“นิยม”ส.ส.เพื่อไทยลั่นต้องจับให้ได้! มือฆ่าพระชัยภูมิขณะเดินจงกรม

เมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2564 นายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ที่ปรึกษาอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาด้านพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ พระสุริยา วงค์สมบัติ อายุ 45 ปี สำนักสงฆ์บ้านป่าผึ้ง ต.ห้วยยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ถูกฆาตรกรใช้ของแข็งทุบศีรษะ ขณะเดินจงกรมจนเป็นเหตุถึงแก่มรณภาพว่า เรื่องนี้ตนในฐานะที่เป็นชาวพุทธยอมไม่ได้ อย่างไรเสียจะต้องนำคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้

นายนิยม กล่าวต่อว่า ตนได้โทรศัพท์ไปสอบถาม จาก พ.ต.อ.ไพโรจน์ ขุนหมื่น รอง ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ ถึงความเป็นมาเป็นไป ทราบความว่า น่าจะเป็นคนติดยาเสพติด ในหมู่บ้านละแวกนั้นที่เข้ามาโจรกรรมทรัพย์ จากพระสงฆ์ดังกล่าวแต่พระสงฆ์ไม่ถือโทษแจ้งความ จึงก่อเหตุซ้ำหลายครั้ง เหตุการณ์เช่นนี้หากเกิดขึ้นที่ต่างประเทศจะถือว่าคนร้ายเป็นภัยต่อสังคม ถ้าจับได้จะขังลืม แล้วให้ความชราลงโทษให้คนกลุ่มนี้อ่อนแรงลง

เบื้องต้น พ.ต.อ.ไพโรจน์ คาดว่าจะจับคนร้ายได้ในวันสองวันนี้ ตนจึงอยากให้วงการสงฆ์ให้ความสำคัญกับพระคิลานุปัฏฐากและพระวินยาธิการ เพื่อช่วยเหลือและเป็นหูเป็นตาให้กันและกันในสังคมพระสงฆ์

หากพระสงฆ์ได้รับความเจ็บป่วยแล้วในสมัยครั้งพุทธกาล พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงให้ความสำคัญกับการดูแลพระสงฆ์ด้วยกัน ดังในกรณีภิกษุรูปหนึ่งอาพาธเป็นโรคท้องร่วง นอนจมกองมูตรกองคูถ จากเหตุการณ์นั้นพระพุทธองค์และพระอานนท์ ได้ให้ความช่วยเหลือกับภิกษุดังกล่าว และทรงตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอไม่มีมารดาไม่มีบิดา ผู้ใดเล่าจะพึงพยาบาลพวกเธอ ถ้าพวกเธอจักไม่พยาบาลกันเอง ใครเล่าจักพยาบาล ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดจะพึงอุปัฏฐากเรา ผู้นั้นพึงพยาบาลภิกษุอาพาธ ถ้ามีอุปัชฌายะ อุปัชฌายะพึงพยาบาลจนตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะหาย ถ้ามีอาจารย์ อาจารย์พึงพยาบาลจนตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะหาย ถ้ามีสัทธิวิหาริก สัทธิวิหาริกพึงพยาบาลจนตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะหาย ถ้ามีอันเตวาสิก อันเตวาสิกพึงพยาบาล จนตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะหาย ถ้ามีภิกษุผู้ร่วมอุปัชฌายะ ภิกษุผู้ร่วมอุปัชฌายะพึงพยาบาล จนตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะหาย ถ้ามีภิกษุผู้ร่วมอาจารย์ ภิกษุผู้ร่วมอาจารย์พึงพยาบาลจนตลอด ชีวิต หรือจนกว่าจะหาย ถ้าไม่มีอุปัชฌายะ อาจารย์ สัทธิวิหาริก อันเตวาสิก ภิกษุผู้ร่วมอุปัชฌายะ หรือภิกษุผู้ร่วมอาจารย์ สงฆ์ต้องพยาบาล ถ้าไม่พยาบาล ต้องอาบัติทุกกฏ

นายนิยม กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้แม้ไม่เกี่ยวกับพระสงฆ์อาพาธโดยตรง แต่จะเห็นว่าพระพุทธเจ้าทรงให้ความสำคัญกับการดูแลกันและกันในหมู่สงฆ์ จากกรณีที่พระสงฆ์เดินจงกรมแล้วถูกฆาตกรรมจะเห็นว่าคนร้ายเล็งเห็นผลต่อความตายของพระสงฆ์ ตนฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกันจับผู้ร้ายมาดำเนินคดี หากภายในอาทิตย์หน้าไม่มีความคืบหน้าในคดี ตนจะยื่นกระทู้ถามสดต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ถึงมาตรการที่จะจับคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้

Leave a Reply