“ผู้เขียน” ได้รับความเมตตาจาก “เจ้าคุณหรรษา” พระเมธีวัชรบัณฑิต ผอ.วิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ มจร ในฐานะผู้ช่วยเลขาธิการสมาคมสภาสากลวันวิสาขบูชาโลกแจ้งว่า “พระพรหมบัณฑิต” ประธานสภาสากลวันวิสาขบูชาโลก (ICDV) และ “พระพรหมวัชรธีราจารย์” อธิการบดีบดี มจร ในฐานะเลขาธิการสภาสากลวันวิสาขบูชาโลก ชวนให้ไปร่วมกิจกรรมงานวิสาขบูชาโลกครั้งที่ 20 ระหว่างวันที่ 5-9 พฤษภาคม 2568 นี้ ณ มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาเวียดนาม เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
พร้อมบอกต่อว่า สำหรับการจัดงานวิสาขบูชานานาชาติหรือ “วิสาขบูชาโลก” ณ ประเทศเวียดนามปีนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว ซึ่ง 3 ครั้งแรก จัดขึ้นที่เมืองฮานอย และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่จัด ณ เมืองโฮจิมินห์ โดยปีนี้รัฐบาลและคณะสงฆ์เวียนนามเชิญประเทศต่าง ๆ มาร่วมงานประมาณ 120 ประเทศ มีชาวพุทธทั้งผู้นำประเทศ สังฆราช สังฆนายก ประธานสงฆ์ พระภิกษุสงฆ์ นักวิชาการ และพุทธศาสนิกชนประมาณ 2,500 รูป/คน

หลายปีมานี้ “เวียดนาม” ส่ง พระภิกษุ ภิกษุณี ฆราวาส มาเรียนที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยปีละไม่ต่ำกว่า 300 รูป/คน โดยเฉพาะเข้ามาเรียนมากสุด คือ วิทยาลัยพุทธศาสตร์นาชาติหรือ “IBSC” ที่เจ้าคุณหรรษา เป็นผู้อำนวยการอยู่นั่นเอง
“เวียดนาม” ยุคหลัง ๆ มานี้ “ประเทศมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง” พระพุทธศาสนาทั้งมหายานและเถรวาทมีความเจริญแบบก้าวกระโดดจริงๆ ด้วยจำนวนประชากร 100 ล้านคน จากคำบอกเล่าของสมัชชาสงฆ์เวียดนามมีคนนับถือศาสนาพุทธไม่ต่ำกว่า 40 ล้านคน
จำนวนวัด จำนวนพระภิกษุ พระภิกษุณี เพิ่มขึ้นทุกปี และที่สำคัญบวชแล้ว..ไม่สึก
เวียดนามเป็นประเทศเดียวในสุวรรณภูมิที่ผู้คนนับถือศาสนาพุทธนิกายมหายานอย่างต่อเนื่องไม่เคยขาดช่วง ไม่เหมือนชาวไทย ลาว กัมพูชา และพม่า ที่เคยนับถือศาสนาพุทธแบบมหายาน ก่อนที่จะหันมานับถือศาสนาพุทธแบบเถรวาทอย่างในปัจจุบัน

