“ทักษิณ” ช่วย “สลักจฤฎดิ์” หาเสียงเลือกเป็นนายก อบจ.เชียงราย ลั่นทุ่มเทกำลังเต็มที่แก้ปัญหาประเทศ แต่ต้องอาศัยท้องถิ่นร่วมมือ

เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2568 ที่สนามกีฬาโรงเรียนพานพิเศษพิทยา ตำบลสันติสุข อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาช่วยหาเสียงให้กับนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช ส.ส.เชียงราย นายวิสิษฐ์ เตชะธีราวัฒน์ อดีต ส.ส.เชียงราย รวมทั้งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (สอบจ.) ที่จะมีการเลือกตั้งในวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ โดยมีมวลชนคนเสื้อแดงและผู้ที่ให้การสนับสนุนมาร่วมฟังการปราศรัยประมาณ 25,000 คน
ก่อนที่นายทักษิณจะขึ้นเวทีปราศรัย ได้มีผู้สมัครนายก อบจ. และผู้สมัครสมาชิก อบจ. สลับกันขึ้นเวทีเพื่อพูดถึงนโยบายที่จะดำเนินการหากได้รับเลือกตั้ง จากนั้นได้มีบุคคลสำคัญจากพรรคเพื่อไทย เช่น นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข นางสาวขัตติยา สวัสดิผล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายณพลเดช มณีลังกา ผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ร่วมขึ้นเวทีปราศรัยเพื่อสนับสนุนผู้สมัคร
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวในช่วงหนึ่งของการปราศรัยว่า “มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคฝ่ายค้านบางคนกล่าวหาว่านโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นการแจกเพื่อทวงบุญคุณจากประชาชน ผมขอยืนยันว่า ทุกครั้งที่พรรคเพื่อไทยทำตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ ไม่เคยมีใครทวงบุญคุณจากประชาชนเลย พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่ทำตามนโยบายได้จริงตลอดกว่า 20 ปีที่ผ่านมา และเราเชื่อมั่นว่าประชาชนคือเจ้านายของเรา ไม่ใช่ใครอื่น”

นายทักษิณ ชินวัตร กล่าวในช่วงหนึ่งว่า “ผมหายไป 17 ปี คิดถึงพี่น้องประชาชนมาก กลับมาครั้งนี้นึกว่าเชียงรายจะเต็มไปด้วยตึกระฟ้า แต่ปรากฏว่ายังเหมือนเดิม ตอนนี้ผมกลับมาแล้ว เราจะช่วยพัฒนาให้เจริญขึ้น ที่สำคัญคือพี่น้องต้องมีเงินใช้ ช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมาเงินแทบไม่เหลือเลย แต่ปีนี้จะเริ่มมีเงินหมุนเวียน และปีหน้าจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้ฐานรากของประเทศสึกหรอไปมาก ไม่เหมือนช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 ที่นักธุรกิจพังเหมือนหลังคาบ้านพัง ซึ่งซ่อมง่าย แต่ตอนนี้ฐานราก เสาเข็ม และคันดินของประเทศพังหมด การซ่อมแซมจึงยากขึ้น ดังนั้น เราต้องอาศัยความร่วมมือจากท้องถิ่น เพราะท้องถิ่นเป็นหัวใจสำคัญในการช่วยฟื้นฟูพี่น้องชาวรากหญ้าให้กลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง ท้องถิ่นและรัฐบาลต้องทำงานร่วมกันถึงจะผ่านวิกฤตนี้ไปได้”
นายทักษิณยังกล่าวถึงปัญหายาเสพติดว่า “เมื่อก่อนยาเสพติดเคยหายไปแล้ว แต่ตอนนี้กลับมาอีก เราต้องจัดการอย่างเร่งด่วน ในปีนี้ต้องเอาให้เกลี้ยง รวมถึงปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วย เราต้องช่วยกันจัดการให้สิ้นซาก ทั้งคอลเซ็นเตอร์และยาเสพติดต้องจบภายในสิ้นปีนี้ พี่น้องต้องช่วยกัน อย่าให้พวกนี้มีที่ยืน ผมไม่ชอบพวกค้ายาเสพติดมาก พี่น้องต้องไปบอกพวกมันว่าไม่เอา ให้เลิกซะ ผมจะไม่ปล่อยไว้เด็ดขาด”
ในส่วนของเศรษฐกิจเชียงราย นายทักษิณกล่าวว่า “ตอนนี้เศรษฐกิจเชียงรายกำลังค่อย ๆ ฟื้นตัว ผมจะไปดูโครงการที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ตอนนี้จีนกำลังสร้างถนนจากจีนมาลาวและเข้าสู่ไทย เราต้องเตรียมตัวรองรับนักท่องเที่ยวเพื่อให้เศรษฐกิจแข็งแรงขึ้น ส่วนปัญหา PM 2.5 การปลูกข้าวโพดห้ามเผาเด็ดขาด เพราะถ้าเผาเขาจะไม่รับซื้อ ให้ปล่อยให้เน่าเป็นปุ๋ยแทน ข้าวก็เช่นกัน อย่าเผา ให้ปล่อยน้ำเข้าไปจนเน่าเป็นปุ๋ย ปีต่อไปจะได้ผลดีขึ้นมาก”


