“พระนักวิชาการ”ชื่อดัง!! แนะ 6 ทางเลือก สำหรับ “พระสังฆาธิการ” ยุค “วิกฤติศรัทธา”

วันที่ 4 สิงหาคม 2568  พระเมธีวัชรบัณฑิต หรือ “เจ้าคุณหรรษา”  ผู้อำนวยการหลักสูตรพุทธศาสตรดุษฏีบัณฑิต สาขาสตินวัตกรรมและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ได้แสดงความคิดเห็น กรณี “อดีตเจ้าอาวาสวัดแม่โจ้” จังหวัดเชียงใหม่ ได้ฆ่าตัวตาย สืบเนื่องมาจากความเครียดสะสมอันเกิดมาจาก มติมหาเถรสมาคมให้วัดทุกวัดทำบัญชีวัดรายรับ -รายจ่าย โดยที่พระสังฆาธิการระดับเจ้าอาวาส 40,000 กว่าวัดไม่มีความพร้อม จึงเกิดแรงกดดัน ก่อเหตุกระทำ อัตตวินิบาต ตนเองดังที่เสนอข่าวไปแล้วนั่น   โดยรายละเอียดมี ดังนี้

วิกฤตศรัทธาและมรณภาพของพระสังฆาธิการ  บริหารจัดการไม่ดีคนจะหนีพุทธไทยกันหมด?!?!?  เรื่องที่จะพูดหรือเขียนต่อไปนี้ ความจริงแล้วคิดมานานมากว่าจะเขียนดีไหม!! ความคิดที่ว่ามิใช่ความคิดของตัวเอง หากแต่เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดในสังคมพุทธไทยมาพักใหญ่แล้ว ทุกๆ วันก็จะมีทั้งพระและโยมสนทนาธรรม มาตลอด แต่ช่วง 2-3 เดือนนี้ ก็ยิ่งเห็นความคิดที่ชัดเจนของพุทธบริษัท จนมาถึงวันที่พระสังฆาธิการรูปหนึ่งตัดสินใจฆ่าตัวตายเพราะปัญหาการทำบัญชีวัด

6 ประเด็นต่อไปนี้ คือสิ่งที่พุทธศาสนิก และพุทธบริษัทในประเทศไทยกำลังเผชิญ และตัดสินใจเลือกว่า ต่อไปนี้ วิถีทางนับถือพระพุทธศาสนาควรจะเป็นไปในลักษณะใด ขอนิมนต์เชิญทุกท่านมาพิจารณาร่วมกัน

1: ปลีกตัวเองไปหาพุทธแบบดั้งเดิม
พุทธบริษัทกลุ่มหนึ่งกำลังปลีกตัวออกไปปฏิบัติธรรมตามนิคม ตามป่าเขา ตามเรือนว่าง อันเป็นไปตามแนวพุทธเถรวาท หรือพุทธบริสุทธ์ พุทธแบบดั้งเดิม ทั้งที่สอดรับกับรัฐธรรม ปี 60 มาตรา 67 และสอดรับกับพุทธประสงค์ดั้งเดิม

2:หนีพุทธไทยไปพัฒนาสถานธรรมส่วนตัว
พุทธบริษัทผนึกกำลังกันพัฒนาสถานธรรม โดยไม่ประสงค์ให้มีสถานะเป็นวัดตาม พรบ คณะสงฆ์ 2505 ที่สะท้อนพุทธราชการ หรือพุทธแบบไทยๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการภาระต่างๆ ที่จะต้องปฏิบัติตามกฏหมายและมติมหาเถรสมาคม

3: ลาออกจากพระสังฆาธิการเจ้าพนักงานของรัฐ
พระมหาเถระเจ้าคณะพระสังฆาธิการ ขอลาออกจากการเป็นเจ้าอาวาส รวมถึงเจ้าคณะผู้ปกครองตาม พรบสงฆ์ 2505 เพราะไม่ประสงค์จะแบกรับภาระดังกล่าว ทั้งการทำบัญชี การตั้งคณะกรรมการต่างๆ เป็นต้น โดยเฉพาะพระภิกษุในต่างจังหวัด

4: ฆ่าตัวตายสบายกว่า
พระสังฆาธิการบางรูปที่สมณธรรมยังอ่อน เลือกตัดสินใจที่จะปลิดชีวิตฆ่าตัวตาย เพื่อหลีกสายตาที่ดูแคลน คำพูดที่เสียดแทงใจ รวมการที่จะต้องเข้าไปแบกรับภาระต่างๆ ที่เกิดขึ้น

