พระมหานรินทร์ “จวก” สำนักงานพุทธเดือด!! กรณีห้องรับรองพระ “สนามบินสุวรรณภูมิ”

วันที่ 16 ธ.ค. 67 พระมหานรินทร์ นรินฺโท ป.ธ.9 เจ้าอาวาสวัดไทยลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา พระนักวิจารณ์สังคมสงฆ์ชื่อดังได้โพสต์เฟชบุ๊คส่วนตัวเรื่องสุวรรณภูมิฟาดแรงว่า..ผู้บริหารสำนักพุทธฯ มันไม่มีหัวไง พร้อมถามต่อว่าทำงานแล้วไม่มีผลงาน พวกคุณทำไปเพื่ออะไร ? โดยมีข้อความดังนี้

ยกโขยงหกโมงเช้า อินทพร จันเอี่ยม ผอ.พศ. ควง บุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.พศ. สำรวจห้องรับรองพระสงฆ์สุวรรณภูมิ เรียบร้อยหรือไม่ หลังมีข่าวใหญ่ “ถูกปิดตาย-เปิดไว” ก่อให้เกิดกระแสไม่พอใจไปทั่วทั้งวงการพระสงฆ์ภายในและต่างประเทศ โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นฤดูการนมัสการสังเวชนียสถานในอินเดียและเนปาล พระสงฆ์จะใช้บริการห้องมากและบ่อยที่สุด

ที่สำคัญก็คือ มีการนำเอากรณีการปิดห้องรับรองพระสงฆ์ไปเปรียบเทียบกับห้องละหมาดของศาสนาอิสลามว่าถูกปิดด้วยหรือไม่ ถ้าไม่, ก็จะต้องหาคำตอบให้ได้ว่าทำไม สุดท้ายปัญหาก็จะโยงไปถึงตำแหน่งผู้อำนวยการสนามบินสุวรรณภูมิ และผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ปลายทางก็คือรัฐบาลไทย อย่างเลี่ยงไม่ได้

การเปิดห้องใหม่ทำให้โล่งอกโล่งใจ ไม่ต้องถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจโดยพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชน ทั้งภายในและต่างประเทศ นี่ก็เลยเป็นบทเรียนว่า การทำงานที่มองไม่เห็นจุดสำคัญของงานนั้นผลเป็นอย่างไร สำนักพุทธฯ แทบจะไม่รู้หรือไม่ให้ความสำคัญกับการเดินทางไปต่างประเทศของพระภิกษุสามเณรและพุทธศาสนิกชน จึงตั้งเจ้าหน้าที่ดูแลห้องพักพระสงฆ์กะหรอมกะแหรม เป็นระดับปลายแถว อยู่กันอย่างอดๆ อยากๆ ต่างจากศูนย์บัญชาการใหญ่คือพุทธมณฑล ตรงนั้นอิ่มหมีพีมัน ทั้งๆ ที่ตรงนี้ “สุวรรณภูมิ” เป็นประตูบานใหญ่ที่สุดของประเทศ ย่อมจะต้องมีพระภิกษุสามเณรและพุทธศาสนิกชนเดินผ่านมากที่สุด ผู้บริหารที่ฉลาดควรต้องมองให้ลึกซึ้งถึงผลพลอยได้ในการปฏิบัติงาน ว่าควรทุ่มเทสรรพกำลังไปไว้ ณ จุดไหน จึงจะได้ใจได้ผลงาน

แต่การ “กระจุก” กำลังพลไว้ที่พุทธมณฑล แล้วปล่อยให้สุวรรณภูมิมีแต่เจ้าหน้าที่เด็กๆ คอยเก็บรองเท้าพระสงฆ์นั้น มันควรหรือไม่ วันนี้ แม้ว่าห้องรับรองพระสงฆ์สุวรรณภูมิจะไม่ถูกปิด แค่ถูกย้าย แต่นายอินทพรและนายบุญเชิด มาดูกับหูกับตาแล้ว รู้เห็นอะไรมากขึ้นหรือยัง รู้ไหมว่า ต่อจากนี้ไป จะต้องไปปรับนโยบายของสำนักพุทธฯ อย่างไร ให้ทันกับเหตุการณ์บ้านเมือง โดยเฉพาะการเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มนักเดินทางที่มีอิทธิพลมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุสามเณรหรือชาวพุทธทั่วไป เขาไปสนามบินนะครับ ไม่ได้ไปขนส่งหมอชิต ดูราคาตั๋วสิว่าแต่ละที่นั้นเท่าไหร่ เปรียบเทียบง่ายๆ ตั๋วเครื่องบินที่เดียวก็ซื้อตั๋วรถทัวร์ได้ทั้งคันแล้ว แล้วการให้บริการอย่างที่ทำๆ กันมานั้นมันเหมาะสมหรือไม่ ควรต้องปรับปรุงอะไร ก็อย่าให้การไปครั้งนี้นั้นเสียเปล่า

ถามจริงๆ ทำไมต้องไปขอใช้พื้นที่สนามบินเขาฟรีๆ ในเมื่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติก็มีงบประมาณมากมาย เงินศาสนสมบัติกลางก็มีเป็นหมื่นๆ ล้าน ปีหนึ่งใช้สักเท่าไหร่เชียว เช่าพื้นที่มาเป็นของเราเลยสิ จะบริหารอย่างไรก็อยู่ที่เรา ไม่ต้องไปพะวักพะวงว่าเขาจะไล่ตอนไหน เพราะมัวแต่ขอเขานี่แหละ มันเลยทำให้พูดอะไรไม่ได้ เพราะผู้บริหารสำนักพุทธฯ มันไม่มีหัวไง

ถามว่า ทำงานแล้วไม่มีผลงาน พวกคุณทำไปเพื่ออะไร ?

Leave a Reply