วันที่  29 กรกฎาคม 2569 พระศรีวิสุทธิมนี รองเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี พระครูอรุณธรรมโกศล รองเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี พระครูวีรวงศ์บรรหาร รองเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยพระครูไพศาลธรรมประสุต เจ้าคณะอำเภอทุ่งศรีอุดม พระครูปริยัติคณานุกิจ เจ้าคณะอำเภอบุณฑริก พระครูกิตติปุญญากร เจ้าคณะอำเภอสว่างวีระวงศ์ พระครูสันติสุนทโรบล รองเจ้าคณะอำเภอเดชอุดม และกองงานเลขานุการ ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจ เยียวยาจิตใจพร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภคปริโภคจำนวน 4 ศูนย์พักพิงผู้อพยพจากเหตุการณ์ความไม่สงบตามชายแดนไทย-กัมพูชาในเขตอำเภอนาจะหลวย

พระศรีวิสุทธิมุนี กล่าวว่า คณะสงฆ์จังหวัดอุบลราชธานีทุกอำเภอได้แยกกันลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภคปริโภคตั้งแต่วันแรกที่มีการอพยพจนถึงวันนี้ เพราะคณะสงฆ์ได้เตรียมการและประสานงานกับฝ่ายบ้านเมืองตั้งแต่วันแรกที่เริ่มมีการปะทะกัน แต่วันนี้มาเป็นคณะใหญ่ด้วยหวังว่าจะเป็นกำลังใจให้ความอบอุ่นทั้งผู้อพยพและผู้ดูแลผู้อพยพเจ้าของพื้นที่ให้คลายความวิตกกังวลบ้าง จึงมอบให้พระครูปริยัติคณานุกิจ เจ้าคณะอำเภอบุณฑริกได้กล่าวธรรมะบันเทิงกับผู้อพยพเพื่อให้เป็น “ธรรมะเยียวยา”ในคราทุกข์ยากลำบาก

คณะสงฆ์จังหวัดอุบลราชธานีหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสันติภาพ ความสงบสุข ความร่มเย็นจักเกิดขึ้นในชายแดนไทย-กัมพูชา ในเร็ววัน เพราะสงครามไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีแต่ก่อให้เกิดความสูญเสีย เต็มไปด้วยคราบน้ำตา เป็นทุกข์ทั้ง 2 ฝ่าย ดังพุทธสุภาษิตที่ว่า “ชะยัง เวรัง ปะสะวะติ ทุกขัง เสติ ปะราชิโต อุปะสันโต สุขัง เสติ หิตะวา ชะยะปะราชะยัง ผู้ชนะย่อมก่อเวร ผู้แพ้ย่อมนอนเป็นทุกข์ ผู้สงบระงับละทั้งความชนะและความแพ้ได้แล้ว จึงอยู่เป็นสุข” หวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะนำสันติภาพมาสู่ชายแดนของทั้ง 2 ประเทศโดยเร็วเพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้ง 2 ประเทศโดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ตามตะเข็บชายแดนจะได้ไม่ต้องหวาดระแวง พลัดพรากจากถิ่นฐานของตน พลัดพรากจากบุคคลอันเป็นที่รัก

รัိ