นายทักษิณยังกล่าวทิ้งท้ายว่า “ปีนี้ผมกลับมาเพื่อทำงานให้พี่น้องประชาชน เดือนกรกฎาคมนี้ผมจะอายุ 76 ปีแล้ว แต่ผมยังอยากทำงานต่อไป หากพี่น้องอยากใช้งานผม ต้องเลือกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) มาให้ผมใช้ด้วย จะได้มีมือไม้ช่วยทำงาน ตอนนี้ร่างกายผมไม่ค่อยแข็งแรงเหมือนเดิม แต่ตราบใดที่ผมยังมีกำลังและไม่เป็นอัลไซเมอร์ ผมจะทำงานตอบแทนพี่น้องที่ไม่เคยลืมผม ขอให้เลือกกันให้ทั่วหน้าในครั้งนี้นะครับ อย่าลืม”
ด้านนายวิสาร เตชะธีรวัฒน์ กล่าวว่าการที่นายทักษิณ ชินวัตร เดินทางมาที่จังหวัดเชียงรายครั้งนี้ ถือเป็นนิมิตหมายอันดี ซึ่งส่งผลสำคัญต่อการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อย่างมาก สำหรับพื้นที่ต่าง ๆ เช่น อำเภอพาน อำเภอป่าแดด อำเภอเมือง อำเภอแม่ลาว อำเภอแม่สรวย และอำเภอเวียงป่าเป้า ประชาชนจากพื้นที่ได้มารวมตัวกันที่เวทีอำเภอพาน โดยประชาชนจำนวนมากเดินทางมาเฝ้ารอตั้งแต่เวลา 07.00 น. และยังคงยืนหยัดรอจนถึงเวลาเริ่มกิจกรรมในช่วง 13.30 น. แม้จะต้องเผชิญกับแสงแดดที่ร้อนแรงก็ตาม ทั้งนี้ตนได้ทราบข่าวกัน ทุจริตการเลือกตั้งขอให้ประชาชนลงโทษผู้ซื้อสิทธิ์ขายเสียงเพราะถือว่าเป็นการดูถูกประชาชนชาวเชียงราย ตนต้องขอขอบคุณประชาชนทุกท่านอีกครั้งที่ให้การตอบรับอย่างอบอุ่นและตั้งใจร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
การปราศรัยครั้งนี้เป็นการส่งสัญญาณถึงความตั้งใจที่จะพัฒนาประเทศและช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะการฟื้นฟูเศรษฐกิจและแก้ไขปัญหาสังคมที่สะสมมายาวนาน ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากประชาชนที่ร่วมงาน

Leave a Reply