5: สึกออกไปใช้ชีวิตแบบฆราวาส
พระสังฆาธิการที่ศรัทธายังอ่อน จึงเลือกตัดสินใจที่จะสละสมณเพศ เพื่อเลือกเส้นทางอื่นที่เหมาะสมกับการดำเนินชีวิตของตัวเอง และมองว่า ไม่จำเป็นอะไรที่จะต้องเข้ามารับภาระธุระในการดูแลวัดอาอาราม

6: ไปนับถือพุทธนิกายอื่นที่ตอบโจทย์
พุทธบริษัทไท่น้อยในยุคปัจจุบัน เลือกที่จะหันไปนับถือพระพุทธศาสนานิกายอื่นๆ ทั้งมหายานแบบวิถีหมู่บ้านพรัม หรือ Plum village วัชรยานแบบธิเบต ตามลมหายใจท่านดาไลลามะ เหตุผลหนึ่งก็เพราะเหมาะกับจริต แต่ผลที่บางท่านตอบน่าสนใจมากก็คือ หลีกหนีความเป็นแบบพุทธไทยตามกรอบของ พรบ คณะสงฆ์ 2505

ทั้งหมดคือเส้นทาง หรือทางเลือกที่พุทธบริษัทหลายท่านที่พูดคุยสนทนาตลอดเวลาที่ผ่านมา ส่วนตัวเข้าใจว่า นับวันพุทธแบบไทยก็จะถูกตีกรอบให้แคบลง ทั้งจำนวนผู้นับถือ และผู้สนใจเข้ามาศึกษาและเรียนเพือนำไปยกระดับจิตใจ

สอดรับกับบางท่านที่พยายามตอกย้ำว่า สถาบันพระพุทธศาสนา หรือสถาบันสงฆ์ หรือถ้าจะกล่าวให้แคบลงหรือสถาบันภิกษุสงฆ์ไทย จะค่อยๆ เลือนหายไปจากความต้องการของคนรุ่นใหม่มากขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะคนกลุ่มนี้จะมีทางเลือกการศึกษาแบะปฏิบัติตามแนวทางอื่นๆ ที่ตอบโจทย์ หรือสอดรับกับความคาดหวังมากกว่า

สุดท้ายสถาบันสงฆ์ไทยก็จะคงเหลือไว้ในเชิงรูปแบบ และพิธีกรรม ที่จะนำไปตอบโจทย์ในลักษณะศาสนาราชการ อันเป็นลักษณะประเพณีนิยมที่สังคมไทยเคยใช้ประโยชน์ตามเทศกาลและพิธีกรรมต่างๆ

ข้อมูลที่กล่าวมา คือการสนทนาพูดคุยแลกเปลี่ยนในวงเวทีสัมมนามาหลายปี และในฐานะคนที่ทำงานด้านศาสนาและเทววิทยาตามเส้นทางตำแหน่งทางวิชาการร่วมกับผู้ที่นับถือศาสนา (Buddhists) กับผู้ที่มิได้นับถือ (Non-Buddhists) แล้วถือโอกาสนำมาแลกเปลี่ยนรู้

ทั้ง 6 เหตุผลในการเลือกนับถือและปฏิบัติตามครรลองของการเป็นพุทธศาสนิกชนข้างต้นนั้น ขอให้วิญญูชนพิเคราะห์อย่างมีคนที่มีพุทธปัญญา พิจารณาอย่างไร้อคติ มิใช่การพูดด้วยอารมณ์ว่า อยู่ได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็อย่าอยู่ หรืออยู่ไม่ได้จะไปนับถือพุทธแบบไหนก็ไป จะฆ่าตัวตาย จะสึกหาลาเพศก็ช่างหัวคุณ!!

