีอัธยาศัยอ่อนโยน ไม่เย่อหยิ่ง ไม่ประมาทในราชกิจ มีเนื้อตัวสะอาดสะอ้าน เป็นคนขยันเอางาน”

ส่วน พระมหาไพทูล ชุตินฺธโร ป.ธ.๗ เลขานุการรองเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี เจ้าอาวาสวัดบ้านบาก ได้พาปฏิบัติกรรมฐานทั้งได้บรรยายธรรมประกอบในหัวข้อข้าราชการต้องมีความกตัญญูซึ่งเป็นหลักของความเป็นข้าราชการที่ดีซึ่งน้อมนำมาจากหนังสือเล่มดังกล่าวว่า “เป็นข้าราชการ ต้องเลี้ยงดูบิดามารดา มีความอ่อนน้อม ถ่อมตนต่อญาติผู้ใหญ่ในตระกูล เป็นคนอ่อนโยน พูดวาจาไพเราะ”

วัดป่าพระพิฆเณศวร์ หรือ วัดบ้านบาก บ้านปากน้ำ (บุ่งสระพัง) เดิมเป็นชุมชนบุ่งสระพังโบราณ เรียกว่า “บ้านตาเณศ” เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่ยุคหินตั้ง มีการขุดพบโครงกระดูกคน ๘ ศอก และใบเสมาหินทรายหลากหลายขนาดตั้งกระจายอยู่ตามป่า มีการพบพระพิฆเณศวร์หินทราย ชาวบ้านเรียกพระมีงวง, โคอุสุภราชหินทราย หรือโคนนทิ ชาวบ้านเรียกกระทิงหมอบ และพบปลียอดปราสาท สันนิษฐานว่า สถานที่แห่งนี้เคยเป็นเทวสถานมาก่อน เมื่อมีการรับพระพุทธศาสนาแบบทวารวดี จึงได้เปลี่ยนเทวสถานให้เป็นวัดในพระพุทธศาสนา

หลวงปู่พระมงคลธรรมวัฒน์ (บุญจันทร์ จตฺตสลฺโล) ชาวบ้านเรียกว่า “ญาถ่านจันทร์” ”พ่อถ่านจันทร์“ หรือ “หลวงตาจันทร์” อดีตเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ(บุ่งสระพัง) ได้ปลีกวิเวกมาปักกลดเจริญวิปัสสนากรรมฐานในดงพระคเณศแห่งนี้อยู่เป็นนิจ เมื่อครั้งเกิดเหตุการณ์เครื่องบินทหารสหรัฐอเมริกาตกบริเวณบ้านปากน้ำ ทหารสหรัฐอเมริกาได้มาพบท่านปักกลดอยู่ในป่ารูปเดียว จนทำให้เกิดศรัทธาอันเป็นสาเหตุให้นำอิฐ หิน ปูน เหล็ก ทรายมาช่วยท่านสร้างอุโบสถ ต่อมาท่านได้นิมิตว่า เทพยดาเจ้าที่ในดงพระคเณศนิมนต์ให้ขุดอัญเชิญเอาของสำคัญศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง นั่นก็คือหลวงพ่อเงินพระพุทธรูปปางมารวิชัย พระชัยหลังช้าง และสิ่งของต่างๆ ขึ้นมาเก็บรักษาไว้ ณ วัดปากน้ำตราบเท่าทุกวันนี้