วันที่ 14 ตุลาคม 67 เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ในฐานะ แม่กองธรรมสนามหลวง ได้กล่าวเปิดสอบธรรมสนามหลวง คำกล่าวเปิดสอบธรรมสนามหลวงของ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ปีนี้ ถือว่า “ขยับตัวแรง” ท่ามกลางคณะสงฆในยุคปัจจุบันถูก “ด้อยค่า” และถูกจับตา “ตรวจสอบ” พฤติกรรมจากประชาชนหลากหลายรูปแบบ ในขณะที่ชาวพุทธยุคใหม่ บางกลุ่มบางคณะ ทั้งพระภิกษุและคฤหัสถ์ ใช้สื่อสารนวัตกรรมใหม่ ๆ ประดิษฐ์คอนเทนต์ สร้างวาทกรรม “ที่ต้องใจ” ชาวพุทธเป็นจำนวนมาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้กระทบต่อความมั่นคงพระพุทธศาสนา หลักคำสอน จารีตประเพณี ความเชื่อดั้งเดิม และภาพลักษณ์ต่อคณะสงฆ์ ในประเทศไทยเป็นอย่างมาก

“Thebuddh” ขอนำคำกล่าวปราศรัยของ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ลงไว้โดยละเอียด ดังนี้ การศึกษาและการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรม เป็นพันธกิจหนึ่งในพันธกิจทั้ง 6 ด้านของคณะสงฆ์ เป็นภารธุระที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน เจ้าคณะพระสังฆาธิการ ในฐานะผู้บริหารกิจการคณะสงฆ์ จะละเว้นเพิกเฉยต่อหน้าที่นี่มิได้ เพราะความเสื่อมก็ดี ความเจริญก็ดี ของคณะสงฆ์และของชาติบ้านเมือง ย่อมขึ้นกับการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งนี้ กว่าจะบรรลุเป้าหมายของการศึกษาได้ย่อมต้องอาศัยเวลา ซึ่งอาจไม่รวดเร็วทันใจคนยุคใหม่ ปัจจุบันจึงเกิดคณะบุคคลประเภทที่พากันสอนและพากันเชื่อตามอัตโนมติของตนมากขึ้น ๆ หลายหมู่หลายคณะต่างพอใจกันรวบรัดกระทำการลง โดยไม่ศึกษาอ้างอิงพระไตรปิฎก อรรถกถา ฎีกา ตามกระบวนวิธีวิทยาทางการศึกษาที่ถูกต้อง ประจวบกับเทคโนโลยีการสื่อสารและการผลิตข้อมูลข่าวสารเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ปัญหาเหล่านี้ลุกลามใหญ่โตอย่างรวดเร็วตามกัน
ภาวะเช่นนี้คือ มหันตภัยต่อความบริสุทธิ์บริบูรณ์และความยั่งยืนของพระพุทธศาสนา จึงขอให้ท่านผู้บริหารการศึกษา จงพยายามช่วยรักษาและพัฒนากระบวนการจัดการพุทธศาสนศึกษาให้เป็นไปตามหลักพระไตรปิฏก และคัมภีร์สำคัญอันอ้างอิงเชื่อถือได้ โดยยึดหลักสูตรที่คณะสงฆ์ได้ตั้งไว้อย่างรอบคอบแล้วเป็นสำคัญ เพื่อให้พระธรรมวินัยยังคงประดิษฐานอยู่อย่างมั่นคง เป็นกลไกในการเสริมคุณสมบัติที่พึงประสงค์สำหรับพุทธศาสนิกชน ตามพระบรมราโชบายในรัชกาลที่ 9 ที่พระราชทานไว้เมื่อพุทธศักราช 2529 ความตอนหนึ่งว่า ” เมื่อชาวพุทธรูปธรรมะ ปฎิบัติธรรมอย่างถูกต้องทั่วถึง พระศาสนาก็จะมั่นคงขึ้นได้ ทั้งนี้ เพราะเหตุที่บ่อนเบียนพระศาสนาให้เศร้าหมองนั่น มักจะมาจากการกระทำของชาวพุทธผู้ไม่รู้ ไม่เข้าใจ และปฎิบัติตามธรรมะนั่นเองเป็นสำคัญ..”


Leave a Reply