“สมเด็จพระมหาธีราจารย์” ยกย่อง “หลวงปู่เลี่ยม” เป็น “พระมหาเถระรัตตัญญู” สร้างโรงพยาบาล “สงเคราะห์ประชาชน” มูลค่า ๑๒๐ ล้านบาท

วันที่ ๕ พ.ย. ๖๗ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ ของมหาเถรสมาคม เป็นประธานในพิธีมอบอาคารโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลโคกจาน โดยมี พระเทพวชิรญาณ เป็นประธานอำนวยการอุปถัมภ์โครงการก่อสร้างโรงพยาบาล รวมจำนวนเงินเบื้องต้น ๑๒๐ ล้านบาท โดยได้ส่งมอบโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลฯ ให้แก่กระทรวงสาธารณสุข มีรายละเอียดดังนี้ ๑.อาคารผู้ป่วยนอก จำนวน ๑ หลัง ๒.อาคารผู้ป่วยใน จำนวน ๑ หลัง ๓.ห้องน้ำชุด ๑๒ ห้อง จำนวน ๒ หลัง ๔.ห้องสำนักงานชั่วคราวและห้องเก็บพัสดุชั่วคราว จำนวน ๑ หลัง ๕.ถนนคอนกรีตเสริมเหล็กรอบโรงพยาบาล ๖.ท่อคอนกรีตเสริมเล็กระบายน้ำรูปสี่เหลี่ยม ติดตั้งหน้าโครงการ ๗.สระน้ำขนาดใหญ่ จำนวน ๑ สระ ๘.สระน้ำขนาดกลาง จำนวน ๑ สระ ๙.ระบบประปาพร้อมถังส่งและชุดเครื่องกรองน้ำ จำนวน ๑ ชุด พร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยมี นายแพทย์พงศธร พอกเพิ่มดี รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมข้าราชการ อุบาสก อุบาสิกา ศิษยานุศิษย์ ร่วมอนุโมทนา ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลโคกจาน อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ

สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กล่าวยกย่อง หลวงเลี่ยมหรือพระเทพวชิรญาณ ตอนหนึ่งว่า  งานการสาธารณสงเคราะห์ เป็นศาสนกิจสำคัญของคณะสงฆ์ คือการบำเพ็ญประโยชน์ เพื่อความสุขและเพื่อเกื้อกูลแก่ชนเป็นอันมาก เป็นดุจเครื่องหล่อหลอมความสามัคคี เป็นบ่อเกิดแห่งคุณธรรมจริยธรรมของสังคม เป็นศูนย์รวมแห่งวิถีชีวิตของพุทธบริษัทและมวลมนุษยชาติโดยแท้

“ท่านเจ้าคุณ พระเทพวชิรญาณ เป็นพระมหาเถระรัตตัญญู ผู้มั่นคงจงรักภักดี ต่อสถาบันชาติพระศาสนา และพระมหากษัตริย์ เพรียบพร้อมด้วยมหาเถรสมณวัตร ผู้ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย ระเบียบแบบแผนพุทธประเพณี มีอาจาระงดงาม เพรียบพร้อมด้วยวัยวุฒิ คุณวุฒิ อาจริยวัตร อุดมด้วยวิปัสสนาภาวนาวิสุทธิ์ เป็นผู้นำในการสืบสานงานการเผยแผ่พระพุทธศาสนาด้านวิปัสสนาธุระเป็นพระมหาเถระผู้มีศรัทธา ตั้งมั่นในพระสัทธรรมมีน้ำใจเสียสละ มีสมณวัตรปรากฎ เป็นพระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ มีประสบการณ์มาก มีศีลเคร่งครัด ตระหนักในพระธรรมวินัย เป็นพหุสูต สดับตรับฟังมามาก สามารถนำมาเผยแผ่ ทรงจำพระธรรมวินัยได้ดี ฉลาดประสานระงับอธิกรณ์ ใฝ่ในธรรมนำปฏิบัติธรรม มีอาจาระ น่าเลื่อมใสศรัทธา

ท่านเจ้าคุณฯ อุดมด้วยกัลยาณธรรมในการปฏิบัติศาสนกิจทั้งในประเทศ และส่งเสริมให้พระเถรานุเถระ ไปปฏิบัติศาสนกิจในนานาประเทศ ในความหมายนี้ มิใช่เพื่อลาภสักการะหรือสิ่งอื่นใด  แต่คือการปฏิบัติศาสนกิจ ที่ปราศจากโลภะ โทสะ โมหะ ตามควรแก่การปฏิบัติ เพื่อความสุขสวัสดีความสันติสุข แก่ประชาชน ชุมชน สังคม ประเทศชาติ และพุทธบริษัททั้งมวล   การบำเพ็ญกุศลทั้งมวลนี้ จึงแปรเป็นทั้งอริยทรัพย์แก่ท่านเจ้าคุณฯ ผู้เป็นประธานในการบำเพ็ญบุญ และจะเป็นทั้งแหล่งผลิตอริยทรัพย์ให้เพิ่มพูนขึ้นในหมู่พุทธบริษัทโดยทั่วหน้า ขอทุกท่านจงยินดีอิ่มเอิบใจ ในบุญกิริยาที่ได้บำเพ็ญครั้งนี้เถิด..”

 

Leave a Reply