วันที่ 5 เมษายน 65 หลังจากศาลอุทธรณ์ ยกฟ้อง พิพากษายกฟ้อง นายเอื้อน กลิ่นสาลี หรือ อดีตพระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา กทม. กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และ เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร กับ นายสมทรง อรรถกฤษณ์ อดีตพระอรรถกิจโสภณ พระผู้ช่วยฯ เลขาเจ้าคณะกรุงเทพฯ จำเลยในคดีฟอกเงินจากการทุจริตงบประมาณสำนักงานพระพุทธศาสนา สร้างโรงเรียนปริยัติธรรม หรือที่เรียกว่า คดีเงินทอนวัด
ต่อมาเมื่อเดือนกันยายน 2563 อดีต พระพรหมดิลก และอดีต พระอรรถกิจโสภณ ได้กลับมายังวัดสามพระยา พร้อมทั้งทำพิธีกลับครองจีวร สู่สมณเพศ มีการสวดมนต์บทสังฆปิติถวายในพระอุโบสถ พร้อมอ่านคำพิพากษายกฟ้องในพระอุโบสถต่อหน้าคณะสงฆ์
ทั้งนี้พระทั้ง 2 รูป กลับมาครองจีวร ถือสมณเพศ ซึ่งไม่ได้อุปสมบทใหม่ แต่เป็นการกลับมาครองจีวร โดยอ้างว่า มิเคยเปล่งวาจาสึก แต่อย่างใด นับแต่ต้องคดี จึงถือว่า ยังคงความเป็นพระภิกษุอยู่ครบถ้วนตาม “พระวินัย”
ปัจจุบันคดีนี้ยังอยู่ในชั้นฎีกา
ล่าสุด “แหล่งข่าว”คนหนึ่งเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ทำหนังสือออก “หมายเรียก” ให้อดีตพระพรหมดิลกไปพบเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนในวันที่ 30 มีนาคม 2565 โดยถูกตั้งขอกล่าวหา “แต่งกายเลียนแบบพระภิกษุ”
“มีคนของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติไปฟ้องตำรวจให้ดำเนินคดีกับอดีตพระพรหมดิลก ซึ่งความจริงตำรวจไม่อยากทำ เพราะรู้ว่าอะไรคืออะไร และมีคนวิ่งเรื่องนี้ให้ตำรวจดำเนินคดี ซึ่งน่าจะเป็นคนกลุ่มเดิม ๆ แต่เท่าที่รู้เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงและรัฐบาลไม่รู้เรื่อง ทุกวันนี้อดีตพระพรหมดิลก ท่านอยู่วัดก็ทำวัตรสวดมนต์ นั่งสมาธิ สอนหนังสือ แต่มันมีคนจองเวรท่าน”


Leave a Reply