สว.ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี “คดีเงินทอนวัด” 4 ประเด็น ทั้ง พศ.ทำผิดกฎหมาย -การเยียวยาพระภิกษุ -รองผอ.พศ.ถูกร้อง!!

วันที่ 7 ตุลาคม 67  นายนพดล  อินนา สมาชิกวุฒิสภา ได้ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับแนวทางการกำกับราชการในส่วนของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ      ซึ่งเป็นหน่วยงานราชการขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะวัดต่างๆ ทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบจากกรณีเงินทอนวัดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา  เนื้อหากระทู้ถามนายกรัฐมนตรีของสมาชิกวุฒิสภาท่านนี้ มีดังนี้

ตามที่ปรากฏเป็นข้อเท็จจริงที่ผ่านมาแล้วว่า พันตำรวจโท พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์  เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกับพวกได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพระภิกษุสงฆ์ในพระอารามหลวงและวัดต่าง ๆ ทั่วราชอาณาจักร โดยใช้พนักงานสอบสวให้เป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งกล่าวหาพระภิกษุสงฆ์แบบเลือกปฏิบัติอันเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 29  วรรคสอง ที่มีบทบัญญัติไว้อย่างชัดเจนว่า “ในคดีอาญา ให้สันนิษฐาน  ไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด และก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้”

การกระทำและการดำเนินการดังกล่าวข้างต้นนี้ ได้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2561 เป็นต้นมา ปรากฏข้อเท็จจริงที่เป็นข้อพิรุธหลายอย่างหลายประการ อาทิเช่น มีการแอบอ้างเบื้องสูงในลักษณะสมคบคิด ทำเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำจนมีผลกระทบต่อกระบวนการยุติธรรม   อย่างเห็นได้ชัด นับตั้งแต่พนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ ตลอดจนข้าราชการฝ่ายตุลาการสร้างผลกระทบและความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อวงการพระพุทธศาสนาทั่วราชอาณาจักร ที่มิอาจประเมินค่าความเสียหายใด ๆ ได้ จึงขอเรียนถามว่า

1.รัฐบาลปัจจุบัน ทราบหรือไม่ว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติที่เป็นหน่วยงานราชการขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี ได้มีการกระทำอันไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และไม่ชอบด้วยกฎหมายหลายอย่างหลายประการ มาตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2561 สืบเนื่องกันมา โดยที่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้ยังมิได้ถูกดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมแต่อย่างใด ขอเรียนถามนายกรัฐมนตรีว่า หากท่านทราบข้อเท็จจริงดังที่ได้กล่าวมาตามข้อนี้แล้ว ท่านจะดำเนินการอย่างไรกับกลุ่มบุคคลเหล่านี้ ขอทราบรายละเอียด

2.รัฐบาลปัจจุบัน จะดำเนินการอย่างไร ที่จะเยียวยาให้แก่พระภิกษุสงฆ์ที่โดนกลั่นแกล้งกล่าวหาและได้รับผลกระทบตามมาอย่างรุนแรงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนนับตั้งแต่  มีการดำเนินคดีต่อหลวงพ่อพระพิมลธรรม หรือ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถระ)วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ ด้วยข้อหาว่ามีการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ ซึ่งต่อมาท่านได้พิสูจน์ ความจริงว่าเป็นการยัดเยียดข้อกล่าวหาอันเป็นเท็จ ต่อมาท่านได้รับการถวายคืนสมณศักดิ์ ได้รับ การสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดมหาธาตยุวราชรังสฤษดิ์ และได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชในที่สุด กรณีของสมเด็จพระพุฒาจารย์ดังที่กล่าวมาที่ได้เกิดขึ้นมาในครั้งนั้นนับถึงปัจจุบันเป็นเวลาร่วมกว่า 60 ปีแล้ว จึงได้เกิดขบวนการกลั่นแกล้งร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพระภิกษุสงฆ์ซ้ำรอยเดิมในช่วงรัฐบาลปีพุทธศักราช 2561 ทำให้เกิดความเสียหายต่อวงการพระพุทธศาสนาไปทั่วราชอาณาจักรดังเป็นที่ทราบกัน ในหมู่พุทธศาสนิกชนโดยทั่วไปแล้วผลกระทบที่เกิดขึ้นมิใช่เพียงแต่เฉพาะวงการคณะสงฆ์เท่านั้นแต่ยังส่งผลกระทบกระเทือนไปถึงจิตใจและความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนอย่างใหญ่หลวงอีกด้วย รัฐบาลปัจจุบันจะมีแนวทางเช่นไรและด้วยวิธีใดที่จะเยียวยาผลกระทบดังกล่าวนี้ให้คืนสู่ความเป็นปกติ และเป็นธรรมโดยเร็วที่สุด ขอทราบแนวทางอย่างเป็นรูปธรรม

3.รัฐบาลปัจจุบัน ทราบหรือไม่ว่า นับตั้งแต่ตั้งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติที่เป็นหน่วยงานราชการขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรีตามที่กฎหมายกำหนดซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ราชการ เป็นปกติเรื่อยมา จนกระทั่งเมื่อปีพุทธศักราช 2561 จึงได้มีการใช้อำนาจพิเศษโดยอาศัยอำนาจ ตามมาตรา 44 แต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทำให้เกิดปัญหาด้านบุคลากร เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน และนี่คือต้นเหตุแห่งปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวงการพระพุทธศาสนาของราชอาณาจักรไทย ดังจะเห็นได้จากได้มีรองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติบางคน ถูกร้องไปที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเบิกความแถลงต่อศาลยุติธรรมที่มีความอันเป็นเท็จซึ่งขณะนี้เรื่องกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงอยากทราบว่า รัฐบาลปัจจุบันจะมีนโยบายการดำเนินการแก้ไขปัญหาด้านบุคลากรของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้โดยวิธีใด ขอคำอธิบายโดยละเอียด และ

4.สืบเนื่องจากกระทู้ถามข้อที่ 3 เมื่อรัฐบาลได้ทราบข้อเท็จจริงว่า มีการร้องรองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติบางคนไปที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาทั้งในส่วนของความผิดตามกฎหมายและความผิดตามประมวลจริยธรรม ของข้าราชการ หากมีการเสนอบุคคลผู้นี้ให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้น นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้กำกับราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จะมีดุลพินิจเช่นไร ขอให้ตอบในราชกิจจานุเบกษา

Leave a Reply