วันที่ 25 เมษายน 2568 ระหว่างวันที่ 25 ถึงวันที่ 28 เมษายน 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ ตามคำทูลเชิญของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรัชสมัย
ในระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี จะเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีแห่งราชอาณาจักรภูฏานพระองค์ปัจจุบัน รวมถึงสมเด็จพระราชาธิบดีพระองค์ที่ 4 แห่งราชอาณาจักรภูฏาน และเสด็จพระราชดำเนินไปยังสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปดอร์เดนมา ซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลโดยคณะสงฆ์ภูฏานและคณะสงฆ์ไทยฝ่ายละ 74 รูป เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการแสดงศิลปวัฒนธรรมของภูฏานได้แก่การแสดงศิลปะการยิงธนู งานหัตถกรรมผ้าและสิ่งทอ และทอดพระเนตรนิทรรศการความร่วมมือระหว่างโครงการหลวงของไทยกับหน่วยงานฝ่ายภูฏาน และโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์
การเสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการกระชับสัมพันธไมตรีระหว่างสองพระราชวงศ์ที่มีความผูกพันกันอย่างแน่นแฟ้นแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างมิตรภาพและความเข้าใจอันดี ระหว่างสองราชอาณาจักรและประชาชนให้เพิ่มพูนยิ่งขึ้นไปในทุกระดับ
สำหรับพระพุทธรูปองค์ใหญ่ดอร์เดนมาเป็นพระพุทธรูปศากยมุนี ซึ่งเป็นสถานที่เจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลทั้งคณะสงฆ์และบรรพชิตภูฎานนั้น เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่ตั้ง ตระหง่านอยู่บนภูเขาในภูฏานเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 60 ปีของสมเด็จพระราชาจิกมี ซิงเย วังชุก รัชกาลที่ 4
การก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี 2549 และมีแผนว่าจะแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม 2553 อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างไม่แล้วเสร็จจนกระทั่งวันที่ 25 กันยายน 2558 จึงสร้างเสร็จ ถือเป็นพระพุทธรูป องค์ใหญ่ที่สุดองค์หนึ่ง ของโลก สูง 177 ฟุต (54 เมตร) และมีพระพุทธรูปสำริดปิดทองสูง 8 นิ้ว จำนวน 100,000 องค์ และพระพุทธรูปสำริดปิดทองสูง 12 นิ้ว จำนวน 25,000 องค์
รูปปั้นนี้สร้างขึ้นด้วยเงินบริจาคเบื้องต้น 47 ล้านเหรียญสหรัฐ โดย Aerosun Corporation แห่งเมืองหนานจิงประเทศจีน ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดย Rinchen Peter Teo นักธุรกิจชาวสิงคโปร์ งบประมาณแล้วเสร็จมากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ
Leave a Reply