การแสดงออกดังกล่าว นับว่าไม่สอดคล้องกับการมองและปฏิบัติต่อคนตามบัวสามเหล่า: พ้นน้ำ ปริ่มน้ำ และใต้น้ำ รวมถึงขาดการนำเสนอธรรมะตามแนวอนุปุพพีกถา หรือการนำเสนอธรรมะแบบใบ้ไม้ในกำมือ คือ กำของใครก็กำของคนนั้น ตามวุฒิภาวะหรือภูมิธรรมที่พึ่งมี

ถึงเวลาที่พุทธบริษัททั้งหลาย จักได้ช่วยกันศึกษา และพิจารณาด้วยพุทธปัญญาอย่างถ่องแท้ตามหลักอริยสัจ เพือจะได้เข้าใจว่าอะไรคือทุกข์ อะไรคือสาเหตุของทุกข์ อะไรคือความอยู่รอดและเจริญรุ่งเรืองของพุทธศาสนาอันเป็นภาวะดับไปของทุกข์ และอะไรคือยุทธศาสตร์ หรือหนทางที่เราจะช่วยกันออกแบบ เพื่อให้เหมาะสมกับโลกที่เปลี่ยนไป โดยไม่ขัดหรือแย้งกับพระธรรมวินัยที่เป็นศาสดาของพวกเราชาวพุทธ

ขณะที่ชาวเพจ “Thebuddh” ได้สะท้อนกรณี “อดีตเจ้าอาวาสวัดแม่โจ้” ฆ่าตัวตาย หลากหลายความคิดเห็น ดังนี้

วินัย สังขวรรณะ
อ่านจดหมายของพระท่านแล้วก็สงสารพระท่าน การทำบัญชีการเงินมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ คงเคยได้ยินได้อ่านข่าวกันมาบ้างขนาดครูในโรงเรียนที่เรียบจบปริญญาพอบรรจุราชการครูได้งานที่ครูส่วนใหญ่ปฏิเสธไม่ยากทำคืองานการเงินที่เกี่ยวข้องกับการทำบัญชีเหมือนกันถ้าปฏิเสธได้ก็จะปฏิเสธ ขนาดที่จะเรียกว่าง่ายกว่าเพราะมีงบเป็นก้อนจากรัฐมาให้แต่การทำบัญชีการเงินของวัน เงินวัดส่วนใหญ่จากการบริจาคมันมีทุกวัน วันละเล็กละน้อยบางกรณีอาจจะลงบันทึกตามความเข้าใจแต่ถ้ามีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบแล้วบอกว่าผิดพระท่านก็เดือดร้อนก็เครียดอีก ทางที่ดีตอนนี้พระที่เป็นเจ้าอาวาสก็ลาออกจากเจ้าอาวาสเถอครับไม่ต้องเครียดแล้วปลอดภัยดีอยู่วัดปฏิบัติธรรม ใครศรัทธาเลื่อมใสจะบริจาคก็ให้บริจาคเป็นส่วนตัวได้เงินแล้วพระจะปฏิสังขรเสนาสนะกุฏิวิหารก็ทำไปโดยขออนุญาตเจ้าคณะปกครองหรือทำในนามชาวบ้านญาติโยมก็ไม่ต้องกล้วตรวจสอบเพราพระเมื่อไม่เป็นเจ้าอาวาสและก็ไม่ใช่เจ้าพนักงาน อยู่แบบนี้ดีกว่าพระจะได้ไม่เครียดใครศรัทธาก็ทำบุญไป

ะไร อะไร ล้วนมีสองด้าน ทุกอย่างล้วนอนิจจัง  อนิจจัง หนอ ทุกข์ หนอ
ไม่ทราบ วัดใหญ่ วัดดัง ยศชั้น ต่ำแหน่งสูงๆ ผู้เป็นต้นเหตุ ต้นเรื่อง จะรู้สึกอย่างไรบ้าง
สถานะของวัด และศักยภาพของวัด มันไม่เท่ากัน ไม่เหมือนกัน แต่ถูกนำมารวม ร่วมรับรู้และต้องปฏิบัติ นี้ มันไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย ขอบุญกุศล นำท่านไปสู่สุคติภพ ในสัมปรายภพ ด้วยเทอญ

นาเกาะ หล่มเก่า คนสั่งการให้ทำแหละคือต้องมบทวนใหม่

Pimanrattaya Teewapitak ทำบัญชีวัด ทำอย่าง “ตรงไป ตรงมา ” รับเท่าไหร่ จ่ายอะไรเท่าไหร่ เหลือ เท่าไหร่ จะเครียด ทำไม

Gtu Keawpetch ปัญหาใหญ่คือมีชาวพระบางคนต้องการให้คณะสงฆ์เป็นองค์ขึ้นกับรัฐแบบรัฐราชการ เมื่อเป็นเช่นนั้นเท่ากับว่าองค์กรสงฆ์ต้องเปิดเผยและสามรถตรวจสอบได้ตามกระบวนการระเบียบของรัฐราชการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้..

Leave a Reply