อันเนื่องมาจากบทความ “เงาทะมึน ..??” โดย เปรียญสิบ

ในนามคณะสงฆ์ พุทธบริษัท องค์กรชาวพุทธทั่วประเทศและพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ต้องขอขอบคุณยิ่งต่อ ”เปรียญสิบ“ ที่ได้เขียนบทความได้ถูกต้อง ถูกที่ ถูกทาง ตีแผ่ความจริงให้ปรากฎ เพื่อการปกป้องคณะสงฆ์ พระพุทธศาสนาและสถาบันหลักของชาติอย่างที่สื่อกระแสหลักไม่เคยทำหรือคิดจะทำมาก่อน

เนื้อหาสาระในบทความนี้ควรที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยตรงทั้งภาครัฐ ตำรวจ สำนักพุทธฯและองค์กรปกครองสงฆ์ จะได้ให้ความสำคัญอย่างจริงจัง ช่วยกันคิด ช่วยกันวิเคราะห์และหันมาลงมือทำอย่างจริงจังในทางที่ถูกต้อง ดีงามตามอย่างอารยประเพณีเพื่อรักษาทั้งสามสถาบันหลักของชาติเอาไว้ให้มั่นคง สถาพรและสง่างามต่อไป

ปัจจุบันต้องยอมรับความจริงว่าได้มีการกระทำต่อพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาในลักษณะที่ก้าวล่วง ไม่เคารพยำเกรงใช้วิธีตีข่าว ข่มขู่ล่วงหน้าในทางสื่อสาธารณะ โหมกระพือ ขายข่าว ไล่ต้อนและไหลตามกระแส เพื่อกระทำการบางอย่างโดยคิดว่านี่คือความถูกต้อง ตรงไปตรงมา นี่คือการรักษาพระศาสนา การกำจัดอลัชชี คนทำก็กลายเป็นฮีโร่ ในส่วนองค์กรปกครองสงฆ์ก็เงียบกริบไร้เสียงกระแอมกระไอ

กล่าวในส่วนของสื่อทั้งหลายว่าเวลานี้ บัดนี้ทุกสื่อ ทุกสำนักต่างมุ่งโหมโรง มุ่งกระพือ ขายข่าว ขายวิว ขายความรวดเร็ว เข้าถึง เจาะลึกกันพัลวันโดยเอาความมันส์ ความสะใจและยอดคนเข้าอ่าน เข้าชม เข้าเม้นต์เข้าแชร์ ส่วนผู้อ่านข่าวก็ต้องใส่สี ตีข่าว ท่าทาง แอคติ้งให้น่าชมสุดๆ รวมทั้งการด่าทอ เหน็บแนม เย้ยหยัน

ทั้งหมดนี้ทำให้แรดติ้งของแต่ละช่องพุ่งกระฉูด โฆษณาวิ่งเข้าชน สื่อจึงเอาตัวชี้วัดเหล่านี้เป็นตัวตั้งโดยไม่เคยคำนึงถึงความผิด ความถูกหรือคุณธรรม ศีลธรรมอันดีงามและความเสียหายที่ตามมาทั้งต่อตัวบุคคลและสถาบัน สื่อจึงให้น้ำหนักต่อสิ่งเหล่านี้น้อยมากทั้งที่ควรจะเป็นจรรยาบรรณหลักของสำนักข่าวทั้งหลายทั้งปวง

กล่าวในฝ่ายรัฐ ฝ่ายตำรวจอีกรอบหนึ่งว่าชาวพุทธและองค์กรพุทธทั้งหลายที่เขาตั้งคำถามว่าท่านจะ“ไล่ล่า“ เฉพาะพระสงฆ์ในพระพุทธศานาเท่านั้นหรือ ทำไมนักบวช ในศาสนาอื่น องค์กรต่างๆ
ในศาสนาอื่น ความประพฤติของนักบวชในศาสนาอื่น เงินบริจาคด้วยศรัทธาในศาสนาอื่นมันจึงไม่มีปัญหาใด ๆ เลย ท่านเหล่านั้นอยู่กันอย่างสุขสบาย ไม่มีการตรวจสอบใด ๆ ทั้งสิ้น ในขณะที่พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา  ทำไม”มันอยู่กันลำบากเหลือเกิน“

ในส่วนของคณะสงฆ์อยากจะตั้งคำถามว่าเวลาและนาทีนี้ท่านคิดว่าพระสงฆ์มีภัยคุกคามหรือยัง ภัยมันเข้ามาเบียดเบียนบรรดาลูก ๆ ของท่านหรือยังเจ้าคณะผู้ปกครองทั้งหลายท่านยังอยู่สุขสบายดีอยู่ไหม วันนี้คนเข้ามาบวชเป็นศาสนทายาทก็น้อยลง พระที่มีอยู่ก็อยากจะสึกเป็นจำนวนมาก ไม่เว้นแม้แต่พระผู้ใหญ่หรือพระเถระที่มีสมณศักดิ์สูงต่างก็เอ่ยปากกันทั้งนั้น วันนี้ทุกรูปต่างก็เบื่อหน่ายต่อสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่อย่างเดียวดาย ไร้ที่พึง ไม่มีอนาคต อยู่อย่างกดดันโดยไม่มีใคร องค์กรใหนออกมาปกป้องลูกหลานและสถาบันของตัวเองเลย อนิจจา.!!

การพระศาสนาวันนี้ยังมีทางออก ยังมีทางแก้ รัฐบาล มหาเถรสมาคม ตำรวจ ฝ่ายความมั่นคงและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติควรจะตั้งโต๊ะเจรจา หาทางออกที่ดีที่สุดร่วมกัน โดยยึดหลักพระธรรมวินัย กฎหมาย และจารีตประเพณีอันดีงามของไทยเป็นตัวตั้งบนหลัก “องค์กรใหน ไม่มีสิทธิปกครองตนเองได้ องค์กรนั้นก็ยากจะอยู่ได้..”

ขอขอบคุณบทความ “เงาทะมึน..?? โดย เปรียญสิบ ที่กระตุ้นเตือนคณะสงฆ์ ขาวพุทธ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านและทำให้ขยายมาสู่บทความนี้

โดย..นายนิรนาม

Leave a Reply