วันที่ 13 กันยายน 2567 หลังจากเพจหนึ่งอ้างถึง พระทวีวัฒน์ จารุวณฺโณ หรือ “พระอาจารย์ต้น” ได้เข้าเฝ้า สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 ที่ผ่านแล้วอ้างว่า สมเด็จพระสังฆราช ทรงรับสั่งว่า
“สอนเรื่องพระรัตนตรัยและอริยสัจสี่นั้นถูกต้องแล้ว สอนต่อไปได้เลย อย่าเอาเกจิเข้ามาแทรกนะ เกจิทำให้ศาสนาเสียหาย ถ้าเอาเกจิเข้ามาแทรกอย่าทำเด็ดขาด พระรัตนตรัยเป็นหลักของศาสนา อริยสัจสี่คือ หัวใจของศาสนา ถ้าสอนเรื่องนี้ให้สอนเต็มที่เลย ทำเลย”
วันนี้สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้ออกหนังสือจำนวน 2 หน้า เป็นหนังสือรายงานพระกรณียกิจ ประจำวันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน 2567 (ช่วงบ่าย) โดยมีลายมือ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ลงนามรับรอง มีความว่า
เวลา 13.00 น. เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังปริณายก เสด็จออกตำหนักอรุณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ประทานพระวโรกาสให้ พระทวีวัฒน์ จาวณฺโณ พร้อมคณะพระภิกษุอีก 4 รูป เฝ้าเป็นส่วนพระองค์ โดยไม่ประทานอนุญาตให้บันทึกภาพ
(กลุ่มงานศาสนกิจ บันทึกเสียงเพื่อจัดทำสรุปพระดำรัสถวายรายงานเจ้าคุณสมเด็จ ฯ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช มีคณะผู้ช่วยเจ้าอาวาสและผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช อนุญาตให้บันทึกภาพ)
เมื่อเสด็จออก พระทวีวัฒน์ ถวายสักการะ ถวายชุดหนังสือธรรมนาวา “วัง” และเครื่องไทยธรรม แล้ว กราบทูลขอประทานพระดำริเกี่ยวกับการเผยแพร่หลักธรรมธรรมนาวา “วัง”
เจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช มีรับสั่งให้คณะผู้ถวายงาน ถวายสำเนามติมหาเถรสมาคม มติที่ 658/2567 ทรงรับแล้วอ่านโดยออกพระสุรเสียง จากนั้น มีพระดำรัส ดังนี้
พระดำรัส“มตินี้ออกมาแล้ว มหาเถรสมาคมมอบทั้งสองมหาวิทยาลัย (ทรงอ่านมติ) ตรงตัวอยู่แล้ว ก็ดำเนินการเท่านั้น ทำให้ถูกต้องทำมตินี้ มติของมหาเถรสมาคม ก็ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรทั้งนั้น ประชุมมาแล้ว ให้ไปแล้ว อย่านอกรีตแล้วกัน อย่าเอาอะไรมาเพิ่มเติม ให้นอกรีตนอกรอยแล้วกัน แต่พระเรามักมีอย่างนี้ ขอพูดตรง ๆ เถิด ทางพระปฎิบัติถ้ามันจะเดินกันอย่างนี้ (ทำพระหัตถ์ลากเส้นตรง) ไม่ได้มีกันเสียเลย ก็จะไม่มีหนามออกมาสักหน่อย (ทำพระหัตถ์วาดเส้นโค้ง มีรอยหนามมาออกเล็กน้อย)
ให้ทำให้ตรงตามพระธรรมวินัย อะไรก็ไปได้ จะอยู่ที่ไหนก็ได้ ให้ตรงกับพระธรรมวินัย ทางนี้ผ่านมาแล้ว (ทรงชี้พระองค์) ขอให้ดำเนินการตามนั้นก็แล้วกัน..”
พระดำรัส “อย่าเบี้ยว ว่าของฉันดี ของเธอไม่ดี อย่าเอาอย่างนี้มาก็แล้วกัน พูดกันตรง ๆ เลยนะ ให้ดำเนินการให้นำหลักวิชาการ จึงอนุโมทนาสาธุด้วย” (ขณะนั้นพระทวีวัฒน์ ถวายแผ่นธรรมนาวา “วัง” พระราชทาน และกราบทูลว่า จะมีการจัดกิจกรรมในวันที่ 13 กันยายน 2567 จากนั้นก็มีพระดำรัสต่อ)
พระดำรัส “ถ้าเดินตาม ปฎิบัติตามหลักพระธรรมวินัย ไม่มีปัญหา ถ้านอกรีตนอกรอย อันนี้มีปัญหามาก แล้วแก้ลำบากด้วย เพราะฉะนั้นเราในฐานะผู้ที่จะปกป้องไว้ซี่งพระธรรมวินัยของพระศาสดา ก็ต้องอย่าให้นอกรีตนอกรอยก็แล้วกัน ให้ดำเนินการตามที่พูดนี้ก็แล้วกัน..”
(พระทวีวัฒน์กราบทูลเรื่องเนื้อหาที่จะใช้บรรยายเกี่ยวกับ พระรัตนตรัย ธาตุกรรมฐาน ขันธ์ 5 และอริยสัจ 4 )
พระดำรัส “นั่นแล พระรัตนตรัยต้องมาก่อน อริสัจ 4 เป็นของจริง อย่าไปนำของเกจิคนไหนมาทำให้วุ่นวายสมองหมด เป้าหมายอริยมรรคมีองค์ 8 แล้วกัน เป็นใช้ได้ อริยสัจ 4 เท่านั้นแหละ เกจิมากเดียวนี้ เกจิมากทำให้ปลุกปั่น และลูกศิษย์ของเกจิทำให้ปั่นมาก ทำไม อาจารย์ฉันดี อาจารย์ฉันดี ผู้นั่นไม่ดี ของฉันดีกว่า กิเลสท่วมหัวเอาตัวไม่รอด เอากิเลสมาท่วมหัวเอาตัวรอดกันไหม..”
เพราะฉะนั้นตัด “ตัวกูออก ถ้ามี 100 ให้เหลือสัก 20 เปอร์เซนต์ จะดีขึ้นเยอะหน่อย ถ้าไม่มีเลยยิ่งดี
เอาเถิด ขออนุโมทนา ถ้าดำเนินการเพื่อรักษาศาสนธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ก็แล้วกัน ไปเถิดไปอัตหิตประโยชน์ไม่ต้องพูดถึง ปรหิตประโยชน์นี้สำคัญ พระธรรมวินัยสำคัญ “
อ่านต่อรายละเอียดด้านล่าง
Leave a Reply