วันที่ 4 เม.ย. 65 เวลา 17:09 น. ที่พระอุโบสถวัดปรมัยยิกาวาส วรวิหาร อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พระพรหมเวที ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 15 เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในการอ่านพระบัญชาแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดปรมัยยิกาวาส ซึ่งมี พระพรหมกวี กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค 3 พระธรรมโพธิมงคล เจ้าคณะภาค 2 พระเทพมหาเจติยาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม พระเทพศาสนาภิบาล เจ้าคณะภาค 14 พระราชนันทมุนี เจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี และ พระสุเมธมุนี เจ้าอาวาสวัดบึงลาดสวาย เข้าร่วมพิธี ในขณะที่ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้เกียรติเป็นประธานฝ่ายคฤหัสถ์ โดยมี นายราชันย์ ซุ้นหั้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นายสมบัติ พิมพ์สอน ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ คณะกรรมการวัด ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน อุบาสกอุบาสิกา และศิษยานุศิษย์ ร่วมในพิธี
เมื่อถึงกำหนดพิธีการนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้อ่านพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช แต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดปรมัยยิกาวาส วรวิหาร ความว่า “อาศัยอำนาจตามความในข้อ 33 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2541) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ แก้ไขเพิ่มเติม ครั้งที่ 1 (พ.ศ. 2563) พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2561 และตามมติมหาเถรสมาคม ในการประชุมครั้งที่ 4/2565 เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 จึงแต่งตั้งให้ พระครูพิพิธเจติยาภิบาล (บัวทอง) ฉายา ถาวโร อายุ 59 พรรษา 37 วิทยฐานะเปรียญธรรม 5 ประโยค นักธรรมเอก ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม เจ้าคณะตำบลพระปฐมเจดีย์ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดปรมัยยิกาวาส อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี มีอำนาจและหน้าที่ตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 พระภิกษุ สามเณร และคฤหัสถ์ที่อยู่ในวัดดังกล่าวข้างต้น จงอยู่ในโอวาทของเจ้าอาวาสที่ได้รับแต่งตั้งแล้วนั้น ซึ่งปฏิบัติการโดยชอบด้วยพระธรรมวินัย กฎหมาย กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง มติ ประกาศมหาเถรสมาคม ขอจงถึงความเจริญงอกงามไพบูลย์ในพระพุทธศาสนาตลอดกาลนานเทอญ แต่งตั้ง ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565”
หลังจาก นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย อ่านพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชจบ พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 10 รูป เจริญชัยมงคลคาถา นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายราชันย์ ซุ้นหั้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี และคณะศิษยานุศิษย์ ถวายเครื่องไทยธรรม พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ทั้งนั้น อนุโมทนา กรวดน้ำรับพร เป็นอันเสร็จพิธี
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า พระครูพิพิธเจติยาภิบาล มีนามเดิมว่า บัวทอง ศรีชื่นชม เป็นบุตรของ โยมพ่อแตงร้าน และโยมแม่เคี้ยม เกิดเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2505 ณ บ้านบึงลาดสวาย ตำบลบางภาษี อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม พื้นเพของท่านเป็นชาวไทยเชื้อสายรามัญที่สืบมาแต่บรรพชนในพื้นที่ที่เชื่อมกันระหว่างบางเลน ไทรน้อย ลาดบัวหลวง และลาดหลุมแก้ว เป็นชุมชนใหญ่ ที่เชื่อมต่อระหว่าง 4 จังหวัดเข้าด้วยกัน คือ นครปฐม นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี เรียกชุมชนนี้ว่า ชุมชนมอญกระทุ่มมืด โดยเมื่อท่านเจริญอายุเข้าสู่ปีที่ 22 ได้มีศรัทธาบรรพชาอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดบึงลาดสวาย ตำบลบางภาษี อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2527 โดยมี พระสุเมธมุนี (ลำพวน ธมฺมธโร ป.ธ. 7) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูนิพัทธวิหารกิจ (สวงค์ ชาตวีโร) วัดบางขุนนนท์ กรุงเทพมหานคร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระมหาประจักษ์ ธมฺมสาโร ป.ธ. 7 วัดบางขุนนนท์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับสมณฉายาว่า ถาวโร แปลว่า “ผู้มีความยั่งยืน” ด้านการศึกษา สำเร็จนักธรรมชั้นเอกในแผนกธรรม จากสำนักเรียนวัดบึงลาดสวาย เมื่อปี 2524 และสำเร็จเปรียญธรรม 5 ประโยค ในแผนกบาลี จากสำนักเรียนวัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร ปี 2536 ด้านการปกครอง เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร เมื่อปี 2546 เป็นเจ้าคณะตำบลพระปฐมเจดีย์ เขต 1 เมื่อปี 2557 และเป็นเจ้าอาวาสวัดปรมัยยิกาวาส วรวิหาร ในปี 2565 ในด้านสมณศักดิ์ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระครูผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก ในราชทินนามที่ พระครูพิพิธเจติยาภิบาล เมื่อปี 2547 ต่อมาได้รับการเลื่อนเป็นพระครูผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นพิเศษ เมื่อปี 2553 และได้รับการปรับพัดยศเป็นเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นโท ในปี 2565
Leave a Reply