ในอดีตฝรั่งเศส คือ ผู้นำศาสนาคริสต์เข้าเวียดนาม พร้อมทั้งสร้างโรงเรียน โรงพยาบาล และสถานสงเคราะห์ โน้มน้าวให้ชาวเวียดนามหรือไทยรู้จักในนามว่า “ญวน” ให้เปลี่ยนศาสนา เมื่อเป็นชาวญวนคริสต์แล้วก็เชื่อฟังแต่พระสันตะปาปาที่กรุงโรมมากกว่ากษัตริย์ญวน จักรพรรดิหมิ่นหม่างจึงต่อต้านบาทหลวงและฟื้นฟูลัทธิขงจื๊อและลัทธิท้องถิ่น กษัตริย์องค์ต่อมาคือจักรพรรดิเทียวตรีกวาดล้างชาวคริสต์ ชาวญวนคริสต์จึงร้องเรียนไปยังฝรั่งเศสรัฐบาลฝรั่งเศสจึงถือเอาความขัดแย้งนี้เข้ามายึดแผ่นดินเวียดนาม โดยอ้างว่าเพื่อปกป้องชาวคริสต์ แต่ยึดได้เฉพาะไซ่ง่อน หรือปัจจุบันคือ เมืองโฮจิมินห์
ฝรั่งเศสใช้วิธีการเพิ่มจำนวนชาวคริสต์ในดินแดนที่ตนจะเข้ายึด หลังจากยึดไซ่ง่อนได้ใน พ.ศ.2402 แล้ว ฝรั่งเศสใช้เวลานาน 24 ปีเร่งเพิ่มจำนวนชาวญวนคริสต์ พ.ศ.2426 จึงสามารถยึดเวียดนามได้ทั้งประเทศ พระภิกษุและชาวญวนพุทธพยายามต่อต้านอิทธิพลฝรั่งเศส แต่กษัตริย์เบาด๋ายที่นับถือลัทธิขงจื๊อทรงงอพระหัตถ์งอพระบาท (งอมืองอเท้า) ในการช่วยชาวญวนพุทธ ชาวญวนพุทธจึงแพ้ฝรั่งเศส บั้นปลายท้ายที่สุด ก็พังกันทั้ง “สถาบันกษัตริย์ญวนและชาวญวนพุทธ”
“ผู้เขียน” ขอเล่าข้ามมาในปี 2506 “ยุคสงครามเย็น” โดยนำคำเขียนของ “นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย” มาเล่าต่อว่าเมื่อ 5 พฤษภาคม 2506 นายโงดินห์ถึก น้องชายประธานาธิบดีโงดินห์เดียม ที่ได้รับการสนับสนุนโดยสหรัฐฯไปนครวาติกัน เพื่อถวายรายงานพระสันตะปาปาด้วยประโยค “ประชาชนเวียดนามเป็นประชากรของพระเจ้า ล้วนเคารพในพระเจ้า และจะซื่อสัตย์ต่อพระสันตะปาปา จากนั้นก็สั่งให้บริวารประดับธงศาสนาและติดไม้กางเขนทั่วเวียดนาม”
ต่อมาในวันที่ 7 พฤษภาคม 2506 คณะสงฆ์ในนครโฮจิมินห์จัดงานวันวิสาขบูชา รัฐบาลเวียดนามใต้สั่งห้ามจัดงานและห้ามประดับธงพุทธศาสนา ส่วนที่ประดับไปแล้วให้เผาทิ้ง รัฐบาลเวียดนามใต้สั่งให้ปราบชาวพุทธที่ออกมาประท้วงในฐานะศัตรูของพระเจ้า ตำรวจขับรถบรรทุกฝ่าเข้าไปกลางขบวน ทำให้มีพระภิกษุสงฆ์มรณภาพ 70 รูป พุทธศาสนิกชนตาย 30 คน บาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก รัฐบาลเวียดนามใต้ประกาศว่า ผู้เดินขบวนเป็นคอมมิวนิสต์ พระสงฆ์และแม่ชีเป็นแนวร่วมคอมมิวนิสต์ที่ต้องการทำลายศาสนา และเป็นผู้ขว้างระเบิดทำลายโบสถ์คริสต์
“ผู้นำเวียดนาม” ในอดีต บังคับให้คนเวียดนามให้หันมานับถือศาสนาคริสต์ โดยมีแรงจูงใจ “ตำแหน่ง” ความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่ราชการและทางการเมือง ในขณะที่ “ชาวพุทธ” หรือ “ผู้นับถือ” ความเชื่ออื่น ๆ จะถูกกีดกันสารพัดวิธี!!
จนเป็นที่มาของ “พระมหาเถระติชกวางดึ๊ก” ประท้วงด้วยการจุดไฟเผาตัวต่อหน้าผู้สื่อข่าวต่างประเทศในท่าขัดสมาธิ นั่งตัวตรงอย่างสงบ ไม่มีกิริยาดิ้นรนใด ๆ ทั้งสิ้น จน “สะเทือนใจ”ไปทั่วโลก โดยเฉพาะในหมู่ชาวพุทธ


Leave a Reply